บทนำ
บทนำ
“ธาร เมื่อกี้แกจดในสไลด์ทันใช่ปะ”
ปลายฝนเอ่ยถามเพื่อนสนิทอย่างธาราขณะกำลังเดินไปยังโต๊ะประจำที่หน้าคณะหลังจากเรียนเสร็จ
“ทัน ๆ จะเอาไปลอกใช่ปะ” ธาราเอ่ยอย่างรู้ทันพลางล้วงสมุดจดเลคเชอร์วิชาเศรษฐศาสตร์ที่เพิ่งเรียนไปเมื่อสักครู่ส่งให้
“เอา ๆ ขอบใจมาก” ปลายฝนรับมาพร้อมฉีกยิ้มกว้างให้ เป็นเรื่องปกติที่หญิงสาวมักจะขอสมุดเลคเชอร์ของธารามาลอก ไม่ใช่ว่าในคลาสเธอไม่ตั้งใจเรียน หากเป็นเพราะว่าเธอจดไม่ทันตอนที่อาจารย์เลื่อนสไลด์ ทำให้เธอต้องมาขอลอกจากเพื่อนเพื่อเอาไว้อ่านทบทวนตอนสอบแทบทุกครั้ง
“เสร็จแล้วขอยืมไปซีรอกซ์ด้วยนะ” ชนัศชัยหรือตั้มเพื่อนในกลุ่มอีกคนที่เดินตามหลังมาติด ๆ เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ สบาย ๆ
ปลายฝนกับธารานั้นรู้จักและเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เรียนชั้นมัธยม ทั้งสองมีความชอบเหมือนกัน พอขึ้นมหา’ลัยก็เลือกเรียนที่เดียวกัน คณะเดียวกัน ตอนแรกก็คิดว่าคงได้คบกันแค่สองคนไปจนเรียนจบปีสี่ แต่พอต้องทำงานกลุ่มที่มีมากกว่าสองคน ด้วยความที่ต้องทำงานร่วมกันบ่อย ๆ จึงทำให้ทั้งสองคนมีเพื่อนเพิ่มขึ้นมาอีกสามคน กลายเป็นว่าตอนนี้กลุ่มของพวกเธอมีกันทั้งหมดห้าคน
และแน่นอนว่าทั้งห้าคนคงคบกันมาจนกระทั่งเรียนถึงปีสามเทอมสองแบบนี้ไม่ได้ หากไม่มีสิ่งที่เรียกว่า ‘ศีล’ ที่เสมอกันทุกคน
“ทำไมแกไม่จดเอาอะตั้ม เวลาสอบจะรู้เรื่องเหรอ” ปลายฝนว่าขึ้นอย่างเป็นห่วงเพื่อน ชนัศชัยเป็นผู้ชายคนเดียวในกลุ่ม และมักจะมีนิสัยมักง่ายที่สุด
“ไม่ ขี้เกียจ” ชายหนุ่มตอบพลางไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจ “จดกับซีรอกซ์มันก็มีค่าเท่ากันนั่นแหละ”
“ไม่เท่านะ” คนตัวเล็กเถียง
“ไม่เท่ายังไง”
“ก็ถ้าเราจดใช่ปะ อย่างน้อย ๆ มันก็ผ่านตาเราไง ทำให้เราเข้าใจมากขึ้นเวลากลับมาอ่านทวน แต่ถ้าเอาไปซีรอกซ์เฉย ๆ เราก็จะไม่เข้าใจไง” ปลายฝนอธิบายไปตามความคิดของตัวเอง หากชนัศชัยกลับยังเห็นต่างอยู่เช่นเดิม
“มันก็เหมือน ๆ กันนั่นแหละ”
“ไม่เหมือน...” ปลายฝนกำลังจะเถียงอีก แต่ธาราที่เริ่มรู้สึกรำคาญขึ้นมานิด ๆ รีบห้ามศึกจากทั้งสองฝ่าย
“พอ ๆ พวกแกสองคนนี้ตีกันประจำเลย” ว่าพร้อมกับส่ายหน้าแล้วมองเพื่อนทั้งสองคนสลับกันไปมาอย่างอ่อนใจ ก่อนจะหยุดนิ่งอยู่ที่ปลายฝนแล้วเอ่ยต่อ “แกก็รู้ว่าตั้มมันสมองไว อ่านแบบผ่าน ๆ มันยังสอบได้คะแนนดีกว่าเราที่อ่านกันเป็นเดือน ๆ เลย”
“ก็ใช่ไง แต่ถ้ามันตั้งใจมากกว่านี้ มันก็จะยิ่งได้คะแนนมากกว่าเดิมใช่ไหมล่ะ” ปลายฝนรู้ว่าชนัศชัยนั้นเป็นคนหัวดี เข้าใจอะไรง่าย ๆ ไม่คิดอะไรซับซ้อนนัก หากไม่ใช่คนขยัน เธอจึงคิดว่าถ้าเพื่อนขยันและตั้งใจมากกว่านี้อีกสักนิด คงได้ติด Top 10 ของคนที่เรียนเก่งที่สุดในชั้นปีแน่นอน
“ถ้าได้มากกว่าเดิมแล้วยังไงต่อ” ชนัศชัยเลิกคิ้วถามต่อ
“มันก็จะเป็นความภาคภูมิใจของกลุ่มเราไง ที่มีเพื่อนเรียนเก่ง ๆ” ปลายฝนตอบไปตามที่คิด ทำให้ชนัศชัยกับธาราถอนหายใจออกมาพร้อมกันอย่างเหนื่อยใจกับเหตุผลของเพื่อนสาว
“มาเรียนเอาประสบการณ์ ไม่ได้มาเรียนเอาเป็นเอาตาย” ชายหนุ่มตอบเซ็ง ๆ พร้อมทิ้งตัวลงม้านั่งฝั่งตรงข้ามกับสองสาวเมื่อเดินมาถึงโต๊ะหินอ่อนที่มักนั่งกันเป็นประจำ จากนั้นก็หันมองซ้ายขวาคล้ายมองหาอะไรสักอย่าง ก่อนจะหันกลับมาถามเพื่อนสาวทั้งสองคน “แล้วไอ้สองคนนั้นเป็นไง หายเงียบไปเลย”
“จะอะไรอีกอะ เมาเละเลย วันนี้ก็น่าจะแฮงก์หนัก” ปลายฝนตอบ แล้วจู่ ๆ เธอก็หลุดหัวเราะออกมาเมื่อนึกถึงภาพนันท์หรือนันทิยากับตันหยงหรือกนกอรเพื่อนผู้หญิงอีกสองคนในกลุ่มที่ไปดื่มด้วยกันเมื่อคืนนี้ แล้วเมาเละเทะจนภาพตัดไป จนกระทั่งถึงตอนนี้ซึ่งเป็นเวลาสิบโมงครึ่งแล้ว สองคนนั้นก็ยังไม่ส่งสัญญาณเข้ามาในไลน์กลุ่มเลยว่ายังมีชีวิตอยู่บนโลกนี้
อันที่จริงกลุ่มของพวกเธอจะเที่ยวกันเฉพาะคืนวันศุกร์เสียส่วนใหญ่ แต่เมื่อคืนนี้เป็นวันเกิดของกนกอร ซึ่งเจ้าภาพบอกว่าต้องจัดให้ตรงวันเท่านั้นเพราะจะมีเพื่อนสมัยมัธยมที่เรียนอยู่ต่างมหา’ลัยมาร่วมฉลองด้วย และไม่อยากจัดหลายรอบให้สิ้นเปลือง ปลายฝนกับธาราจึงตอบตกลงไปอย่างไม่คิดอะไรมาก
และด้วยความที่เป็นเจ้าของวันเกิดของกนกอรและความเป็นนักปาร์ตีตัวยงของนันทิยา จึงทำให้ทั้งสองคนหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยในเช้าวันนี้ คาดว่าคงจะแฮงก์กันหนักเลยทีเดียว
“ขอโทษที่เมื่อคืนกลับก่อน เลยไม่ได้ช่วยเก็บซากสองคนนั้น” ชนัศชัยบอกอย่างรู้สึกผิด หากสีหน้ากลับนิ่งเฉย ไม่ได้ดูรู้สึกผิดที่หนีกลับก่อนเพื่อนเลยสักนิด
“ไม่เป็นไร เข้าใจแหละว่าทุกวันนี้เด็กสำคัญกว่าเพื่อน” ปลายฝนตอบพลางแขวะเพื่อนชายขำ ๆ
“เด็กอะไร ก็บอกว่าแมวไม่สบาย” ชายหนุ่มแก้ตัว
ธาราเลิกคิ้วขึ้น มองหน้าชนัศชัยเป็นเชิงถามว่า ‘จริงเหรอ ?’ ก่อนจะเอ่ยถามออกไป “แล้วเมื่อคืนแกฝากแมวไว้กับใคร”
ปลายฝนที่อยากรู้เหมือนกันหรี่ตาลง มองชายหนุ่มที่นั่งตรงข้ามอย่างจับผิด
ชนัศชัยยกมือขึ้นมาเกาจมูก เสหลบสายตากดดันของเพื่อนทั้งสองคนที่มองมา ไม่ใช่ว่าเขาอยากปิดบัง หากตัวเขาเองก็ไม่อยากชัดเจน จึงยังไม่อยากให้ใครรู้มากนักเพราะกลัวอีกฝ่ายจะเสียหาย ชายหนุ่มจึงตัดสินใจชวนเปลี่ยนเรื่อง “แล้วพวกแกกลับกันตอนไหน พี่พายมารับใช่ปะ”
“เปลี่ยนเรื่อง ดูออก” ธาราเอ่ยขึ้นอย่างรู้ทัน ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างเซ็ง ๆ แต่กระนั้นก็เลิกมองเพื่อนด้วยสายตากดดัน
“ใช่ พี่พายมารับตอนร้านปิด แล้วก็ไปส่งนันท์กับหยงที่หอด้วย” ปลายฝนตอบ และพี่พายหรือพระพายที่กล่าวถึงคือพี่ชายแท้ ๆ ของธารา ทั้งยังพ่วงตำแหน่งแฟนของเธอซึ่งคบหากันมาได้สองปีกว่า ๆ แล้วนั่นเอง