“โหล ๆ หนึ่งโหล ฉองโหล ฉามโหล คุงย่าคงฉวยของปลีอยู่ไหน ยับฉาย ๆ หน่อยฮับ” “คุงย่าคงฉวยของปลังยับฉายหยางชายคงหย่อหน่อยฮับ อาโหล ๆ คุงย่าอาโหลหน่อยฮับ” “ย่ารับสายตั้งนานแล้วค่ะ ทำไมวันนี้ตื่นกันเร็วคะ พระอาทิตย์ยังไม่ยิ้มแฉ่งเลย” เอวาแปลกใจที่หลานชายโทร.มาหาตั้งแต่ตะวันยังไม่โผล่พ้นขอบฟ้า เสียงใสเจื้อยแจ้วแข่งกับเสียงนกกาที่โบยบินออกหาอาหาร “ปลียิ้มแฉ่งฮับ” “ปลังยิ้มแฉ่งแย้วฮับ” “ปลีกับปลังเปิดกล้องค่ะ ขอย่าดูคนหล่อยิ้มแฉ่งหน่อยซิว่าจะหล่อแค่ไหน” “ยิ้มแฉ่งยอคุงย่าเยย” เสียงสดใสของปลีกับปลังยังเจื้อยแจ้ว ปลายนิ้วชี้ป้อม ๆ จิ้มไปที่หน้าจอโทรศัพท์เพื่อเปิดกล้อง ทันทีที่ปรากฏใบหน้าก็มาพร้อมกับรอยยิ้มที่ไม่ว่าใครได้เห็นก็ต้องยิ้มตาม “ยิ้มแฉ่งแล้วหล่อที่สุดเลยค่ะ” เอวาชมความน่ารักของหลานชายตัวน้อย “ดีเอ็งเอดีฮับ” “ปลีหย่อเหมืองปะป๊า” “ปลังน่ายักเหมืองหม่าม้า” “ปลีน่ายักเหมืองคุงย่า

