นี่คุณทำบ้าอะไรเนี่ย! หยุดเดี๋ยวนี้นะคุณเคลวิน!" ใบบัวหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง ร่างเล็กถลาเข้ามาห้ามคนที่กำลังต่อยกำแพงอย่างเอาเป็นเอาตาย ทั้งยังก่นด่าตัวเองอย่างหยาบคาย
พลั่ก! พลั่ก! พลั่ก!
"คุณเคลวินหยุดเถอะ อย่าทำแบบนี้เลย ถ้าคุณรัมภามาเห็นคุณทำร้ายตัวเองอย่างนี้ ท่านจะเสียใจแค่ไหน คุณคิดบ้างสิ!" พยายามห้ามสุดความสามารถที่จะดึงสติคนตัวใหญ่ แต่เคลวินกลับไม่รับฟังอะไรเลย ตัวเธอก็เล็กนิดเดียว ขืนเข้าไปขวางมีหวังได้ถูกเขาผลักกระเด็น
หมับ!
ใบบัวหลับตาปี๋สวมกอดเคลวินจากข้างหลัง ไม่รู้ว่าทำแบบนี้จะได้ผลไหม แต่เธอคิดไม่ออกแล้วจริงๆ ว่าจะทำให้เขาหยุดทำร้ายตัวเองได้ยังไง
พลั่ก! พลั่ก!
"คุณเคลวินพอได้แล้ว คุณไม่เจ็บหรือไง เดี๋ยวมือคุณก็ใช้งานไม่ได้หรอก ถ้าคราวนี้หมอต้องตัดมือทิ้งคุณขึ้นมาคุณจะทำยังไง!"
พลั่ก! พลั่ก!
"ฮึก พอเถอะหนูค่ะ ขอร้อง อยากให้หนูทำอะไร หนูจะยอมทำให้คุณทุกอย่างเลย ฮือ พอได้แล้ว หนูเจ็บจะตายอยู่แล้ว ฮึก" ใบบัวปล่อยโฮออกมา น้ำตาอุ่นๆ ไหลอาบแผ่นหลังเปลือยเปล่าสีแทน เคลวินชะงัก ก่อนยอมหยุดทำร้ายตัวเองในที่สุด ซึ่งชายหนุ่มก็งงตัวเองเหมือนกันว่าจะหยุดทำไม
"เอาอะไรมาเจ็บ"
"ฮึก..."
"ฉันถามก็ตอบสิ กอดฉันเป็นลูกลิงอยู่อย่างนี้ เธอเอาอะไรมาเจ็บ"
"ฮือ เจ็บที่ใจไงคะ"
"หึ"
"คุณหัวเราะอะไร ฮึก" ใบบัวผละออกจากร่างแกร่ง แล้วมองใบหน้าหล่อเหลาผ่านม่านน้ำตาบางๆ พร้อมสะอื้นเบาๆ
"เธอคงสมเพชฉันมากสินะ"
"ไม่ใช่สักหน่อย หนูไม่อยากโดนไล่ออกต่างหาก ถ้าคุณเป็นอะไรขึ้นมา คุณคริสเตียนกับคุณรัมภาไม่เอาหนูไว้แน่" ประโยคเมื่อกี้ของเคลวินทำให้ใบบัวพอจะเริ่มจับทางได้แล้วว่าเขาไม่ชอบให้ใครมาสงสาร ถึงได้ทำตัวแข็งกร้าวเพื่อปกปิดความอ่อนแอของตัวเอง พอมารู้ความลับข้อนี้เข้า ใบบัวก็รู้สึกว่าผู้ชายตรงหน้าน่าสงสารกว่าเดิมเสียอีก
"หึ ฟังดูเห็นแก่ตัวดี"
"อยู่แล้ว ไม่เห็นแก่ตัวเอง แล้วคุณจะให้หนูเห็นแก่ใครหนูไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทองเหมือนคุณนี่นา"
"เธอชื่ออะไร" เหมือนเคลวินจะถูกชะตากับนางพยาบาลจอมจุ้นคนนี้เข้าแล้ว
"บะ...เอ่อ พลอยค่ะ พลอยระตี เป็นลูกสาวของพ่อเรืองยศที่เคยเป็นคนขับรถของที่นี่น่ะค่ะ คุณเคลวินพอจะจำได้ไหม"
"อืม คุ้นๆ อยู่ แล้วปีนี้เธออายุเท่าไหร่"
"25 ค่ะ" ปีนี้พลอยระตีย่างเข้าเบญจเพศ ส่วนเธอเพิ่งครบยี่สิบสองปีบริบูรณ์เมื่อเดือนที่แล้ว
"..."
"เอ่อ ให้หนูทำแผลหน่อยนะคะ เดี๋ยวเลือดคุณจะไหลหมดตัวซะก่อน" ไม่แน่ใจว่าต้องเย็บด้วยไหม เพราะสภาพมือขวาเขาเละมาก น่าจะเป็นข้างที่ถนัดด้วย
ห้านาทีต่อมา หลังไปเอากล่องยาสามัญประจำบ้าน ใบบัวก็ราดไปแอลกอฮอล์ลงบนแผลสด
"ซี้ดดด f*ck! บ้านเธอสอนให้ทำแผลแบบนี้เหรอวะ!" เคลวินถึงกับสบถออกมาเป็นภาษาอังกฤษ
"แสบเหรอคะ"
"ก็แสบน่ะสิ ถามมาได้"
"อ้าว หนูก็นึกว่าคุณเป็นไอรอนแมนซะอีก เห็นต่อยเอาๆ"
"รู้ไหมว่าคนกวนประสาทแบบเธอ ฉันกระทืบตายคาตีนมาแล้วกี่ราย"
"พูดเล่นแค่นี้ก็ไม่ได้คนเรา" ใบบัวบ่นอุบอิบ แต่ใกล้กันแค่เอื้อม มีเหรอที่เคลวินจะไม่ได้ยิน
"ฉันเป็นเพื่อนเล่นเธอเหรอ"
"ขอโทษค่ะ" ใบบัวเม้มปากเรียบเป็นเส้นตรงแล้วรีบทำแผลให้เคลวินอย่างเบามือต่อ
"หนูว่ามันน่าจะต้องเย็บนะคะ ตรงนี้เนื้อมันเปิดจนเห็นถึงกระดูกเลย"
"เธอก็เย็บสิ"
"หนูเย็บเป็นที่ไหน!" แหวใส่อย่างลืมตัว แค่เห็นเลือดก็จะเป็นลมตายอยู่แล้ว นี่เธอก็กลั้นใจล้างแผลให้เขาสุดๆ
"เธอเป็นพยาบาลไม่ใช่เหรอ แผลแค่นี้น่าจะเย็บเองได้"
"ไปโรงพยาบาลดีกว่าค่ะ จะได้เอ็กซเรย์ด้วยว่ากระดูกหักหรือเปล่า"
"เรียกหมอมาที่นี่" จะเป็นจะตายยังไงเคลวินก็ไม่คิดจะก้าวขาออกจากห้องนอน
"เฮ้อ คุณจะเอาแต่ขังตัวเองในห้องนี้ตลอดไปไม่ได้หรอกนะคะ"
"..."
"ออกมาใช้ชีวิตเถอะค่ะ หนูจะเป็นดวงตาให้คุณเอง" ใบบัวก็ไม่รู้ว่าตัวเองคิดอะไรอยู่ถึงได้พูดออกไปแบบนั้น เธอแค่ไม่อยากให้เขาทรมานตัวเองอยู่อย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนแก่ตาย มันน่าหดหู่เกินไป และรู้ทั้งรู้ว่าเคลวินมองไม่เห็น ใบบัวก็ยังคลี่ยิ้มให้อย่างจริงใจ แหงล่ะ ถ้าเขาไม่ตาบอด เธอคงไม่มีทางได้มานั่งอยู่ตรงนี้ สังคมเธอกับสังคมเขามันคนละชั้นกันเลย
"แล้วถ้าฉันมองไม่เห็นตลอดไปล่ะ เธอจะว่ายังไง"
"เอ่อ...คือว่า หนูว่าคุณคงไม่โชคร้ายขนาดนั้นหรอก"
"หึ ปฏิเสธกันทางอ้อมสินะ" เคลวินแค่นหัวเราะในลำคอ ก็นะ คนตาบอดอย่างเขา คนตาดีที่ไหนจะอยากมาจมปลักด้วยไปตลอดชีวิต
"ทำไงได้ล่ะคะ หนูเองก็ต้องแต่งงานมีครอบครัวเหมือนกันนี่นา จะให้มาดูแลปรนนิบัติพัดวีคุณไปตลอดชีวิตก็ยังไงอยู่" ใบบัวตอบออกไปตามตรงแทนการให้ความหวังเคลวินแบบลมๆ แล้งๆ
"เธออยากแต่งงาน?" คิ้วเข้มเลิกสูง
"มีผู้หญิงคนไหนบ้างละคะที่ไม่อยากแต่งงาน ใส่ชุดเจ้าสาวสวยๆ"
"ลูกล่ะ อยากมีหรือเปล่า"
"คุณเคลวินถามทำไมคะ" แปลกๆ นะเนี่ยที่จู่ๆ เคลวินก็มาถามซอกแซกเรื่องส่วนตัวของเธอ
"ตอบมาเถอะหน่า"
"ไม่มีก็ได้ค่ะ แต่ถ้ามีก็ดี หนูชอบเด็ก"
"กี่คน"
"สักสองคนกำลังดี ผู้หญิง ผู้ชายอย่างละคน"
บทสนทนาระหว่างเราจบลงแค่นั้น เคลวินไม่ได้ถามอะไรต่อ ใบบัวจึงรีบไปเรียกคนขับรถให้ไปส่งชายหนุ่มที่โรงพยาบาล แน่นอนว่าเธอต้องตามไปดูแลด้วย คืนนั้นเคลวินถูกเย็บแผลไปสามเข็มถ้วน
เช้าวันต่อมา ฝันเฟื่องแปลกใจเป็นอย่างมากที่รู้ว่าใบบัวสามารถทำให้เคลวินไปหาหมอที่โรงพยาบาลได้ แถมเช้านี้ เขายังยอมลงมากินข้าวที่โต๊ะอาหารของครอบครัว
สีหน้าของเคลวินดูสดชื่นขึ้น เมื่อได้ออกมาเจออากาศภายนอก ใบบัวเป็นคนคดข้าวให้ แล้วเดินถอยมายืนกุมมือรอเงียบๆ ต้องรอให้เคลวินกินข้าวเสร็จก่อน ใบบัวถึงจะเข้าไปกินข้าวในครัวได้ วันนี้ฝันเฟื่องทำหลนเต้าเจี้ยว น่ากินมาก
"ทำไมไม่กินล่ะคะ"
"รอเธอ"
"รอหนู? รอทำไมคะ ปกติคุณก็กินเองได้นี่นา"
"แล้วปกติมือฉันเจ็บอย่างนี้ไหมล่ะ"
"อ้อ ที่แท้คุณก็อยากให้หนูป้อน"
"ไม่ใช่ ฉันไม่ได้อยากให้เธอป้อน แต่เธอต้องป้อน"
"พูดอะไรของคุณเนี่ย หนูงงไปหมดแล้ว" แต่ถึงอย่างนั้นใบบัวก็ยอมป้อนข้าวเคลวินแต่โดยดี ทว่าป้อนไปป้อนมาเธอก็เผลอกลืนน้ำลายตาม
"อึ่ก~"
"อยากกินเหรอ"
"คะ...คุณได้ยินหนูกลืนน้ำลายด้วยเหรอ" ใบบัวทึ่ง
"อืม ป้อนฉันคำแล้วเธอสลับกินคำก็ได้"
"ได้ยังไงคะ? ไม่เอาหรอก แบบนี้มันก็เท่ากับหนูจูบคุณทางอ้อมชัดๆ"
"ฉันไม่ถือ"
"แต่หนูถือ!" เคลวินเป็นฝรั่งเลยอาจจะไม่คิดมาก แต่เธอเป็นสาวไทยแท้ที่อยากเก็บจูบแรกไว้ให้แฟนคนแรก ใช่แล้ว ตั้งแต่เกิดมาใบบัวยังไม่เคยมีแฟนเลย เพราะฉะนั้นเธอไม่มีทางยอมเสียจูบแรกให้เคลวินง่ายๆ หรอก