“คุณหมอกลับมาแล้วค่ะคุณย่า” เสียงตะโกนของขนิมทำให้วาสะดุ้งตื่นเพราะเผลอหลับไปหลังจากนั่งหลังขดหลังแข็งตรวจบัญชีช่วยคุณย่าทั้งบ่าย
เมื่อหญิงสาวได้ยินว่าคุณหมอมาแล้ว เธอจึงรีบเดินขึ้นไปยังห้องพระที่ประตูหน้าต่างนั้นสามารถมองไปเห็นเรือนเล็กได้ถนัดตา
วาเห็นชายหนุ่มเดินเข้าไปในบ้านก่อนจะถอดเสื้อกาวน์ฝึกงานออกแล้วเปลี่ยนเป็นเสื้อยืด หญิงสาวที่เห็นแบบนั้นก็รีบก้มตัวหลบด้วยความเขิน
“พระคะ ลูกแค่อยากรู้ว่าพี่เค้าทำอะไรอยู่ ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีนะคะ” วารีบยกมือไหว้พระก่อนจะเดินลงไปหาเจ้าตูบทั้งสี่ตัวที่กำลังนอนตากแอร์เล่นอย่างมีแผน
“ไปเดินเล่นได้แล้วเจ้าพวกขี้เกียจทั้งหลาย”
วาเรียกแก๊งเจ้าตูบก่อนจะพาพวกมันวิ่งออกจากบ้านไปแถวๆ เรือนเล็ก หญิงสาวไปหยุดอยู่ตรงสนามหญ้าหน้าเรือนเล็กแล้วเล่นโยนบอลกับผองเพื่อนหมา เมื่อชายหนุ่มได้ยินเสียงวากับเจ้าตูบเขาก็เดินออกมาตามที่วาคาดไว้ไม่มีผิด เจ้าเปี๊ยกก็ช่างรู้งานรีบวิ่งกระดิกหางเข้าไปหาพี่เบลล์ทันทีซึ่งชายหนุ่มเองก็ใจดีนั่งลงเกาขนให้อย่างเอ็นดู
“พี่เบลล์อยากเล่นกับมันมั้ยคะ” วาเดินมาหาแล้วยื่นลูกบอลให้
ชายหนุ่มเผลอยิ้มให้เธออย่างอารมณ์ดี พอมีเหล่าน้องหมาพี่เบลล์ก็ไม่ทำหน้านิ่งใส่เธอแล้ว เขาโยนลูกบอลให้น้องหมาตัวแล้วตัวเหล่าจนมันเหนื่อยหมดแรงนอนพักบนหญ้านุ่มๆ ข้างชายหนุ่ม
“ที่บ้านพี่เบลล์มีหมากี่ตัวเหรอคะ”
“ไม่มีครับ ที่บ้านไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์น่ะ”
“โหหหห อดเลย เอางี้ พี่เบลล์เล่นกับเพื่อนวาได้ตามสบายเลยนะคะ หมาของวาก็เหมือนหมาของพี่เบลล์นั่นแหละ”
“……”
ชายหนุ่มจ้องมองหญิงสาวที่กำลังส่งยิ้มให้อย่างสดใส ก่อนที่เธอแกล้งหลบตาแล้วหันไปเล่นกับน้องหมาอย่างน่ารักเพื่อโชว์มุมอ่อนโยนของตนเองให้พี่เบลล์ได้เห็น
“พี่เบลล์มาฝึกงานไกลๆ แบบนี้ไม่คิดถึงแฟนแย่เหรอคะ”
“….”
“ไม่ตอบแบบนี้แสดงว่าถึงคิดถึงใจจะขาดละ”
“พี่ไม่มีแฟน”
กรี๊ดดดดดดด เหมือนมีคนมาจุดพลุกลางหัวใจของวา
“ดีจัง…วาชอบนะคะ…ชอบเล่นกับหมาน่ะ” วาพูดเบาๆ พลางเกาหัวให้น้องหมาเฟรนซ์บลูด็อกของเธอ
“คุณวา คุณนักเรียนหมอ คุณย่าให้มาตามไปทานข้าวค่ะ”
“จ้ะ ไปกันเถอะค่ะ” วาหันมาชวนชายหนุ่มซึ่งเขาก็พยักหน้ารับก่อนจะลุกขึ้นเดินตามหลังขนิมไปยังเรือนใหญ่
ทั้งสองเดินเข้ามาในห้องอาหารที่มีกับข้าวเพิ่งปรุงเสร็จเต็มโต๊ะส่งกลิ่นหอมชวนหิว
“น่ากินทุกอย่างเลยค่ะ” วาเอ่ยเอาใจคุณย่าสุดที่รัก
“อย่ากินเยอะนักนะเราน่ะ” คุณย่าเตือน
“วากินน้อยต่างหาก”
“คุณลุงหมออย่าทานเยอะนะคะ คุณย่าเตือน” วาหันไปดุคุณลุง
“ทานน้อยไม่ได้ เดี๋ยวก็งอนอีก” คุณลุงหมอแซวมารดาของตน
ทั้งสี่ทานข้าวด้วยกันอย่างเอร็ดอร่อยก่อนที่คุณลุงหมอจะเอ่ยถามคุณย่า
“แล้วเรื่องบ้านสวน คุณย่าจะเอายังไงครับ”
“ก็เอาไว้นั่นแหละ ให้คนงานไปทำความสะอาดอาทิตย์ละครั้งก็พอ ไม่ต้องขายหรอก เผื่อเอาไว้ให้ลูกหมอ”
คุณลุงหมอสำลัก อย่าว่าแต่ลูกเลยเมียยังไม่รู้จะมีหรือเปล่า
“เก็บไว้ให้ลูกของวาน่าจะมีโอกาสกว่านะครับ”
ตาวาสำลักบ้าง คุณลุงหมอน่ะพูดอะไรก็ไม่รู้ ไม่เกรงใจว่าที่พ่อของลูกวาเลย
“ถ้างั้นก็เก็บไว้แล้วกันนะ จะลูกใครก็ขอให้มีเถอะ”
“แล้วพ่อหนุ่มเป็นยังไงบ้างล่ะ ฝึกงานน่ะ”
“ดีครับกำลังปรับตัว”
“ก็ตั้งใจเข้าล่ะ จบมาจะได้ช่วยเหลือคน”
“ครับ” เบลล์ตอบยิ้มๆ
หลังจากทานข้าวเสร็จเรียบร้อยชายหนุ่มจึงขอตัวกลับไปทบทวนตำรา ส่วนวาก็ขอตัวไปอาบน้ำนอนแต่หัววัน
แต่ทว่าหญิงสาวยังไม่ได้อาบน้ำเธอล้มตัวนอนบนเตียงแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาส่งข้อความหาใครบางคน
วา: Hi
วา: นอนยังคะ
จะเป็นใครไปซะอีกที่เธอกำลังส่งข้อความไปหาถ้าไม่ใช่...
พี่เบลล์
เฮ้อออออออ วาถอนหายใจก่อนจะนอนกลิ้งไปกลิ้งมา พี่เบลล์จะรู้สึกอึดอัดไหมนะที่เราทำแบบนี้ เราควรจะมีระยะห่างใช่มั้ย
ใช่...เราควรจะมีระยะห่าง
พี่เบลล์: ยังไม่นอนครับ
ระยะห่างเหรอ เอาไว้ก่อนละกัน
วา: ทำอะไรอยู่คะ
พี่เบลล์: อ่านหนังสือ
วา: ขยันจัง สู้ๆ นะคะ
พี่เบลล์: ครับ
‘ครับ’ นี่คือการจบบทสนทนาหรืออย่างไร อะไรกันเนี่ยเราอุตส่าห์เปิดทางแล้วแท้ๆ อย่าไปยอมวา สู้!
วา: พี่เบลล์จำร้านน้ำชาแถวโรงเรียนเก่าเราได้มั้ยคะ
พี่เบลล์: ครับ
วา: เสาร์นี้เราไปกินกันมั้ย
พี่เบลล์: พี่ไม่สะดวกครับ
เอ่อออออ ยังไม่ทันได้เกิดก็ถูกคุมกำเนิดซะแล้วเรา
วา: ฮือออออ โอเคค่ะ เศร้าเลย
พี่เบลล์: ….
วา: งั้นวานอนก่อนนะคะ ไม่กวนละ ชอบคุณนะคะ
วา: เฮ้ยยยย พิมพ์ผิดค่ะ ต้องเป็นขอบคุณนะคะ
พี่เบลล์: เรื่อง?
วารีบกดออกมาจากไลน์ไม่รู้จะตอบยังไง
พี่เบลล์: ว่าไงครับ เรื่องอะไร?
พี่เบลล์ก็นะวาไม่ได้จะบอกขอบคุณแต่แรกอยู่แล้ว วาจะบอกว่าชอบคุณต่างหาก ทำมาเป็นไร้เดียงสา บ้าๆๆๆ
หญิงสาวยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่ได้คุยกับรักแรกของเธอ ถือได้ว่าเป็นก้าวแรกของการได้มาซึ่งตำแหน่งภรรยาของคุณหมอเบลล์
วาลุกขึ้นไปอาบน้ำก่อนเตรียมเข้านอน คืนนี้สงสัยคงนอนหลับฝันดีเป็นแน่