พิสูจน์ความแข็ง 2

1791 คำ
พิสูจน์ความแข็ง  ปลายฝนรู้สึกตัวตื่นขึ้นจากการหลับใหล เมื่อได้รับรู้ถึงแรงสั่นของสมาร์ตโฟนที่วางอยู่ใกล้ ๆ หมอน หญิงสาวคว้ามันขึ้นมาดูว่าใครเป็นคนโทร. เข้ามาในเวลานี้ ครั้นเห็นว่าเป็นสายจากบิดาจึงหันกลับไปมองอีกคนที่นอนอยู่ข้าง ๆ แล้วขยับตัวลงจากเตียงให้เบาที่สุด ก่อนจะเดินออกไปรับสายนอกระเบียงเพราะกลัวว่าเสียงของเธอจะไปรบกวนการนอนของเขา เมื่อเลื่อนปิดประตูระเบียงเรียบร้อยแล้ว เธอจึงรีบรับสายพร้อมส่งเสียงทักทายผู้เป็นบิดา “ฮัลโหลค่ะพ่อ” [แม่เองจ้ะลูก] “อ้าว ฝนก็นึกว่าพ่อ” [พ่อก็อยู่ด้วยกันนี่แหละ ฝนนอนอยู่เหรอลูก เสียงเหมือนคนเพิ่งตื่น] ผู้เป็นแม่เอ่ยถามอย่างคนช่างสังเกต “ใช่ค่ะ เพิ่งตื่นเมื่อกี้นี้เลย” หญิงสาวบอกกลั้วหัวเราะ “วันนี้ฝนเรียนเสร็จตั้งแต่สิบโมงแน่ะ ไปกินข้าวกับธารกับพี่พายเสร็จก็ไม่รู้จะไปทำอะไรที่ไหน เลยกลับห้องมานอน” [นอนเยอะ ๆ ระวังจะกลายเป็นคนขี้เกียจ] หยาดพิรุณเอ็ดลูกสาวอย่างไม่จริงจังนัก ก่อนจะถามต่อ [แล้วพรุ่งนี้ฝนจะกลับบ้านกี่โมงลูก] “ยังไม่แน่ใจเลยค่ะ แต่น่าจะสาย ๆ คงถึงบ้านไม่เกินเที่ยง” เธอคาดการณ์เวลาแบบคร่าว ๆ หากที่มหา’ลัยไม่มีกิจกรรมที่ต้องเข้าร่วม หญิงสาวก็มักจะกลับไปนอนที่บ้านทุก ๆ วันเสาร์อาทิตย์ แล้วค่อยกลับมาเรียนอีกครั้งในช่วงสาย ๆ ของวันจันทร์ [อาทิตย์นี้พี่พายมาด้วยหรือเปล่า] “ไม่รู้ค่ะ ฝนยังไม่ได้ถามเลย” ปลายฝนบอกผู้เป็นมารดาที่มักจะถามเธออย่างนี้เกือบทุกสัปดาห์ ก็ตั้งแต่ที่เธอตัดสินใจพาพระพายไปที่บ้านเพื่อบอกผู้ใหญ่ว่ากำลังคบหากัน จากนั้นมาเขาก็มักแวะเวียนไปที่บ้านของเธอบ่อย ๆ กระทั่งเธอย้ายออกมาเช่าอะพาร์ตเมนต์อยู่ เขาก็เทียวไปรับไปส่งแทบทุกครั้งที่เธอกลับบ้าน และการที่เขาทำแบบนี้อย่างเสมอต้นเสมอปลายทำให้ปัจจุบันนี้เขากลายเป็นลูกรักของพ่อกับแม่ของเธอไปแล้วเรียบร้อย [ชวนพี่เขามาด้วยนะลูก พรุ่งนี้แม่จะทำขนมใส่ไส้ เผื่อได้ฝากไปให้ที่บ้านพี่เขาชิม] “ได้ค่ะ ไว้ฝนจะลองชวนนะคะ ไม่รู้ว่าอาทิตย์นี้จะมีธุระที่ไหนหรือเปล่า” ปลายฝนไม่กล้ารับปากมารดาร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะถึงแม้ว่าส่วนมากพระพายจะว่างให้เธอเสมอ ก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะไม่มีธุระที่ไหน เพราะฉะนั้นเธอจึงอยากถามความสะดวกของเขาก่อน สองแม่ลูกคุยกันต่ออีกนิดหน่อย ส่วนมากจะถามไถ่กันในเรื่องชีวิตประจำวัน ก่อนที่หยาดพิรุณจะขอตัววางสายไปเมื่อถึงเวลาที่ต้องเตรียมมื้อเย็น ปลายฝนยิ้มกว้างด้วยความรู้สึกอุ่นใจให้กับหน้าจอสมาร์ตโฟนที่มารดาวางสายไปแล้ว จากนั้นก็หมุนตัวเดินกลับเข้าไปในห้อง “ตื่นแล้วเหรอ” เธอเอ่ยถามเมื่อเห็นพระพายกึ่งนั่งกึ่งนอนพิงหัวเตียง ผมรองทรงที่ไม่ได้เซตทิ้งตัวลงมาปิดหน้าผากถูกเสยไปด้านหลังแบบลวก ๆ มีความชี้ฟูเล็กน้อยบ่งบอกได้ว่าเขาเพิ่งตื่นนอนได้ไม่นาน เป็นภาพชินตาที่ปลายฝนเห็นเขาในสภาพหลังตื่นนอนเช่นนี้ หากในความชินนั้นก็ยังทำให้เธอใจเต้นแรงได้เสมอ ไม่อยากยอมรับก็คงต้องยอมรับว่าตัวเองมีแฟนหล่อมาก แม้แต่ตอนที่เพิ่งตื่นนอนใหม่ ๆ ก็ยังทำลายความหล่อเหลาของเขาไม่ได้ ตรงกันข้าม...เขากลับมีเสน่ห์ชวนหลงใหลมากขึ้นอีกเท่าตัว หากมีใครสักคนมากล่าวหาว่าเธอเป็นคนคลั่งรัก เธอไม่คิดจะเถียงเลย มีแต่จะยืดอกและยอมรับอย่างภาคภูมิใจพร้อมตอบกลับไปว่า...ก็มีแฟนหล่ออะ จะไม่ให้คลั่งรักได้ยังไงไหว “เพิ่งตื่นเมื่อกี้เลย” พระพายละสายตาจากโทรศัพท์ที่ถืออยู่ในมือของตัวเอง ก่อนจะบุ้ยใบหน้ามายังสมาร์ตโฟนที่เธอถืออยู่ “แล้วนั่นไปคุยกับแม่มาเหรอ” ชายหนุ่มไม่คิดเป็นอย่างอื่น เพราะเขารู้ดีว่าที่บ้านของเธอมักโทร. มาเวลานี้เป็นประจำ “ใช่ค่ะ แม่โทร. มาถามว่าพรุ่งนี้จะกลับบ้านกี่โมง แล้วพี่พายจะกลับด้วยไหม” หญิงสาวใช้โอกาสนี้ถามเขาเสียเลย “ไปดิ พรุ่งนี้พี่ว่างทั้งวันอยู่แล้ว” พระพายพยักหน้าตอบตกลงไปแบบง่าย ๆ โดยไม่ต้องใช้เวลาคิด “แล้วจะค้างบ้านฝนไหม” เธอถามต่อ เขาไปบ้านเธอบ่อยก็จริง แต่น้อยครั้งที่จะอยู่ค้างคืนเพราะเกรงใจพ่อกับแม่ของเธอ ส่วนมากเขาจะไปส่งและอยู่รับประทานอาหารด้วยกันก่อนจะขอตัวกลับบ้านตัวเองไป พอถึงวันจันทร์ที่เธอจะต้องกลับมาเรียน เขาก็จะไปรับในช่วงสาย ๆ แล้วเข้ามหา’ลัยพร้อมกัน พระพายอมยิ้มแล้วมองคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ไม่ไกลด้วยแววตาซุกซน “พี่ค้างกับฝนได้เหรอ” “หมายถึงค้างที่ห้องนอนแขกอะค่ะ” ปลายฝนรีบพูดขึ้น ดักทางคนที่พร้อมจะยียวนกวนประสาทเธอตลอดเวลา ทุกวันนี้เธอยังสงสัยตัวเองอยู่เลยว่าเธอคบกับเขามาได้อย่างไรถึงสองปีกว่า โดยไม่เป็นโรคประสาทตายไปเสียก่อน ก็เขาน่ะ...ขี้แกล้ง แถมยังกวนอวัยวะเบื้องล่างโคตร ๆ “แล้วพี่แอบย่องไปหาดึก ๆ ได้ไหม” ชายหนุ่มยังคงไม่เลิกแกล้ง “พี่พาย!” ปลายฝนยกมือเท้าสะเอว จ้องคนที่นั่งยิ้มอยู่บนเตียงด้วยสายตาที่พร้อมจะฟาดฟันหากเขาไม่ยอมหยุด “ไหนตอนนั้นบอกเกรงใจพ่อกับแม่ฝนไง” “ก็ถ้าท่านไม่เห็นก็อีกเรื่องหนึ่งไง” ชายหนุ่มเอ่ยกลั้วขำ ยิ่งเห็นเธอปั้นสีหน้าดุ ๆ ใส่ เขาก็ยิ่งอยากคว้าตัวเธอเข้ามากอดเข้ามาฟัดแรง ๆ ให้จมเขี้ยว ปลายฝนเป็นผู้หญิงที่เขามองอย่างไรก็ไม่เคยเบื่อ เธอไม่ได้สวยเหมือนนางฟ้าหรือผู้หญิงหลาย ๆ คนที่เพื่อนเขามักชมว่าสวย หากเธอกลับมีความน่ารัก มีเสน่ห์ในแบบของเธอเอง ไม่ว่าเธอจะพูดหรือทำอะไรก็สามารถสะกดสายตาของเขาให้มองอย่างหลงใหลและเพลิดเพลินได้ทุกครั้ง แม้แต่ตอนที่เธอโกรธเขาก็ยังมองว่าน่ารัก น่ารัก...จนอยากเก็บไว้มองคนเดียว “พูดดีไปเถอะค่ะ พอถึงเวลาจริง ๆ ก็ไม่เห็นจะทำอะไร” ปลายฝนเปลี่ยนกลยุทธ์ตอบโต้การกวนประสาทของเขาด้วยการสบประมาทกึ่งท้าทายเล็ก ๆ พระพายนิ่งไปก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งพลางหรี่ตามองคนตัวเล็กอย่างประเมิน แต่ที่เธอพูดนั้นไม่เกินจริงเลย เขามีโอกาสตั้งมากมายที่จะเอาเปรียบเธอ แต่ที่เขาไม่ฉวยโอกาสพวกนั้นก็เพราะว่าเขาให้เกียรติตัวเธอและครอบครัวของเธอ และเขาก็ไม่ได้คิดจะคบเธอเล่น ๆ เขาจริงจังกับเธอมากกว่าใครที่ผ่านมา ตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่ตอนจีบแล้วว่า ‘นี่แหละ...แม่ของลูก’ “ท้าพี่เหรอ ?” “ไม่ได้ท้า ฝนแค่พูดตามที่เห็น” “หรือว่าจริง ๆ แล้วฝนอยากให้พี่ทำอะไร ?” “ปะ...เปล่า ไม่ใช่แบบนั้น” ปลายฝนเริ่มกระกุกกะตักเมื่อถูกเขาจ้องด้วยแววตาจริงจัง อีกทั้งน้ำเสียงยังนิ่งขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เธอแยกไม่ออกว่าเขากำลังจริงจังหรือกำลังแกล้งเล่น จึงทำให้เธอรู้สึกหวั่นขึ้นมานิด ๆ “แล้วฝนรู้ไหมว่าทำไมพี่ถึงไม่ทำอะไรฝน ทั้งที่มีโอกาสตั้งเยอะแยะ” ชายหนุ่มยังคงถามต่อ ปลายฝนกลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่ง มองหน้าเขาอย่างค้นหาว่าเขาอยู่ในอารมณ์ไหน ก่อนหน้านี้เขายังพูดจากวนประสาทเธออยู่เลย แต่จู่ ๆ ก็เปลี่ยนมาอยู่ในโหมดที่คล้ายจะจริงจัง หรือเขาจะโกรธที่เธอพูดสบประมาท ? “มะ...ไม่รู้” เธอตอบพลางส่ายหน้าเบา ๆ หากสายตายังไม่ละจากเขาไปไหน และเมื่อเห็นว่าเขายังนิ่ง เธอจึงเอ่ยถามในสิ่งที่มันกวนใจเธอนานอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ “หรือเพราะอยู่กับฝนแล้วไม่มีอารมณ์ ?” หลายครั้งที่ปลายฝนกับเพื่อนในกลุ่มคุยกันเรื่องเซ็กซ์ เธอที่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนก็มักจะถูกเพื่อน ๆ ถามว่ารู้สึกอย่างไรตอนมีเซ็กซ์กับแฟน ซึ่งเธอก็ตอบทุกคนไปตามตรงว่ายังไม่เคย ทุกคนในกลุ่มมีสีหน้าตกใจราวกับไม่เชื่อสิ่งที่เธอพูดและมองเธอเหมือนเป็นตัวประหลาด ‘พี่พายตายด้านเหรอวะ’ นันทิยาที่เป็นคนตรง ๆ เริ่มตั้งข้อสงสัย ‘บ้า ไอ้พี่พายเนี่ยนะจะตายด้าน ไม่มีทางอะ’ ธาราที่จู่ ๆ ก็รักพี่ชายตนเองขึ้นมารีบออกโรงปกป้อง ‘หรือว่าไอ้ฝนมันจะไม่มีแรงดึงดูดเพศตรงข้าม แบบอยู่ด้วยแล้วไม่เกิดอารมณ์ เพราะคบกันมาตั้งสองปีกว่าละ พี่พายก็ดูเป็นผู้ชายปกติ เหมือนเคยได้ยินจากพี่รหัสมาว่าตอนปีหนึ่งนี่คือเสือตัวพ่อเลย เป็นไปได้เหรอที่จะไม่มีอะไรกับแฟนตัวเองเลย’ ทว่านันทิยาก็ยังไม่หายข้องใจ ยังคงคาดเดาต่อไป ซึ่งเป็นการคาดเดาที่ทำให้ปลายฝนเริ่มคิดตาม...‘ขนาดฉันกับแฟนยังได้กันตั้งแต่คบกันเดือนแรกเลย นี่คบตั้งสองปี พวกแกไม่คิดว่ามันแปลกเหรอวะ ?’ อืม...จะว่าไป พอคิดดูแล้วมันก็แปลกจริง ๆ “…” “พี่พาย ฝนเริ่มใจไม่ดีแล้วนะเนี่ย” สีหน้าของปลายฝนเคร่งเครียดขึ้นเมื่อนึกถึงคำพูดที่อาจจะเป็นจริงของเพื่อน น้ำตาคลอหน่วยจวนจะไหลออกมาอยู่รอมร่อเพราะเขายังคงนิ่ง ไม่ยอมพูดอะไรจนเธอทำตัวไม่ถูก “มันเป็นเพราะอะไรพี่ก็พูดมาสิ เอาแต่เงียบแบบนี้ฝนจะรู้ไหม” “มานี่มา”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม