บทนำ
“เออดีละ แล้ววันนี้ต้องอยู่รอพี่พายซ้อมบอลปะ” ชนัศชัยถามต่อ เพราะพระพายเป็นนักฟุตบอลของมหา’ลัย จึงต้องอยู่ซ้อมตอนเย็นทุกวัน ปลายฝนซึ่งเป็นแฟน กับธาราที่เป็นน้องสาวแท้ ๆ มักจะไปนั่งเล่นรอที่สนามเป็นประจำ
“ไม่รู้อะ กำลังคิด ๆ อยู่ อีกอย่างก็ยังไม่รู้เลยว่าวันนี้พี่พายซ้อมหรือไม่ซ้อม” ปลายฝนบอก เธอจำได้ลาง ๆ ว่าเมื่อวันก่อนพระพายบอกเธอว่าวันศุกร์ซึ่งก็คือวันนี้ จะมีสมาคมศิษย์เก่าเข้ามาขอใช้สนาม อาจจะต้องงดซ้อม แต่เธอก็ไม่รู้ว่างดจริงหรือเปล่า
“วันนี้ฉันไม่ได้อยู่ด้วยนะ ง่วงอะ อยากกลับไปนอนมากกว่า” ธาราเอ่ยขึ้น
“หรือฉันควรกลับไปนอนเหมือนแกดี” ปลายฝนทำสีหน้าครุ่นคิด ก้มมองนาฬิกาข้อมือก็เห็นว่ายังไม่ถึงสิบเอ็ดโมงเลย ถ้าเธออยู่รอพระพายซ้อมบอลก็ต้องรออีกหลายชั่วโมง เพราะวันนี้เธอมีเรียนตอนเช้าแค่วิชาเดียวเท่านั้น ช่วงบ่ายคือไม่มีอะไรทำ
และเมื่อคิดไตร่ตรองดูดี ๆ แล้วก็คิดว่าตนควรกลับไปนอนพักผ่อนดีกว่า จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหมายจะโทร. ไปบอกอีกฝ่าย ทว่ายังไม่ทันที่เธอจะได้ปลดล็อกหน้าจอ คนที่เธอกำลังนึกถึงก็โทร. เข้ามาเสียก่อน
“ฮัลโหล”
[เรียนเสร็จยัง] เสียงทุ้มเอ่ยถาม
“เสร็จแล้วงับ พี่พายล่ะ” เธอตอบอย่างน่ารักแล้วถามกลับ
[เสร็จแล้วเหมือนกัน วันนี้พี่ไม่มีซ้อมนะ]
“ฝนกำลังจะโทร. ไปบอกพี่พายพอดีเลยว่าฝนจะกลับห้องไปนอน”
[ครับ แล้วกินข้าวหรือยัง]
“กินนมไปตั้งแต่ตอนเช้านั่นแหละ แต่เดี๋ยวฝนน่าจะไปหาข้าวกินก่อนค่อยเข้าหอ” ตอนนี้ก็ใกล้จะเที่ยงแล้ว คงต้องกินข้าวก่อนแล้วจะได้นอนยาว ๆ ไปถึงเย็นเลย
[เดี๋ยวไปด้วยกัน ตอนนี้ฝนอยู่ไหน หน้าคณะไหม ?]
“ใช่ ๆ นั่งอยู่โต๊ะเดิมเลย”
[โอเคครับ พี่กำลังเดินไป ฝนอยู่กับใครบ้าง]
“ก็มีฝน ธาร แล้วก็ตั้ม สามคน”
[นันท์กับหยงไม่มา ?]
“ไม่น่าถามนะ ดูจากสภาพพวกมันเมื่อคืนแล้วก็ไม่น่าไหวอะ”
พระพายหลุดขำออกมาเบา ๆ เพราะเมื่อคืนเป็นเขาเองที่ช่วยปลายฝนและธาราแบกเพื่อนที่หลับไม่ได้สติกลับหอพัก
[ถ้าพี่ไม่อยู่ด้วย ฝนห้ามเป็นแบบนั้นนะ] เขาบอกประโยคเดิม ๆ ที่มักจะคอยบอกคอยเตือนแฟนและน้องสาวเป็นประจำ เขาไม่ได้ห้ามหากเธอจะไปเที่ยวกับเพื่อน แต่ต้องดื่มอย่างมีขีดจำกัด ห้ามปล่อยตัวเด็ดขาดถ้าไม่มีเขาอยู่ด้วย
“รู้แล้วค่า ตั้งแต่อายุถึงเกณฑ์เที่ยวร้านเหล้าได้ พี่พายเคยเห็นฝนเมาสักครั้งไหมล่ะ” ปลายฝนถามกลับอย่างมั่นใจ หากเพื่อนอีกสองคนที่ได้ยินกลับกลอกตาไปมาอย่างเอือมระอา
[ไม่เมา แค่ไม่เหมือนเดิมเฉย ๆ] พระพายยิ้มขำ นึกเอ็นดูคนรักของตนอยู่มาก ทุกครั้งที่ไปนั่งดื่มด้วยกัน พอดึก ๆ เขาถามว่าเมาไหม เธอก็มักจะตอบว่าไม่เมา ทั้งที่เสียงยานคาง ตาฉ่ำเยิ้ม และแทบจะคุยตอบโต้กับเขาไม่รู้เรื่องอยู่แล้ว แต่เธอก็ยังยืนยันว่าตัวเองไม่ได้เมา
ก็คนเมาที่ไหนจะไปยอมรับว่าตัวเองเมากันเล่า!
“เนี่ย พอบอกไม่เมาก็ไม่มีใครเชื่อฝนเลย” ปลายฝนทำเสียงกระเง้ากระงอดใส่คนในสาย ครั้นหางตาเหลือบไปเห็นว่าเพื่อนอีกสองคนกำลังทำหน้าเอือม ๆ ใส่ ใบหน้าสวยหวานก็ง้ำลงอย่างงอน ๆ “พวกแกก็ไม่เชื่อเหรอว่าฉันไม่เมา ?”
ธารากับชนัศชัยพร้อมใจกันส่ายหน้ารัว ๆ ด้วยความพร้อมเพรียง
“เฮ้ย แต่ฉันไม่ได้เมาจริง ๆ นะ” หญิงสาวยังคงเถียง ไม่ยอมรับในสิ่งที่ทุกคนพูด “คนเมาที่ไหนจะจำทุกอย่างได้ ฉันสาบานได้ว่าทุกครั้งที่ไปดื่ม ฉันมีสติครบถ้วนทุกประการ”
“แต่แกพูดไม่หยุดเลยนะ” ธาราว่า
“จริง แล้วพูดแต่อะไรก็ไม่รู้ ไร้สาระ” ชนัศชัยเสริมขึ้นอีกคน ก่อนจะดัดเสียงล้อเลียนคนเมา “ฝนรักพี่พายอย่างนั้น รักพี่พายอย่างนี้ จะไม่นอกใจ จะมีแค่พี่พายคนเดียวตลอดไป รักที่สุดในโลกเลย จุ๊บ ๆ”
คนที่ไม่ยอมรับว่าตัวเองเมาอ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออก เพราะที่เพื่อนพูดมานั้นคือความจริงที่เธอไม่สามารถโต้แย้งได้ และที่บอกว่าจำได้ทุกอย่างก็คือจำได้จริง ๆ เพียงแต่เธอไม่คิดว่านั่นคืออาการของคนเมาเท่านั้นเอง
ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อลามไปถึงใบหู จนคนที่อยู่ในสายที่ได้ยินทุกอย่างหลุดเสียงหัวเราะออกมา ปลายฝนจึงรีบดึงสติ แล้วกลบเกลื่อนอาการเขินโดยการแวดใส่ “พี่พาย! ขำอะไร!”
“แฟนใครเนี่ย น่ารักจัง” เสียงนั้นไม่ได้ดังมาจากในสายแล้ว หากแต่ดังทุ้มอยู่ใกล้ ๆ ใบหู ก่อนที่คนพูดจะหย่อนตัวลงนั่งข้าง ๆ เธอ พร้อมเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกง
“แหวะ มาถึงก็หวานใส่กันเลย” ธารากลอกตามองบน เบ้ปากแล้วเอ่ยแขวะพี่ชายตัวเองอย่างหมั่นไส้ และนั่นยิ่งทำให้ปลายฝนหน้าแดงมากขึ้นไปอีก ถึงแม้จะคบกันมานานแล้ว แต่เธอก็ไม่เคยชินเลยสักครั้งเมื่อถูกเพื่อน ๆ แซว
“คนไม่มีแฟนไม่เข้าใจหรอก” พระพายแขวะน้องสาวกลับด้วยท่าทีสบาย ๆ ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไร พลางยักคิ้วส่งให้เป็นเชิงเย้ยหยันนิด ๆ ก่อนจะหันไปพยักหน้าทักทายชนัศชัยที่ยกมือไหว้ตนซึ่งเป็นรุ่นพี่
“พี่พาย เดี๋ยวเถอะ! อย่าให้ถึงทีธารมีแฟนบ้างนะ” ธาราแทบควันออกหู นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอถูกพี่ชายเย้าแหย่อย่างนี้ อันที่จริงเธอควรจะชิน หากก็ไม่เคยชินสักครั้ง อย่าให้ถึงวันที่เธอมีแฟนบ้างแล้วกัน ถ้าถึงวันนั้นเธอจะควงมาเยาะเย้ยคืนทุกวันเลย แต่ติดตรงที่ว่า...
“จ้างให้ก็ไม่มีใครเอา” ว่าจบก็หันไปยิ้มหวานใส่ตาคนรักที่นั่งอยู่ข้าง ๆ “เนอะ”
“พี่พาย!!” ธาราไม่ว่าเปล่า ยื่นแขนข้ามปลายฝนที่นั่งอยู่ตรงกลางไปหยิกไหล่พี่ชายที่นั่งอยู่อีกฝั่งด้วยความโกรธ “คอยดูเถอะ เดี๋ยวจะยุให้ฝนเลิกคบ แล้วจะหาแฟนใหม่ให้ฝนด้วย”
“ฝนไม่เลิกหรอก เพราะฝนรักพี่คนเดียว” พระพายบอกพลางยักคิ้วให้ธาราอย่างมั่นใจ ก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาจะก้มลงมายิ้มทำสายตาหวาน ๆ ใส่คนรักอีกครั้ง “จริงไหมที่รัก บอกธารไปสิว่าฝนรักพี่คนเดียว”
“ฝนบอกแบบนั้นตอนไหน จำไม่เห็นได้เลย” ปลายฝนแกล้งถามกลับด้วยน้ำเสียงซื่อ ๆ ทั้งที่จริง ๆ แล้วเธอเขินจนแก้มแทบจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ อยู่แล้ว
“อ้าว” พระพายถึงกับเงิบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะทำตาดุคาดโทษคนตัวเล็กที่ไม่เข้าข้างเขา ส่วนธาราระเบิดหัวเราะออกมาเสียงดังด้วยความสะใจ สะกิดไหล่ปลายฝนและยกมือขึ้นเพื่อขอทำไฮไฟต์ ก่อนจะชะโงกหน้ามาแลบลิ้นปลิ้นตาใส่พี่ชาย
“สมน้ำหน้า!”
พระพายที่รู้ตัวว่าถูกสองสาวร่วมมือกันเอาคืนได้แต่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน ชี้หน้าคาดโทษทั้งสองคนอย่างไม่จริงจังนัก เพราะถือเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่น้องสาวกับแฟนมักรวมหัวกันแกล้งเขา
ว่าน้องสาวตัวเองแสบมากแล้ว แต่แฟนกลับแสบยิ่งกว่า สองคนนี้อยู่ด้วยกันทีไร ก็กลายเป็นเขาที่มักจะถูกรุมทุกครั้งไป
ทั้งแฟนทั้งน้อง ไม่มีใครอยู่ข้างเขาเลยสักคน