“ไม่ต้องการแกไม่ใช่หรือคะ อย่าลำบากใจเลยค่ะ” คนเจ็บปวดถามอย่างน้อยใจ ดวงตาแดงก่ำขึ้นมาราวกับมีเข็มนับพันมาทิ่มแทงมันปวดแปลบสุดหัวใจจนยากจะบรรยายออกมาได้
“ไหมครับ ผม...ไม่เคย...” แต่ทว่าไม่ทันที่ร่างสูงจะเอ่ยอธิบายได้จบประโยค พู่ไหมก็ปิดประตูไปเสียก่อน ชายหนุ่มยิ่งกังวล เพราะไม่อยากจะให้หญิงสาวคิดแบบนั้น แม้ทุกอย่างจะเริ่มจากสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แต่เขาก็รักลูก
ด้านคนช้ำใช้สองมือลูบลงที่ท้องอย่างเหนื่อยล้า เธอไม่รู้จริงๆว่าจะเข้มแข็งได้อีกนานแค่ไหน ทุกวันนี้ก็ฝืนมากเต็มทนแล้ว ก่อนที่พู่ไหมจะทิ้งตัวลงนอนเพื่อเก็บพลังไว้ต่อสู้กับวันพรุ่งขึ้น
วันรุ่งขึ้น...
เสียงติ๊ดๆดังขึ้นสองครั้งแสดงเตือนว่ามีข้อความเข้าทำให้คนตัวเล็กต้องละจากกองแฟ้มงานที่รับผิดชอบมาเปิดมันอ่าน ซึ่งพบว่าเป็นข้อความจากธามพู่ไหมเม้มริมฝีปากเล็กน้อยกับข้อความ
ก่อนจะพยายามห้ามใจตัวเองไม่ให้มีความหวัง เพราะหล่อนไม่อยากทุกข์ใจอีก อย่างไรเสียทุกอย่างที่เขาแสดงออกมาก็คือความหลอกลวง เขาไม่มีทางทำจริง
แม้จะคิดไปแบบนั้นแต่สุดท้ายหัวใจดวงน้อยกลับไม่รักดี มีประกายแห่งความหวังและดีใจ หล่อนอยากจะเชื่อเสียจริงว่าเขาก็ยังรักลูกอยู่บ้าง
“บ่ายโมงผมจะมารับไหมไปฝากครรภ์นะครับ เราจะไปเห็นหน้าลูกพร้อมกัน”
เมื่อใกล้เวลาเข้าไปทุกขณะ สายตาคู่เล็กก็เหลือบมองนาฬิกาพร้อมกับมองหน้าประตูห้องทำงานเป็นระยะ ทั้งที่พยายามสั่งให้ลืมข้อความนั่นไปซะเพราะมันไม่มีทางเป็นจริง
แต่สุดท้ายใจดวงน้อยกลับหวัง ยิ่งเหลือเวลาอีกไม่กี่นาทีก็จะถึงเวลานัดหัวใจดวงน้อยก็ยิ่งลุ้น แต่แล้วคนตัวเล็กก็ต้องเจ็บเหลือคณาอีกครั้งเพราะแม้ในตอนนี้จะเป็นเวลาบ่ายสองโมงตรงแล้วทว่าหล่อนก็ยังไม่เห็นแม้เงาของเขา หรือจะโทร.มาสักสายก็ยังไม่มี
ริมฝีปากอวบอิ่มเม้มเข้าหากันแน่นเพื่อซ่อนความเจ็บปวดเอาไว้ น้ำตาใกล้จะไหล แต่คนท้องก็บอกกับตัวเองว่าจะเข้มแข็ง เธอก็ต้องเข้มแข็ง แต่มันก็เจ็บจุกไปหมด
ก่อนร่างระหงจะลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานแล้วคว้ากระเป๋าใบเล็กขึ้นมาเพื่อไปฝากครรภ์ “แม่จะพาหนูไปฝากครรภ์เองนะคะ พ่อไม่มาก็ช่างเขา”
หญิงสาวบอกกับลูกน้อยในครรภ์แม้ปากจะบอกว่าช่างแต่ใจมันก็ร้าวไปทั้งดวง เจ้าหล่อนได้แต่ตัดพ้อว่าเหตุใดเขาถึงต้องหลอกหล่อนซ้ำซากอยู่แบบนี้เห็นว่าเธอคือท่อนไม้ที่ไร้ความรู้สึกหรืออย่างไร ความเสียใจไหลท่วมท้นทรวงอก
หญิงสาวเลือกโรงพยาบาลไม่ไกลจากบ้านพักมากนักเพราะกังวลใจเรื่องตอนท้องแก่การเดินทางก็คงยิ่งจะลำบาก แล้วการจะหวังพึ่งป้าของเธอก็คงไม่มีหวัง อีกเหตุผลหนึ่งที่หญิงสาวไม่เลือกโรงพยาบาลที่ธามหาไว้ให้เพราะหากหย่ากันแล้ว หล่อนก็ไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับคนใจร้ายอีก
สองเท้าหยุดลงยังจุดซักประวัติ หญิงสาวบอกความจำนงถึงการมายังสถานที่แห่งนี้ ไม่นานนางพยาบาลก็นำเอกสารมาให้กรอก สาวเจ้ากรอกรายละเอียดได้ครบถ้วนเว้นเพียงข้อเดียวที่เจ้าหล่อนชะงักไป หัวใจไหววูบ นั่นคือช่องกรอกชื่อบิดาของลูกน้อย มือน้อยที่กำลังกรอกข้อมูลถึงกับสั่น
ยิ่งมาเห็นสามีภรรยาคู่อื่นที่ต่างมาพร้อมกัน หญิงสาวก็มีอาการเจ็บลึกในหัวใจ แต่ไม่นานเจ้าหล่อนก็รีบยัดความรู้สึกนี้ใส่ลงไปในก้นบึ้ง แล้วตัดสินใจกรอกข้อมูลบางอย่างลงไป แต่มันไม่ใช่รายละเอียดชื่อ ทว่ามันคือเครื่องหมายยัติภาค(-)
ไม่นานนักนางพยาบาลก็มาเรียกให้เข้าไปพบคุณหมอสูตินรีแพทย์ หมอสาวซักข้อมูลพร้อมกับส่งตรวจปัสสาวะเพื่อยืนยันผลการตั้งครรภ์ ก่อนจะอธิบายถึงการดูแลตนเองและลูกน้อย แล้วส่งหญิงสาวไปตรวจอัลตราซาวด์
เท้าบางซึ่งกำลังเดินทางตามนางพยาบาลไปยังห้องตรวจอัลตราซาวด์ไม่นานต้องชะงัก เพราะบุคคลที่ยืนอยู่ไม่ไกลนักคือสามีของหล่อน ธามมาโรงพยาบาลทำไมกัน หัวใจดวงน้อยร้อนรนขึ้นมา เท้าเล็กก้าวออกไปอีกครั้งหวังจะเดินไปหา แต่ไม่ทันจะถึง พู่ไหมก็ต้องกัดริมฝีปากจนเจ็บ
เพราะเห็นว่าเขามีคนข้างกายแล้วและไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นรสา เหตุผลนี้ใช่หรือไม่ เขาถึงผิดนัดหล่อน ทุกลมหายใจเข้าออกธามคงมีแต่รสาเท่านั้น
หญิงสาวเลือกที่จะถอยหนีไม่อยากจะให้คนทั้งคู่เห็นตน แค่นี้หล่อนก็เจ็บมากแล้วเพราะไม่อยากเห็นสายตาของเขาและเธอ เพราะมันคงมีแต่ความสมเพช แล้วหล่อนก็ไม่สนอีกแล้วว่าเขาจะเป็นอะไรหรือไม่ พลางโกรธตัวเองที่สุดท้ายก็อดห่วงใยเขาไม่ได้ จนทำให้หัวใจต้องชอกช้ำอีกระลอก