ตอนที่ 8 กระดาษโน๊ตแผ่นนั้น

1122 คำ
ด้วยความที่ตัวเองไม่มีญาติคนอื่นนอกจากน้าสาวกอปรกับที่เธอเป็นคนเพื่อนน้อยไม่ค่อยรู้จักใครมาแต่ไหนแต่ไร คนเดียวที่เธอนึกถึงและคิดหวังพึ่งพาอาศัยในตอนนี้ก็คือใบบัว แต่ก็ไม่รู้ว่าสาวรุ่นพี่จะช่วยเธอได้มากน้อยแค่ไหน เพราะใบบัวเองก็ลำบากไม่ต่างจากเธอ ตอนนี้เธอไม่ขออะไรมาก ขอให้ตัวเองมีที่อยู่ในละแวกนี้ไปจนกว่าจะสอบปลายภาคเสร็จ หลังจากนั้นก็ค่อยคิดหาทางกันอีกทีว่าจะเอายังไงต่อกับชีวิต นิรดากดโทรออกหาใบบัว รอสายไม่นานสาวรุ่นพี่ที่เธอสนิทด้วยก็รับสาย “ว่าไงนิ่ม?” “พี่ใบบัวอยู่บ้านหรือเปล่าคะ” เพราะใกล้จะสอบเธอก็เลยขอลางานกับเฮียสิงหาและซ้อกวางตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา ลาลากยาวไปจนกระทั่งจะสอบเสร็จทำให้เธอไม่ได้เจอกับสาวรุ่นพี่มาหลายวันแล้ว “พี่ไม่ได้อยู่บ้านหรอก ตอนนี้พี่อยู่ที่โรงพยาบาลน่ะ แม่พี่ลื่นล้มในห้องน้ำเข้าโรงพยาบาลได้สามสี่วันแล้ว” “แล้วคุณป้าเป็นอะไรมากมั้ยคะ” “ตอนนี้ปลอดภัยแล้วล่ะ แต่ก็คงต้องอยู่ดูอาการที่โรงพยาบาลอีกหลายวัน นิ่มโทรหาพี่มีอะไรหรือเปล่า” “เปล่าหรอกค่ะ นิ่มไม่เห็นพี่ใบบัวออนเฟซหลายวันก็เลยโทรหาน่ะคะ” นิรดารีบปฏิเสธก่อนจะหยิบยกเอาเรื่องที่เธอกับใบบัวคุยแซทกันบ่อยๆขึ้นมาพูดแทนเรื่องที่จะขอความช่วยเหลือจากอีกฝ่าย ใบบัวช่วยเธอมาเยอะแล้ว ตอนนี้ใบบัวเองก็กำลังมีเรื่องไม่สบายใจ เธอไม่อยากเอาปัญหาของตัวเองไปโยนให้อีกฝ่ายรับรู้ เพราะถ้าพี่ใบบัวรู้เรื่องที่เธอถูกน้าสาวลอยแพจะต้องเครียดและพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเธออย่างแน่นอน “อือ ช่วงนี้พี่ยุ่งๆ น่ะตั้งแต่วันที่แม่พี่เข้าโรงพยาบาลก็ไม่ได้ไปทำงานที่ร้านเฮียโทรศัพท์ก็แทบจะไม่ได้จับ พี่เป็นห่วงแม่มากจนไม่มีกระจิตกระใจทำอะไรเลยนิ่ม พี่กลัวมากเลยนิ่ม กลัวว่าแม่จะเป็นอะไรมากไปกว่านี้” นิรดาเข้าใจความรู้สึกนั้นดี เพราะเธอเคยผ่านช่วงเวลานั้นมาก่อน ตอนที่มารดาป่วยหนักเข้าโรงพยาบาลเธอก็ไม่มีกระจิตกระใจที่จะทำอะไรเช่นกัน “คุณป้าจะต้องไม่เป็นอะไรค่ะ คุณป้าจะต้องหายดี” “พี่ก็ภาวนาให้เป็นอย่างนั้น... เออนิ่ม แค่นี้ก่อนนะหมอเข้ามาตรวจแม่พี่แล้ว พี่ขอไปคุยกับหมอก่อน” “อ่อค่ะ ขอให้คุณป้าหายป่วยกลับมาแข็งแรงไวๆนะคะ ไว้นิ่มจะไปเยี่ยม” “ขอบใจมาก แต่ถ้านิ่มยุ่งก็ไม่ต้องมาหรอกนะ พี่รู้ว่าช่วงนี้นิ่มต้องเร่งอ่านหนังสือสอบ” “ค่ะ...” นิรดาถึงขั้นกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ขนาดตัวเองมีเรื่องเครียดก็ยังไม่วายเป็นห่วงเธอ เพราะแบบนี้ไงเธอถึงไม่กล้าที่จะเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟัง ใบบัววางสายไปแล้วแต่ทว่านิรดายังถือโทรศัพท์แนบไว้ที่หูไม่ขยับเขยื้อน นอกจากใบบัวแล้วเธอก็นึกไม่ออกว่าจะขอความช่วยเหลือจากใคร เธอเพิ่งจะเอาเงินเก็บเกือบทั้งหมดที่มีไปจ่ายค่าเทอมกับค่ากิจกรรมของทางโรงเรียนที่ค้างเอาไว้ทำให้ตอนนี้เหลือเงินไม่มาก ซึ่งเงินจำนวนนี้เธอแพลนเอาไว้เป็นค่าใช้จ่ายช่วงสอบที่ไม่ได้ไปทำงาน และตั้งใจเก็บเงินบางส่วนเอาไว้เป็นค่าสมัครสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่จะเปิดสมัครในอีกไม่กี่วันนี้ หรือต่อให้เอาเงินที่มีทั้งหมดในตอนนี้มาเป็นค่าเช่าห้องก็พอจ่ายได้เฉพาะค่าเช่ารายวัน ถ้าต้องเช่าห้องแบบรายเดือนที่มีทั้งค่าประกันห้องและค่ามัดจำห้องจะต้องใช้เงินมากกว่านี้ ซึ่งตอนนี้เงินที่เธอมีไม่เพียงพอ ก็อย่างที่บอกว่าเธอมีเพื่อนไม่มาก เพื่อนที่คบหากันก็ไม่ได้สนิทกันมากพอให้เธอกล้าที่จะเอ่ยปากขอความช่วยเหลือ นิรดากลับไปนั่งเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าด้วยความรู้สึกที่เศร้าหนักยิ่งกว่าเดิม สิ่งที่เธอกำลังเผชิญมันหนักหนาสาหัสจนเธอหมดแรง ต้องบอกเลยว่าตอนนี้เธอมืดแปดด้าน คิดไม่ออกจริงๆว่าจะทำยังไงกับชีวิตของตัวเองในตอนนี้ ผ่านคืนนี้ไปแล้ว พรุ่งนี้เธอจะไปอยู่ที่ไหน เมื่อเก็บเสื้อผ้าเสร็จก็หันไปจัดการกับหนังสือเรียนของตัวเองต่อ พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นกระดาษโน้ตแผ่นเล็กที่มีตัวเลขสิบตัววางอยู่บนชั้นหนังสือที่วางทับด้วยสมุดไดอารี่อีกที กระดาษโน้ตแผ่นนั้นทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างทอประกายความหวังขึ้นมาอีกครั้ง นิรดายื่นมือไปหยิบกระดาษโน้ตแผ่นนั้นมาถือไว้ มองตัวเลขที่อยู่บนกระดาษด้วยสายตานิ่ง เธอมองมันอยู่พักใหญ่ก่อนตัดสินใจกดโทรออกตามเบอร์โทรที่อยู่บนกระดาษ ครั้งแรกเธอโทรจนกระทั่งสายหลุดไปเองก็ไม่มีคนรับ นิรดากดโทรออกเป็นครั้งที่สอง ถือสายอยู่นานก็ยังไม่มีคนรับสาย จากคราแรกที่ใจเต้นแรงเริ่มมีความหวังหัวใจของเธอก็ค่อยๆห่อเหี่ยวลงเรื่อยๆ ยิ่งรอสายนานความหวังของเธอก็ลดน้อยถอยลงเรื่อยๆ จนเธอคิดว่าอีกไม่นานสัญญาณโทรศัพท์ก็คงจะถูกตัดไปเหมือนกับสายแรก “ครับ” เสียงที่ดังมาตามสายทำให้หัวใจที่ห่อเหี่ยวของนิรดาพองฟูขึ้นมาอีกครั้ง มือเรียวกำโทรศัพท์แน่น พูดกับปลายสายด้วยน้ำเสียงร้อนรนราวกับกลัวว่าถ้าไม่รีบพูดคนที่เธอโทรหาจะวางสายไปซะก่อน “สวัสดีค่ะ นี่ใช่เบอร์พี่พายหรือเปล่าคะ?” เธอจำโทนเสียงได้ มั่นใจว่ามันคือเสียงของพี่พายซึ่งเป็นโทนเสียงเดียวกันกับที่ได้ยินเขาด่าเพื่อนวันนั้น ทว่าที่ถามก็เพื่อความแน่ใจ “ครับ” “พี่พาย หนูนิ่มกำลังพูดสายนะคะ” นิรดาเลือกใช้คำเรียกแทนตัวเองเหมือนที่เคยใช้กับเขาสมัยที่ยังเป็นเด็ก “หนูนิ่ม?”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม