คราวนี้ลองใหม่… หลับตา…พร้อมๆกับกระแสลมอีกระลอกที่สาดโครมเข้ามาอย่างไม่มีที่มาที่ไป ใบไม้แห้งกรอบร่วงกราวลงมา จากต้นชมพู่ กิ่งก้านราวกับถูกขยับขย่มด้วยมือที่มองไม่เห็น กระแสลมหมุนม้วนลากใบไม้แห้งเสียงดังแกรกกรากขึ้นจากพื้น จากนั้นใบไม้ก็ลิ่วคว้างขึ้นไปกลางอากาศ ราวกับมีมือที่มองไม่เห็นกอบมันโยนขึ้นจากพื้นอีกครั้ง “ลมบ้าหมู” ลุงเกษมเผลอรำพึงขึ้นมาลอยๆ ป้าสำอางตีผัวะไปที่ต้นแขนของสามี ดุเบาๆว่า “อย่าทัก” ดวงตาของตอกเตอร์มโนยังหลับพริ้ม ภาพที่ถ่ายทอดจากการสัมผัสก็เลือนรางเหลือเกิน หากก็พอจะเห็นภาพโดยรวมว่าเหตุเกิดที่ศาลาริมน้ำ ‘ในคืนที่แสงเดือนฉายกราดไปเหนือผิวน้ำ แลเห็นเรือนไทยหลังใหญ่ตระหง่านง้ำอยู่เป็นฉากหลัง ขณะนั้นยังไม่เห็นว่ามีคน แต่ที่รับรู้ได้รุนแรงคืออารมณ์พิโรธโกรธแค้น ในภาพที่เห็น…มีแต่กลิ่น