"ฮึก แม่นขนาดนี้ นี่คุณตาบอดจริงหรือเปล่าเนี่ย" ใบบัวเจ็บจนน้ำตาคลอ ยกมือลูบหน้าผากป้อยๆ ถึงเคลวินจะหล่อเหมือนนายแบบ สมเป็นหนุ่มฮอตอย่างที่ฝันเฟื่องบอก โดยเฉพาะนัยน์สีฟ้าแกมเขียวราวน้ำทะเลนั่นที่สวยสะกดราวต้องมนตร์ แต่ใบบัวก็ปลื้มไม่ลง ถ้าเขาโยนรีโมทแอร์แรงกว่านี้อีกนิด เธอมีสิทธิ์หัวแตกได้เลยนะ
"ออกไป" กลิ่นหอมอ่อนๆ เหมือนแป้งเด็กและน้ำเสียงกังวานใส ทำให้คนที่สูญเสียการมองเห็นรับรู้ได้ว่าหญิงสาวไม่ใช่นางพยาบาลคนเดิม
"หนูจะออกไปก็ต่อเมื่อคุณยอมกินข้าวแล้วก็กินยาแล้วเท่านั้น" เป็นครั้งแรกที่ใบบัวกล้าดื้อแพ่งกับผู้ชายที่สูงประมาณร้อยแปดสิบห้า ภายนอกเคลวินเหมือนคนปกติทุกอย่าง ถ้าไม่สังเกตดีๆ ก็จะไม่รู้เลยว่าเขามองไม่เห็น
"ไม่กิน"
"เดี๋ยวหนูไปตักมาให้ใหม่ รอแป๊บนึงนะคะ"
"ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องเหรอ ก็บอกว่าไม่แดก!"
"คุณทำแบบนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอกค่ะ นอกจากทรมานตัวเองเปล่าๆ ยังทรมานคนที่รักคุณด้วย"
"นี่มันชีวิตฉัน จะเป็นจะตายยังไง เธอไม่ต้องมาเสือก ไสหัวออกไปได้แล้ว หรืออยากเจ็บตัวอีกคน!" กรามหนาบดกรอดเพราะถูกแทงใจดำเข้าอย่างจัง
"หนูรู้ค่ะว่ามันเป็นชีวิตของคุณ แต่คุณห้ามให้หนูไม่เสือกไม่ได้หรอก เพราะคุณรัมภาจ้างให้หนูมาดูแลคุณจนกว่าคุณจะหายดี" เธอมาแทนที่พี่พยาบาลคนนั้น ก็เท่ากับว่าตอนนี้เธอเป็นลูกจ้างของแม่เขาแล้ว
"หายดี? หึ" เคลวินแค่นหัวเราะออกมา
"คุณขำอะไรคะ"
"ลองมาเป็นคนตาบอดอย่างฉันดูสิ อยากจะรู้นักว่าเธอยังจะวิ่งเล่นอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์อย่างนี้อยู่ไหม"
"..."
"หรือเธอจะให้ฉันจะควักตาเธอออกมาตอนนี้ดี"
"คะ คุณเคลวิน..." ใบบัวเดินถอยหลัง เมื่อเคลวินเดินย่างสามขุมเข้ามาหา ทั้งที่ตาบอด แต่เขากลับได้มาหาได้ตรงเผง ใบบัวกลัวจนตัวสั่น ในตอนนี้เคลวินไม่ต่างอะไรกับฆาตกรโรคจิตที่เธอเคยดูในซีรีย์เกาหลีเลย
หมับ!
"กรี๊ดดดด ปล่อยหนูนะ ฮือ ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยที" ใบบัวสะบัดแขนออกจากมือหนาอย่างแรง ก่อนจะวิ่งออกมาจากห้อง ฝันเฟื่องที่ได้ยินเสียงใบบัวกรีดร้องพร้อมกับสาวใช้คนอื่นก็วิ่งมาออที่ตีนบันไดวน
"เป็นอะไรใบบัว"
"ฮึก คุณเคลวินจะควักลูกตาหนู เขาบอกว่าจะทำให้หนูตาบอดเหมือนเขาอะพี่เฟื่อง"
เฮือก!
บรรดาสาวใช้ตกใจตาเหลือกกันเป็นแถบ ไม่เว้นแม้แต่ฝันเฟื่อง
"หนูไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วอะพี่เฟื่อง"
"พลอยจะลาออกงั้นเหรอ พี่เพิ่งแจ้งคุณรัมภาไปเองนะว่าคุณเคลวินมีคนดูแลคนใหม่แล้ว"
"แต่หนูกลัวคุณเคลวิน"
"ทนอีกสักสองอาทิตย์ได้ไหม เดี๋ยวคุณคริสเตียนกับคุณรัมภาก็กลับแล้ว"
"แต่ว่า..." ฟันซี่ขาวขบเม้มกลีบปากล่างอย่างช่างใจ เธอกลัวเคลวินมาก แต่ก็กลัวเรืองยศและฤทัยไม่น้อย ถ้ากลับไปตอนนี้ เธอต้องโดนทั้งลุงทั้งป้าเล่นงานจนช้ำไปทั้งตัวแน่ ไหนจะพลอยระตีอีกคน
"ก็ได้ค่ะ หนูจะอยู่ที่นี่ต่อ"
ยี่สิบนาทีผ่านไป ใบบัวก็เริ่มสงบสติอารมณ์ได้ ฝันเฟื่องก็หายาหม่องมาให้ใบบัวทาๆ ถูๆ ที่หน้าผาก ส่วนที่เท้าที่โดนข้าวต้มลวก ฝันเฟื่องก็ตัดว่านหางจระเข้มาให้ ก่อนเข้าไปเก็บกวาดซากข้าวต้มแล้วก็ถ้วยกระเบื้องที่แตกเป็นเสี่ยงๆ เพราะดีไม่ดีเคลวินอาจจะเดินมาเหยียบได้ ใบบัวได้แต่ยืนให้กำลังใจฝันเฟื่องอยู่หน้าห้องอย่างหวาดหวั่น
แกร็ก~
"เป็นยังไงบ้างคะ เขาทำอะไรพี่เฟื่องหรือเปล่า"
"เปล่าจ้ะ คุณเคลวินหลับไปแล้ว" ฝันเฟื่องส่ายหน้ายิ้มๆ
"หลับ?"
"อือ หลับสนิทเลย"
"ชิ! ทำคนเขากลัวแทบตาย ยังจะมีหน้ามาหลับลงอีก" ใบบัวบ่นเป็นหมีกินผึ้ง ขณะเดินตามฝันเฟื่องลงไปข้างล่างอย่างไม่รู้จะทำอะไร ว่าจะช่วยฝันเฟื่องทำงานในครัว แต่ก็ไม่อะไรให้ทำมากเพราะคุณคริสเตียนกับคุณรัมภาไม่อยู่
ตกเย็น ใบบัวตัดสินใจออกมาเดินเล่นที่สวนหน้าบ้าน เพราะไม่อยากอุดอู้อยู่แต่ในห้อง ขณะเดียวกันเธอก็โทร.หาพลอยระตีไปด้วย เพราะมีเรื่องอยากถาม
[แฮ่ก~ ฮะ ฮัลโหล พลอยพูดค่ะ] พลอยระตีรับด้วยน้ำเสียงครางกระเส่าราวกำลังกินของเผ็ดร้อน
"พี่พลอย นี่บัวเองนะ" เหมือนพลอยระตีจะไม่ได้ดูหน้าจอก่อนรับสายว่าใครโทร.มา
[อ้าว แกเองเหรอ ฉันไม่น่ากดรับเลย อื้อ เบาๆ หน่อยสิจักร พลอยจุก/ เบาไม่ได้หรอก มันจะแตกแล้ว ตั่บ! ตั่บ! ตั่บ!]
"พะ พี่พลอยทำอะไรอยู่เหรอ"
[ฉันตำน้ำพริกอยู่ แกมีอะไร?!]
"คือว่าถ้าคนไข้เขามีอารมณ์ร้ายมากๆ พี่พลอยมีวิธีจัดการยังไงเหรอ" เพราะเธอไม่ใช่พยาบาล เลยต้องขอคำปรึกษาจากพยาบาลตัวจริงเสียงจริง ถึงพลอยระตีจะชอบแต่งหน้าแต่งตัวสวยไปวันๆ แต่ก็เรียนพยาบาลจบด้วยเกียรตินิยมอันดับสอง เป็นหน้าเป็นตาให้เรืองยศกับฤทัยได้มาก หลายครั้งทั้งสองเลยมักตามใจลูกสาวในทางที่ผิดๆ
[อื้อ แฮ่ก~ โอ้ย เสียว พลอยจะแตกแล้วจักร เข้ามาลึกๆ เลย/ อ่าห์ รูมึงโคตรแฉะเลยพลอย กูขอแตกในนะ ตั่บ! ตั่บ! ตั่บ! / อ๊ายยย~]
ติ้ด!
ใบบัวเลือกที่จะวางสายทันทีที่ได้ยินบทสนทนาสุดแสนจะลามก เธอไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดไม่รู้ว่าทั้งคู่กำลังทำอะไรกันอยู่ แก้มเนียนใสพลันร้อนวูบวาบ ใบบัวถึงกับต้องยกมือพัดหน้ายิกๆ พลางคิดว่าเมื่อกี้ไม่น่าโทร.หาพลอยระตีเลย
"เป็นอะไรร้อนเหรอ"
"นิดหน่อยค่ะ พี่เฟื่องมีอะไรเหรอ"
"จะมาตามไปกินข้าวเย็นน่ะ วันนี้พี่ทอดปลาทูกินกับน้ำพริกกะปิ บัวกินได้ไหม"
"ของโปรดเลยค่ะ หนูชอบกินหัวปลาทูทอด"
"อร่อยตรงไหน เนื้อนิดเดียว"
"อร่อยออก มันๆ ดี" ทำไงได้ เมื่อก่อนตอนเด็กๆ เวลามีปลาทูทอด ฤทัยมักจะแกะเนื้อปลาทูให้พลอยระตีหมด เธอเลยได้กินแค่ส่วนหัว พอกินบ่อยๆ เข้า เธอก็พบว่ามันอร่อยดี รู้ตัวอีกก็กลายเป็นคนชอบกินหัวปลาทูไปแล้ว
กินเสร็จ ใบบัวก็ต้องยกสำรับขึ้นมาให้เคลวินที่ห้องนอนเหมือนเดิม ฝันเฟื่องบอกตั้งแต่ประสบอุบัติเหตุจนได้กลับมาพักฟื้นที่บ้าน เขาก็ไม่ยอมออกจากห้องนอนแม้แต่ก้าวเดียว
แกร็ก~ ใบบัวรีบเอาสำรับไปวางไว้บนโต๊ะ แล้วก็รีบออกมา ก่อนที่เคลวินจะรู้สึกตัวตื่น จากนั้นเธอก็ลงไปคุยเล่นกับฝันเฟื่องอยู่พักหนึ่ง แล้วแยกย้ายกันไปอาบน้ำนอน ฝันเฟื่องพักอยู่ที่บ้านหลังเล็กที่แยกออกไปร่วมกับสาวใช้คนอื่นๆ ส่วนคนขับรถและคนงานผู้ชายก็จะพักอยู่อีกหลัง ทำให้ทั้งคฤหาสน์ในตอนกลางคืนจะมีเธอกับคุณเคลวินอยู่กันแค่สองคน
เป็นแบบนี้ไม่ดีเลย แต่ใบบัวไม่มีทางเลือก เธอต้องอยู่ที่นี่จนกว่าเคลวินจะหายดี
ใบบัวผล็อยหลับไปตอนสี่ทุ่มกว่า มาสะดุ้งตื่นอีกทีก็ตอนตีหนึ่ง เพราะได้ยินเสียงแปลกๆ ดังมาจากห้องของเคลวิน หญิงสาวอยู่ในภาวะสะลึมสะลือปนหงุดหงิดจึงลืมความกลัวไปชั่วขณะ
แกร็ก~
"นี่คุณ.../ โธ่เว้ย! ทำไมมึงไม่ตายๆ ไปซะให้รู้แล้วรู้รอด ถ้ารอดมาเป็นไอ้บอดแบบนี้ มึงจะรอดมาทำเหี้ยอะไร! มึงจะรอดมาทำส้นตีนอะไร! ไอ้เวรตะไล!!"
พลั่ก! พลั่ก! พลั่ก!