เธอเดินโซซัดโซเซอย่างไม่รู้หนทาง เธอไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน ถ้าขืนเธอยังทำงานอยู่ที่เดิม เขาก็ต้องตามหาตัวเธอเจอ แล้วลูกในท้องของเธอก็จะไม่ปลอดภัย เขาผู้ซึงมีทุกอย่าง ในขณะที่เธอไม่มีอะไรไปต่อกรกับเขาได้ คราวนี้เธออาจจะต้องหนีไปไกล หนีไปในที่ที่ไม่คิดว่าจะมีใครหาเธอเจอ เพื่อปกป้องหนึ่งชีวิตน้อยๆ นี้ คนเป็นแม่อย่างเธอ ยินดีทำทุกอย่าง
หลังจากหมดเวลาไปครึ่งวัน เพียงตะวันก็ตัดสินใจขึ้นรถไฟไปทางภาคใต้ของไทย เธอเห็นประกาศรับสมัครงาน ซึ่งรับสมัครแม่ครัวประจำรีสอร์ท เธอจึงคิดว่าจะไปสมัครงานที่นั่น ตอนนี้เธอไม่สามารถเลือกงานได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นงานอะไรเพียงตะวันก็ต้องทำได้ ขอเพียงแค่ว่างานนั้นเป็นงานสุจริต เธอก็ยินดีทำ และที่สำคัญงานแม่ครัวที่เธอกำลังจะไปสมัครนั้น มีทั้งข้าวสามมื้อและที่พักให้เธอด้วย มันคงจะดีสำหรับการเริ่มต้นใหม่ของเธอเอง ที่มีเงินอยู่ในบัญชีเพียงน้อยนิด
การตัดสินใจเดินทางไปที่ภาคใต้ครั้งนี้ มันเรียกว่าการไปตายเอาดาบหน้าด้วยซ้ำ เพียงตะวันไม่รู้เลยว่าเธอจะได้งานหรือเปล่า แต่ชีวิตที่อับจนหนทางเช่นเธอ ต่อให้หนทางข้างหน้ามันมืดมนเพียงใด เธอก็ต้องเดินฝ่ามันไป ด้วยความหวังที่ว่าปลายทางข้างหน้าจะมีแสงสว่างอันรำไรรออยู่
การเดินทางที่แสนยาวนานจบสิ้นลง เมื่อหญิงสาวมาถึงที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และเธอก็อาศัยต่อเรือข้ามไปที่เกาะสมุย ซึ่งเป็นที่ตั้งของรีสอร์ททรายแก้ว ซึ่งเป็นรีสอร์ทเล็กๆ อยู่ที่เกาะสมุย กว่าที่เพียงตะวันจะมาถึงที่รีสอร์ททรายแล้ว เธอก็ทุลักทุเลพอสมควร เธอโชคดีที่ได้เจอเจ้าของรีสอร์ทใจดี ท่านเป็นหญิงวัยห้าสิบต้นๆ ชื่อว่ามุกดา เพียงตะวันเล่าความจริงเรื่องที่เธอตั้งครรภ์ให้เจ้าของรีสอร์ทฟัง เจ้าของรีสอร์ทเลยเมตตาให้เธอทำงานที่นี่ แม้ว่าจะรู้ว่าการับคนที่ตั้งครรภ์เข้ามาทำงาน มันมีข้อจำกัดเยอะ แต่เพราะคุณมุกดาเห็นแก่เด็กที่กำลังจะเกิดมา ท่านก็เลยยอมรับหญิงสาวเข้ามาทำงาน เพราะถ้าท่านไม่รับ ในเกาะนี้คงไม่มีใครรับหญิงสาวที่มีพันธะติดอย่างเพียงตะวันแน่นอน
เพียงตะวันได้เริ่มบทบาทใหม่ในชีวิต เธอทำงานด้วยความเหนื่อย แต่เธอก็มีความสุข ฝีมือการทำอาหารที่เธอได้มาจากมารดา ทำให้ลูกค้าที่มาพักที่รีสอร์ทติดใจอาหารของเธอ ซึ่งคุณมุกดาก็พอใจเป็นอย่างมาก และด้วยความน่าสงสารของเพียงตะวัน และประกอบกับคุณมุกดาเองก็ไม่มีครอบครัว ท่านจึงรักและเอ็นดูหญิงสาวเหมือนลูกสาวคนหนึ่ง ท่านซื้อนมและอาหารเพื่อบำรุงทารกในครรภ์ให้เธอ
นับว่าเพียงตะวันโชคดีมากที่ได้เจอคนอย่างท่าน บางครั้งสิ่งที่คุณมุกดาทำ มันก็ทำให้หญิงสาวสะท้อนใจเป็นอย่างมาก เพราะคนที่ทำให้ลูกเกิดมา เขากลับคิดกำจัดลูก ส่วนคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องแม้สักนิด เขากลับช่วยเหลือด้วยความจริงใจ แม้ว่าใจจะเจ็บปวดเท่าใด แต่เธอก็ขอตั้งปณิธานในใจว่าเธอจะไม่ขอให้อภัยผู้ชายเลวๆ อย่างกานต์
ส่วนทางด้านกานต์ เมื่อเห็นว่าเพียงตะวันหายไป เขาก็โกรธเธอเป็นอย่างมาก นี่เธอจงใจท้าทายเขาใช่มั้ย เธอจึงกล้าหนีไปทั้งที่เธอกำลังท้องลูกของเขาอยู่ นี่คงจะเก็บเด็กไว้แบล๊คเมล์เขาอย่างแน่นอน เขาต้องตามตัวเธอกลับมาให้ได้
วันนี้กานต์จึงเรียกนางพัดเข้าไปพบที่ห้องทำงานของเขา ลูกหนีไปที่ไหนมีหรือคนเป็นแม่อย่างนางพัดจะไม่รู้ เขาจะเค้นให้ได้ว่าเพียงตะวันหนีไปอยู่ไหน ก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายเกินแก้
“ตะวันย้ายไปไหนล่ะพัด” เสียงที่เอ่ยถามนั้นค่อนข้างเครียด