ประโยคที่คิรินพูดออกไป ทำคนสวยรีบเบี่ยงหน้าหลบสายตาไป.. คิรินเองได้แค่ยกยิ้มเอ็นดู ต่อให้ราเชลเก่งขนาดไหน แต่เวลาโดนคำพูดแบบนี้ก็มักจนมุม ไม่กล้าพูดอะไรต่อ
"นอนพัก คุยงานเสร็จแล้วเดี๋ยวเข้ามาหา" เสียงเข้มเอ่ยพลางใช้มือลูบไปที่กลุ่มผมสวยเบา ๆ ก่อนจะเดินออกมานอกห้องที่เลขาอย่างวิเวียนยังคงนั่งรออยู่..
"ราเชลเป็นไงบ้างคะ โอเคไหม" วิเวียนเอ่ยถาม.. แม้เขาจะไม่ได้เล่าอะไร แต่คงเพราะได้ยินตอนเขาคุยโทรศัพท์และรีบลงไปหาข้างล่างด่วยท่าทีรีบร้อน แค่นั้นคงเดาได้ไม่ยากว่าคงมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
คิรินเดินตรงไปนั่งลงเก้าอี้หนังหลังโต๊ะ โดยมีวิเวียนนั่งอยู่ตรงหน้าโต๊ะ.. มือหนาเลื่อนแฟ้มเอกสารส่งให้ ก่อนจะเหลือบสายตาไปเห็นประตูห้องนอนที่เหมือนจะโดนเปิดแง้มทิ้งไว้..
ทั้งที่เขาเป็นคนปิดเองกับมือแล้วแท้ๆ
"ยิ้มอะไรคะ" เสียงคนตรงหน้าเอ่ยถาม เมื่อใบหน้าคมเผลอยกยิ้มออกมา...
"ราเชล ออกมาค่ะ" ไม่เอ่ยตอบคนตรงหน้า แต่กลับหันใบหน้าคมไปพูดบอกคนที่ยืนแอบอยู่หลังประตูห้องนอนแทน
และสุดท้ายประตูห้องนอนก็เปิดออก ร่างสวยเดินออกมา หันมองเขาด้วยสีหน้างอแง เหมือนจะไม่พอใจอยู่มากที่โดนเขาจับได้ทั้งที่ยังไม่ทันจะได้แอบฟังอะไร..
"งั้นเชลกลับแล้ว ไม่อยากกวนคิรินคุยงาน" เสียงหวานพูดพลางมองหน้าคนหลังโต๊ะและเลขาที่ไม่ค่อยจะชอบหน้ามากนัก.. ก่อนจะหันหลังให้ กำลังจะก้าวขาเดินออกจากห้องทำงานไป
"มานี่" เสียงเข้มที่เอ่ยตามหลังมาทำร่างสวยชะงักฝีเท้า.. ราเชลหันหน้ากลับมาหา คิรินถึงเลื่อนเก้าอี้ถอยให้มีระยะห่างระหว่างเก้าอี้ที่นั่งอยู่กับโต๊ะ
มือหนาตบตักเบา ๆ ภาษากายที่คนมองรู้ได้ในทันทีว่าหมายถึงอะไร
ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติ ราเชลคงไม่ยอมมานั่งตักเขาง่ายๆ แม้ทั้งชีวิตเราจะรู้กันดีว่าความรู้สึกที่มีให้กันมันเกินกว่าพี่น้องไปมาก.. แต่ใช่ว่าจะเคยทำอะไรเกินเลยกันนอกจากจูบวันนั้น
ราเชลหวงตัว ไม่เคยยอมให้เขาแตะ แม้จะแสดงท่าทีหึงหวงให้เขารับรู้อยู่เสมอในตอนที่มีผู้หญิงเข้าหาเขา แต่ก็นั่นแหละ ไม่เคยยอมเอาตัวเข้าหาเขา..อาจจะเพราะรู้ดี
ราเชลไม่ต้องเอาตัวมาล่อ ไม่ต้องเอาอะไรมาแลก แค่คำพูด แค่บอก แค่สั่ง เขาเองก็ยอมทำตามด้วยความภักดี
ครั้งนี้เขาแค่ลองตบตักเพื่อบอกให้อีกคนมานั่งลงบนตักตัวเอง เผื่อคนสวยจะยอม
แต่ไม่ใช่
ราเชลเดินเข้ามาลากเก้าอี้ที่ว่างอยู่ตรงหน้าโต๊ะข้าง ๆ วิเวียน ลากมานั่งลงข้าง ๆ เขาที่หลังโต๊ะ
"หึ" เสียงเข้มหัวเราะในลำคอ.. เขาไม่เคยมองราเชลผิดไปเลยสักครั้ง ถึงขนาดที่ผู้หญิงที่เคยยุ่งเกี่ยวกับเขานั่งอยู่ตรงหน้า ขนาดที่เขาเปิดช่องว่างให้อีกคนแสดงความเป็นเจ้าของได้เต็มที่ แต่ราเชลก็ไม่ทำ
เจ้าหญิงของเขาหยิ่งยิ่งกว่าอะไร หวงตัว เขาเองถึงเฝ้ารอ ภักดี เหมือนหมาซื่อสัตย์กับเจ้าของอยู่อย่างนี้
อยากได้จนแทบบ้า แต่ราเชลก็ไม่ยอม แม้จะอยู่ด้วยกันทั้งคืน นอนด้วยกันบนเตียงเดียว แต่ก็ยังไม่ให้แตะตัว
"ราเชลสบายดีไหมคะ" วิเวียนเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้ม แต่ราเชลเองไม่ได้เอ่ยตอบ ทำเพียงนั่งไขว่ขา กอดอก..ทำหน้าหยิ่งอยู่ข้าง ๆ เขา
"เอกสารข้อมูลธุรกิจของคู่ค้าที่จะคุยงานวันพรุ่งนี้ ทำความเข้าใจ หาข้อมูลให้ละเอียด เผื่อจะเอามาเป็นประโยชน์ตอนคุยธุรกิจกันได้" คิรินเองพูดขัดขึ้นมา ไม่ปล่อยให้วิเวียนได้ถามอะไรคนข้างกายต่อ.. แค่จะพูดเรื่องงานให้จบ จะได้แยกย้ายกันไป ไม่อยากให้ราเชลต้องอึดอัด
"แล้วพรุ่งนี้พี่คิรินไปคุยพร้อมกับวิเวียนไหมคะ"
"นัดคุยงานที่นี่ ฉันก็ต้องอยู่ด้วยอยู่แล้ว"
"ดีค่ะ วิเวียนกลัวจะทำไม่ได้ มีพี่ด้วยคงจะเบาใจกว่า พี่คอยช่วยวิเวียนมาตลอดอยู่แล้ว วิเวียนยังจำไม่ลืมเลย.. ตอนมหาลัย เรา.."
พรึบ! ไม่ทันที่วิเวียนจะพูดจบ ราเชลเองหยัดตัวลุกเดินเข้ามานั่งลงบนตักเขาแบบที่เขาเองไม่ทันได้ตั้งตัว
อ่า..
ครั้งแรกในชีวิตที่ราเชลนั่งลงบนตักเขาแบบนี้
ไม่เพียงแค่นั้นยังรั้งมือเขาเข้ามากอดเอวตัวเองไว้
"คุยงานต่อสิ" ราเชลพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
"อ่า" ร่างแกร่งเรียกสติให้ตัวเอง ก่อนจะพูดขึ้นมาต่อ "งานเลขาไม่ใช่งานง่าย ๆ ถ้าจะไม่มั่นใจแล้วกลัวว่าจะทำไม่ได้ก็ลาออกไป ธุรกิจฉันไม่ใช่สนามเด็กเล่น"
"วิเวียนไม่ได้หมายถึงแบบนั้น"
"แล้วแบบไหน" เป็นราเชลที่ถามกลับไปแทน..
"หมายถึงไม่ได้มองว่าธุรกิจของคิรินเป็นสนามเด็กเล่นค่ะ วิเวียนคุยงานครั้งแรกเลยมีความกังวล แต่ใช่ว่าจะทำไม่ได้"
"ก็ดี... ไม่มีอะไรแล้วใช่ไหม ไม่มีอะไรแล้วก็ออกไป" เสียงหวานเอ่ยเพียงแค่นั้น วิเวียนเองก็ลอบสายตาหันมามองเขา เมื่อเห็นว่าคิรินนิ่งเฉย ยอมให้ราเชลจัดการสถานการณ์ตรงหน้าได้แบบตามใจ ถึงจะยอมหยัดตัวลุกออกไปจากห้อง
เช่นเดียวกับคนบนตักที่กำลังจะหยัดตัวลุกออกจากตักแกร่งแต่เป็นเขาเองที่รีบรั้งตัวราเชลเอาไว้ ก่อนจะออกแรงจับร่างสวยหันมาให้นั่งหันหน้าเข้าหากัน...
"ทำไมอยู่ ๆ ถึงมานั่งตัก" เสียงแหบพร่าเอ่ยถามพลางใช้มือลูบไปที่กรอบหน้าสวย
"คิริน"
"ครับ"
"ไล่วิเวียนออกให้เชลได้ไหม เชลไม่โอเคที่มีผู้หญิงคนนี้อยู่ใกล้ ๆ คิริน" แม้รู้ดีว่าไม่ใช่เหตุผล การจะสอนเลขาคนนึงให้เก่งมันใช้เวลา..แต่ก็นั่นแหละ ตอนนี้เธอยอมเป็นคนไม่มีเหตุผลก็แล้วกัน
"ได้ครับ"
"?" เพราะคิรินยอมอย่างว่าง่าย ใบหน้าสวยตอนนี้ถึงมองมาที่เขาด้วยท่าทีแปลกใจ
"ถ้าเชลตกลงเล่นเกมกับคิรินแล้วชนะคิรินได้ จะให้ทำอะไร จะทำให้ทันทีเลย"
"เกมอะไร"
"แค่สลับกันถามคำถาม คิรินถามอะไร เชลแค่ตอบความจริง"
"ได้!" เสียงหวานเอ่ยตอบในทันที ทั้งที่เขาเองยังไม่ทันได้อธิบายกติกาให้ฟัง
"แต่มีข้อแม้…ว่าถ้าเชลเลือกที่จะไม่ตอบหรือตอบไม่ได้ ต้องถอดเสื้อผ้าออกทีละชิ้น"
"..."
"ถอดไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะหมดตัวแล้วถึงจะจบเกมส์"
"คิริน" น้ำเสียงของคนบนตักเปลี่ยนไป..ราเชลเอ่ยเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงกดต่ำ
"แต่ถ้าคิรินเป็นฝ่ายถอดหมดตัวก่อน เชลก็ชนะ..คิรินจะไล่วิเวียนออกให้ทันที"
"..." ในทีแรกที่เหมือนจะเริ่มทำสีหน้าดุใส่..แต่พอได้ยินชื่อวิเวียนกลับดูลังเล
เหมือนครั้งนี้ ลูกแมวของเขาจะตกหลุมพราง...
"แค่ตอบคำถามครับ เชลตอบก็ไม่ต้องถอด ไม่เห็นมีอะไรน่ากังวล"
"ก็ได้! ถ้าเชลชนะ คิรินรับปากว่าจะไล่วิเวียนออกนะ"
"สัญญาครับ"
อ่า...ง่ายกว่าที่คิดไว้แฮะ