ตอนที่8 แค่ยอมรับชีวิตก็มีความสุข

1586 คำ
บ้านหลังเล็ก ๆ แถบชานเมือง เสียงลมหายใจเบา ๆ ดังสม่ำเสมอที่ตอนนี้เต็มไปด้วยแสงแดดอ่อน ๆ อัยวานั่งอยู่ตรงม้านั่งที่หน้าบ้าน มือของเธอคลำหาถ้วยชาอุ่น ๆ ที่วางอยู่ตรงหน้ามายกขึ้นจิบ กลิ่นชามิ้นต์ลอยขึ้นแตะปลายจมูกเบา ๆ แม้ดวงตาจะมองไม่เห็นแต่ประสาทสัมผัสส่วนอื่นก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าชีวิตมันตายไปจนไม่เหลืออะไรแล้ว “เช้านี้แดดดีจังเลยนะอชิ” “พี่รู้ได้ไงอะ มองไม่เห็นนี่” เสียงน้องชายแกล้งหยอกเบา ๆ ขณะยื่นขนมปังปิ้งมาให้กับพี่สาว ก่อนจะนั่งลงตรงข้ามกับพี่สาวด้วยอีกคน “ก็เพราะรู้สึกได้ มันอุ่น ๆ ตรงไหล่ขวานี่แหละอชิ” มือของอัยวาแตะที่ไหล่ของตัวเองเบา ๆ แล้วหัวเราะขึ้นอีกครั้ง มันไม่ใช่เสียงหัวเราะสดใสแบบวัยรุ่น แต่มันคือเสียงหัวเราะของคนที่เคยร้องไห้มานานจนไม่อยากจะร้องอีกต่อไปแล้วและเรียนรู้ที่จะใช้เสียงหัวเราะนี้กลบเสียงเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในชีวิตแทน ผ่านมาสี่ปีแล้วนับจากวันที่เธอยุติบทบาทแม่อุ้มบุญ โดยไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเรียกร้องอะไรหลังจากนั้น ลูกน้อยที่เธอเคยอุ้มท้องให้ป่านนี้คงใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ ชีวิตที่สดใสแม้จะแลกกับความมืดบอดที่ตัวเองมองไม่เห็นก็ตาม แต่วันนี้ชีวิตของเธอก็สงบขึ้น เธอยังมีหายใจ ยังชงชาได้ด้วยตัวเองได้อยู่ ยังเดินไปแตะดอกไม้ที่ปลูกไว้หน้าบ้านและยังได้ฟังเสียงหัวเราะของน้องชายที่ทำอาหารไหม้เกรียมเป็นประจำ สิ่งรอบตัวที่มีอยู่ทุกวันนี้แม้มันจะไม่ได้ดีมากมายอย่างที่เคยใฝ่ฝัน แต่เธอก็ยอมรับความจริงและอยู่กับมันให้มีความสุขในทุก ๆ วันที่ผ่านมา ชีวิตใหม่ของอัยวาไม่ใช่ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ แต่มันก็ไม่ใช่ชีวิตที่เธออยากหนีจากอีกต่อไปแล้ว แค่ยอมรับ แค่ปรับตัว อยู่ต่อไปให้ได้กับทุกความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับชีวิต “พรุ่งนี้ไปตลาดกันไหมพี่อัย ช่วงนี้พ่อค้าชอบแถมของให้สาวสวยที่มองไม่เห็น” “แน่ใจนะว่าแถมเพราะสวย ไม่ใช่เพราะสงสาร?” “โอ้ย...พูดแบบนี้อีกแล้ว พี่อัยของผมใครมองเขาก็ว่าน่ารักทั้งนั้นแหละ เชื่อสิ” อัยวายิ้มไม่ใช่เพราะเชื่อคำพูดนั้นทั้งหมด แต่เพราะในวันนี้เธอรู้สึกได้จริง ๆ ว่า ยังตัวเองมีคุณค่าแม้ไม่มีดวงตาให้มองเห็น แล้วจู่ ๆ ก็มีเสียงหัวเราะแหลมเล็กของเด็กหญิงคนหนึ่งดังลอดรั้วบ้านเข้ามาให้ได้ยิน อัยวาหยุดชะงักและเงี่ยหูฟังที่อยู่รอบตัวแทน “แม่ดูสิคะ หนูเขียนชื่อหนูได้แล้วนะ หนูเขียนให้แม่ดูนะคะ” เสียงใส ๆ ของเด็กหญิงวัยกี่ขวบก็ไม่อาจแน่ใจได้ ส่งเสียงเจื้อยแจ้วตามประสาเด็กที่ดูตื่นเต้นและมีเสียงหัวเราะของผู้หญิงอีกคนตอบกลับมาอย่างเอ็นดูเช่นกัน “เก่งที่สุดเลยลูกของแม่” อัยวาชะงักมือที่กำลังจะยกถ้วยชาขึ้นจิบ ริมฝีปากคลี่ยิ้มแต่กลับรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างจุกตันอยู่ที่ลำคอ เสียงของเด็กคนนั้นไม่ใช่เสียงที่เธอรู้จัก เพียงแค่นึกคิดว่าลูกสาวที่เคยอุ้มท้องให้คงจะน่ารักสดใสเหมือนกับเด็กน้อยที่คุยเจื้อยแจ้วอยู่ใกล้ ๆ เธอในตอนนี้ ‘หนูเขียนให้แม่ดูนะคะ’ เสียงนั้นยังคงสะท้อนอยู่ในโสตประสาท ราวกับจะไม่ยอมจางหายไปไหน อัยวาค่อย ๆ วางถ้วยชาลง แล้วสูดลมหายหายใจเข้าลึก ๆ นิ้วมือแตะดวงตาตัวเองเบา ๆ เหมือนจะห้ามไม่ให้น้ำตามันไหลออกมา เธอไม่ได้ร้องไห้ แต่หัวใจเธอเหมือนหายใจช้าลงอีกหนึ่งจังหวะ เสียงเด็กหญิงจากบ้านข้าง ๆ เงียบลงไปนานแล้ว แต่ในใจของอัยวา เสียงนั้นยังดังชัดเจน ชวนให้นึกถึง ชวนให้คิดถึงอีกคนที่อยู่ไกลแสนไกล “พี่อัยเป็นอะไรอีกเนี่ย อยู่ดี ๆ ก็ซึม เมื่อกี้ยังหัวเราะอารมณ์ดีอยู่เลยนะ” อชิยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ส่ายหัวให้กับพี่สาวไปมาเบา ๆ “ได้ยินเสียงเด็กแล้วมันนึกถึงใครบางคน ไม่มีอะไรหรอก พี่ไม่ได้เป็นอะไรเลย” “จะว่าไปเขาก็คงโตแล้วนะพี่ ผ่านมา 4 ปีแล้วก็ต้อง 4 ขวบแล้วสิใช่ไหม?” “อืม...พี่ยังจำวันเกิดเขาได้ดีเลยนะอชิ” “ไม่เอาไม่พูดแล้วดีกว่า พูดเรื่องนี้มาทีไรพี่อัยก็จะเศร้าทุกทีเลยอะ” อัยวาพยักหน้าเบา ๆ อชิยิ้มกว้างขึ้นมาอีกครั้ง “เออนี่พี่อัย วันก่อนผมไปเจอศูนย์เด็กเล็กแถววัดท้ายซอยอะพี่ เขากำลังหาคนช่วยอ่านนิทานให้เด็ก ๆ ฟังที่โรงเรียน” อัยวาขมวดคิ้วนิด ๆ และอชิก็รีบพูดต่อเพื่อไม่ให้ขาดตอน “ไม่ต้องทำอะไรหนักเลยนะพี่อัย แค่นั่งอ่านนิทานให้เด็กฟังเฉย ๆ ถ้าพี่อัยอยากจะทำอะไรแบบนั้น ผมจะไปนั่งเป็นกำลังใจข้าง ๆ ด้วยก็ได้นะ ดีไหมครับ?” อัยวายิ้มรับ สิ่งที่น้องชายนำมาเสนอวันนี้ฟังดูน่าสนใจอยู่ไม่น้อย “เด็กน่ารักมากเลยพี่ บางคนยังพูดไม่ชัดด้วยซ้ำนะ เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กมันอาจจะทำให้พี่มีความสุขมากขึ้นมากกว่าทุกวันนี้ก็ได้” “พี่ว่าพี่คงจะชอบ พี่สนใจอยู่นะอชิ พี่ชอบเสียงหัวเราะของเด็ก อบอุ่นและสดใส อยู่ใกล้ก็คงจะมีแต่รอยยิ้มใช่ไหมล่ะ?” อัยวายิ้มเมื่อนึกถึงความสุขที่จะเกิดขึ้น “พี่ไม่ต้องรีบตอบก็ได้ แต่ถ้าพี่เลือกที่จะไป ผมเชื่อว่าเด็กพวกนั้นจะรักพี่อัยมากแน่นอน เพราะแม้พี่จะมองไม่เห็นพวกเขา แต่หัวใจของพี่กลับมองเห็นได้ชัดเจนยิ่งกว่าคนไหน ๆ บนโลกนี้อีก” น้ำตาหยดลงบนตักอีกครั้ง อัยวาไม่ได้ร้องไห้เพราะความเจ็บปวด แต่เพราะแสงสว่างในชีวิตเริ่มส่องขึ้นอีกครั้ง หลายวันผ่านไป วันนี้เป็นวันธรรมดา อชิชวนพี่สาวไปเดินเล่นที่ศูนย์ชุมชนใกล้บ้าน เสียงเด็ก ๆ วิ่งเล่น หัวเราะและวิ่งชนกันจนล้มและที่มุมเล็ก ๆ ใต้ต้นพิกุลก็มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งกำลังอ่านนิทานออกไมค์โครโฟน “และแล้วเจ้ากระต่ายน้อยก็เรียนรู้ว่า การรอคอยไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อ ถ้ามีความหวังอยู่ในหัวใจ” เสียงนั้นไม่ได้ไพเราะ แต่เด็ก ๆ เงียบฟังกันหมด อัยวาจับมืออชิแน่นโดยไม่รู้ตัว “ที่นี่เหรอ ที่อชิพูดถึงเมื่อวันก่อนน่ะ?” “ใช่พี่อัย มีเด็กเล็กเกือบจะ 20 คนแน่ะ เขากำลังนั่งฟังครูอ่านนิทานกันอยู่ นั่งฟังตาแป๋วเชียว ดูจะมีความสุขมากเลยนะพี่ ถ้าเป็นพี่อัยเล่าเสียงพี่เพราะน่าฟังมากกว่านี้ร้อยเท่าเลย พี่คิดดูนะว่าเด็ก ๆ เขาจะมีความสุขมากแค่ไหนเวลาที่ได้ยินเสียงไพเราะคอยนั่งอ่านนิทานให้ฟัง” วันนั้นเองที่อัยวารู้ว่าเธอคิดถึงเสียงแบบนี้มากแค่ไหน เสียงของนิทาน เสียงของเด็ก ๆ เสียงของหัวใจที่ไม่กลัวความเงียบอีกต่อไป สัปดาห์ต่อมา อัยวากลับมาที่นั่นอีกครั้ง คราวนี้เธอพกสมุดนิทานเล่มบาง ๆ มาด้วย เล่มที่เธอรักและจำได้แม่นตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เสียงของเธอสั่นเล็กน้อยตอนที่เริ่มต้นเล่าไม่กี่ประโยค บางทีอาจเพราะความตื่นเต้นหรือบางทีเพราะความทรงจำที่ไหลย้อนกลับมา เด็กบางคนเงียบ เด็กบางคนหัวเราะเสียงดังจนชวนให้อมยิ้มตาม แต่สิ่งที่อัยวาจดจำได้ดีที่สุดคือมีมือเล็ก ๆ ของเด็กคนหนึ่งที่วางลงบนตักเธอ พร้อมเสียงกระซิบเบา ๆ “พี่อัยวามองไม่เห็นแต่เล่านิทานสนุกมากค่ะ” อัยวาถึงกับยิ้มกว้างเป็นคำชมเล็ก ๆ ที่ทำให้รู้สึกใจฟูมากอย่างบอกไม่ถูก “หนูชอบเสียงพี่มากเลยค่ะ เล่าอีกนะคะ หนูอยากฟัง” วันนั้นก็เลยเป็นวันที่อัยวาตัดสินใจแล้วว่าชีวิตนับจากวันนี้เธอจะเป็นความสุขเล่าเสียงผ่านโลกนิทานให้เด็ก ๆ ได้ฟัง อย่างน้อยชีวิตนี้ก็ได้ทำอะไรบ้าง ไม่ใช่อยู่รอวันที่จะสิ้นลมหายใจไปจากโลกใบนี้ เพราะนอกจากเด็ก ๆ จะมีความสุขแล้ว เธอเองก็เพิ่งจะค้นพบว่าความสุขที่อยู่ตรงหน้ามันคือความสุขที่เธออยากจะพบเจอทุกวัน วันนั้นอชิแอบถ่ายภาพเก็บไว้เงียบ ๆ พี่สาวของเขา ผู้หญิงที่เคยมีแต่รอยแผลในใจ กำลังนั่งอยู่ท่ามกลางเสียงหัวเราะสดใสของเด็ก ๆ และไม่รู้ตัวเลยว่าเวลาแสงแดดอ่อน ๆ ตอนเย็นตกกระทบร่างเธอสวยเหมือนนางฟ้าผู้ใจดีมากแค่ไหน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม