เสียงดนตรีบนเวทีที่บรรเลงคลอเบาๆ เปลี่ยนจากจังหวะแช่มช้าเป็นสนุกสนานขึ้น เจ้าของงานควงบุตรชายออกไปเป็นคู่เต้นรำเปิดฟลอร์ จากนั้นแขกคนอื่นๆ ก็ค่อยทยอยควงคู่กันออกไปบ้าง เจ้าของดวงตาคมหันกลับไปยังจุดเดิมที่บัวบูชานั่งอยู่อีกครั้ง ทว่าคราวนี้ไม่เห็นเธอนั่งอยู่ตรงนั้นแล้วก็รีบสอดส่ายสายตามองหา จึงเห็นว่าเธอย้ายไปนั่งที่โต๊ะข้างฟลอร์เต้นรำกับผู้ชายคนเดิมที่เห็นเพียงแผ่นหลังเท่านั้น ก็ได้แต่นึกเข่นเขี้ยวในใจ "หึ! แสดงธาตุแท้ออกมาแล้วสินะ เห็นผู้ชายแล้วรีบวิ่งเข้าหา เพิ่งรู้จักกันแท้ๆ แต่หัวร่อต่อกระซิกสนุกเชียว" ปฐวีขบกรามแน่น ในใจเร่าร้อนดุจมีเปลวเพลิงกำลังพัดโหม "ดีแล้วล่ะไอ้ปัถย์ที่แกยังไม่หลวมตัวไปมากกว่านี้" แม้จะบอกตัวเองแบบนั้นแต่กลับรู้สึกขื่นขมในใจแปลกๆ "ปัถย์คะ เราไปเต้นรำกันดีไหมคะ" เขมจิราขยับเข้าไปเกาะแขนชายหนุ่ม พร้อมกับออกปากชวนเขาออกไปเต้นรำ ทั้งที่มีหนุ่มๆ หลายคนเวียนมาขอเต

