หลังเลิกงาน
“เอาจริงเหรอแซนดร้า”
หญิงสาวทั้งคู่ยืนอยู่ตรงประตูหลังร้านอย่างละล้าละลัง หากคนที่มีกริยาเช่นนี้มีเพียงอรนลินเท่านั้น หญิงสาวที่อยู่ในชุดเสื้อโค้ตตัวยาวสีตุ่นๆเพราะอากาศที่เย็นขึ้นของนิวยอร์กกำลังยืนทำหน้านิ่วคิ้วขมวด แต่เพื่อนของหล่อนกลับโบกมือว่อน ไม่สนใจอาการคล้ายไม่เห็นด้วยของเพื่อนสักนิด
“จริงๆ” เจ้าหล่อนย้ำเสียงหนักแน่น “ฉันว่าถึงมันจะฟังดูงี่เง่าไปนิดนะ แต่เชื่อเถอะว่า ถ้าเธอทำตามที่ฉันบอกมาร์คัสจะไม่สงสัยอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว” หล่อนว่าด้วยน้ำเสียงมั่นใจ ทำไมหล่อนจะไม่รู้จักมาร์คัสดีเล่า ถึงแม้เขาจะไม่ใช่ดารา หากความดังก็เทียบเท่า หล่อนซึ่งเป็นแฟนคลับของเขาย่อมรู้อยู่แล้วว่ามาร์คัสมีนิสัยเช่นไร ฉะนั้นอรนลินคิดถูกแล้วที่เชื่อมือหล่อน
“แต่ฉันว่า...”
“รับรองว่าไอ้ความบริสุทธิ์ของเธอมันจะอยู่ครบถ้วนทุกประการจริงๆ” หญิงสาวว่าเสียงรัวเร็ว ทำเอาอรนลินหน้าแดงซ่านกับคำพูดลุ่นๆของเพื่อน “เธอก็ได้ยินจากปากเขาเองไม่ใช่เหรอที่รักที่เขาบอกว่าเขาจะไม่ยุ่งกับสาวบริสุทธิ์น่ะ อันนี้เรื่องจริงนะจ๊ะ มาร์คัสประกาศเองเลยแล้วแฟนคลับนัมเบอร์วันอย่างฉันก็ขอยืนยัน!”
“มัน...บ้าที่สุด”
“เอาน่า...คิดซะว่าทำเพื่อแม่” แซนดร้าปลอบแล้วผลักไหล่ของอรนลินให้ออกเดิน
“แล้วถ้าฉันพลาดล่ะ” หากหญิงสาวยังไม่วายมีกังวล
“ฉันล่ะอยากให้เป็นอย่างนั้นใจจะขาด โอ้ว...แค่คิดภาพเธอกับพ่อหนุ่มแสนเร่าร้อนอย่างมาร์คัสบนเตียงกว้าง ว้าว!” แซนดร้าว่าพลางทำตาเคลิ้มฝัน ซึ่งแน่นอนว่าแม้หล่อนจะคิดเช่นนั้นจริงๆก็เห็นจะบอกอรนลินไม่ได้หรอก!
“เธอแกล้งฉันเหรอแซนดร้า!”
“ฮ่าๆ ฉันล้อเล่น” หญิงสาวพูดปัดๆไปให้พ้นตัว ไม่ให้อรนลินคิดมากแล้วจึงเอ่ยย้ำเป็นรอบที่สองว่า “เชื่อฉันสิ ถ้าตื่นมาปุ๊บแล้วเขาพบว่าเธอเป็นแค่แม่สาวบริสุทธิ์ รับรอง! มาร์คัสไม่มานั่งคิดหรอกว่าไอ้เมื่อคืนแสนเร่าร้อนน่ะ เขามีอะไรกับเธอหรือยัง?!”
“...”
“อย่าปอดไปเลยน่า แล้วไปตอบรับข้อเสนอเขาซะ”
พูดจบหล่อนก็ผลักไหล่เพื่อนให้ออกเดิน แล้วก้าวไม่กี่ก้าวพวกหล่อนก็เห็นร่างของลูกน้องคนสนิทของมาร์คัส เดวิดกำลังยืนดักรอหล่อนดังเช่นทุกวัน...แต่วันนี้ คำตอบมันจะต่างจากเดิม!
“มิสจารดี”
เพียงแค่เห็นหญิงสาวอยู่ในรัศมีพอได้ยินเดวิดก็รีบสาวเท้าเข้ามาหาอรนลินอย่างรวดเร็วพร้อกับเรียกหล่อนอย่างนอบน้อม อรนลินพยายามข่มอาการตื่นเต้น หากขณะเดียวกันก็คือความขยะแขยงตนเองให้มันลดน้อยลง แล้วคิดเสียว่าหล่อนทำทุกอย่างนี้เพื่อแม่...แม่เท่านั้น ท่องเอาไว้อรนลิน
“เจ้านายของคุณอยู่ไหน” หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อยที่พยายามข่มดีแล้ว “ฉันมีเรื่องจะพูดกับเขา”
“หา!” เดวิดตกใจ ถ้อยคำที่เตรียมจะกล่อมหญิงสาวตามข้อเสนอของมาร์คัสเป็นอันหุบฉับ จนอรนลินต้องถามซ้ำ
“มาร์คัส ฟาวเลอร์อยู่ไหน”
“เอ่อ...อยู่ที่โน่นครับ” เขาผายมือไปยังลีมูซีนที่จอดอยู่ไม่ไกล อันที่จริงมันจอดอยู่ตรงที่ครั้งแรกที่มาร์คัสเจรจากับหล่อนเลยทีเดียว “เชิญเลยครับ...เชิญ เจ้านายของผมคงจะดีใจมาก” เดวิดว่าด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น แน่นอนว่าไอ้งานเสี่ยงฝ่ามืออรหันต์(และเสียงด่าทอ)ของหญิงสาวของเขาก็จะจบลงเช่นกัน
อรนลินได้ฟังดังนั้นก็รู้สึกคล้ายอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก หากมีแก่ใจตอบโต้เดวิดที่เนื้อเต้นแทนเจ้านาย
“ใช่...ดีใจจนเนื้อเต้นเชียวล่ะ”
ทันทีที่ถูกพาตัวมาอยู่ในรถคันหรูสองต่อสองกับบุรุษ หนุ่มที่พูดได้เต็มปากว่างามทั้งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ แต่คราวนี้หล่อนไม่มีความรู้สึกราวกับว่าเขาคือเทพบุตรที่แสนจะดูดีดังเช่นคราวแรก แม้อาการตื่นเต้นมันจะมีหากมันมีความหวาดกลัวและสมเพชตนเองเจืออยู่เยอะกว่า นั่นทำให้อรนลินมีทีท่าสงบนักยามเมื่อเผชิญหน้ากับคนที่ได้ชื่อว่าร้ายกาจนักในขณะนี้
“มิสเตอร์ฟาวเลอร์” หญิงสาวเรียกชื่อเขาขึ้นด้วยท่าทีเป็นทางการเมื่อเห็นว่าเวลาหลายนาทีที่ผ่านไป หวังจะให้เขาเอ่ยไรขึ้นมาก่อนมาร์คัสก็ไม่เห็นกระทำ ทำให้หญิงสาวตัดสินใจขยับริมฝีปากตนเตรียมจะเอ่ยขึ้น
หากมาร์คัสกลับมองหล่อยยิ้มๆและขัดคอหล่อนว่า
“ว้าว...ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เธอจะมานั่งอยู่ตรงหน้าฉันตอนนี้นะอรนลิน”
“ฉันอยากจะถามคุณว่า...” อรนลินพยายามข่มใจกับใบหน้ายิ้มหยันของเขา ดวงตาสีน้ำตาลของหล่อนเต็มไปด้วยแววเย็นชาแล้วถามเขาว่า “...ข้อเสนอล่าสุดของคุณยังเหมือนเดิมหรือเปล่า?”
มาร์คัสมองร่างเล็กที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อโค้ตตัวใหญ่แล้วว่า
“ถ้าเธอตกลง...ฉันเพิ่มให้เธออีกเท่านึงเลย”
“งั้น...”
“...”
“ดิฉันตกลง”
สิ้นคำพูดของหญิงสาว รอยยิ้มกว้างก็ประดับอยู่บนใบหน้าคมคายสีแทนราวกับนักรบโบราณของมาร์คัส ชายหนุ่มกวาดตามองหล่อนไปทั่วเรือนร่างจนหญิงสาวถึงกับต้องนั่งห่อไหล่ด้วยความรู้สึกแปลกๆกับสายตาของเขา
“ดี...ดีจริงๆ” มาร์คัสพูดอยู่แค่นั้น อรนลินจึงขอยื่นข้อเสนอของหล่อนต่อทันทีว่า
“ดิฉันขอมัดจำครึ่งหนึ่งก่อนได้ไหมคะ?”
ว่าแล้วหล่อนก็มองเขาด้วยสายตามีความหวัง ด้วยกลัวเขาจะบ่ายเบี่ยง
“ยิ่งกว่าได้ซะอีก” มาร์คัสกลับยักไหล่แล้วคว้าสมุดเช็คมาเซ็นปราดๆให้หล่อนอย่างรวดเร็วและไม่ต่อรอง
“ขอบคุณค่ะ”
หญิงสาวรับเช็คใบเล็กนั้นก็พับครึ่งยัดลงในกระเป๋าเสื้อโค้ตสีตุ่นมอซอของหล่อนอย่างรวดเร็ว แวบหนึ่งในดวงตามาร์คัสมองหญิงสาวอย่างดูถูก
สุดท้ายก็หยิ่งไม่ตลอดเจอเงินเยอะๆเข้าหน่อยมันก็แค่นั้นแหละ...สงสัยคงรู้ว่าเขาสนใจหล่อนมากจึงโก่งค่าตัวตนเองเสียสูงลิบแบบนี้ แต่เอาเถอะ เขาก็มีเงินออกมากมายใช้ทั้งชาติก็ไม่หมด ที่หล่อนได้ไปก็ไม่ทำให้ขนหน้าแข้งเขาร่วงหรือกระทบกระเทือนอะไรเลย แค่นี้เขาไม่เสียดาย แต่เขาก็จะเก็บผลของมันคืนจากหล่อนให้คุ้มเลยเชียว หน้าตาท่าทางหล่อนก็คงจะเชี่ยวชาญพอตัวเชียวหล่ะ! สวยๆแบบนี้จะให้เขาคิดว่าหล่อนไม่มีเพื่อนผู้ชายเลยก็คงยาก!
“พรุ่งนี้ฉันจะไปรับเธอที่พักเธอแล้วกัน หวังว่าฉันจะได้พบกับความประทับใจนะ”
มาร์คัสว่า แล้วยื่นกระดาษกับปากกาให้หญิงสาวจดที่อยู่หล่อนให้เขา อรนลินไม่เกี่ยงงอน จดเสร็จก็ส่งคืนทั้งสองอย่างนั้นให้เขาแต่โดยดี
“แน่นอนค่ะ” หญิงสาวรับคำเสียงหนักแน่น...แน่นอนว่าหล่อนจะทำให้เขาประทับใจจนลืมไม่ลงเลยทีเดียว
“เออ...ฉันลืมถามไปเลย แต่ถึงแม้ฉันออกจะแน่ใจว่าเธอไม่ใช่ แต่ถามเพื่อความชัวร์จะดีกว่า”
มาร์คัสพูดอย่างนึกขึ้นได้เมื่อเห็นหญิงสาวทำท่าจะลงจากรถ ทำเอาอรนลินชะงักแล้วมองเขาอย่างไม่แน่ใจว่าเขาจะถามอะไร?
“...คะ?”
“เธอไม่ใช่พวกแม่สาวบริสุทธิ์เรื่องมากพวกนั้นใช่ไหม?” เขาถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง แววตาไม่มีเค้าของการล้อเล่นหรืออะไรสักอย่างที่บ่งบอกว่าเขาพูดเล่น ทำเอาอรนลินถึงกับชะงักแต่ก็เดี๋ยวเดียวเท่านั้น
“อ๋อ...” หล่อนยิ้มแหยๆ “...ไม่ใช่แน่ๆค่ะ”
หล่อนตอบเขาแต่ไม่พยายามสบตา ซึ่งมาร์คัสก็ไม่ได้เอะใจอะไร ชายหนุ่มยิ้มกริ่มมองหล่อนด้วยสายตาราวกับจะเปลือยกายหล่อนอีกครั้งแล้วว่า
“งั้นเจอกันพรุ่งนี้นะจ๊ะดาร์ลิ้ง” เขาว่าในขณะที่อรนลินรีบผลุนผลันลงจากรถลีมูซีนคันหรูนี้แล้วตอบเสียงเบาว่า
“ค่ะ เจอกันพรุ่งนี้”