เสียงกรีดร้องดังสนั่นเมื่อใบหน้าหล่อโน้มลงไปซุกไซร้บนซอกคอขาว กลิ่นหอมประจำกายของคนตัวเล็กปะทะเข้ากับจมูกโด่งของร่างกำยำ ดินแดนสูดความหอมเข้าเต็มแรงก่อนจะกดสันจมูกของตัวเองให้แรงมากขึ้นส่งผลให้คนใต้ร่างดิ้นทุรนทุรายราวกับถูกน้ำร้อนลวก ยิ่งเธอกรีดร้องเสียงดังเท่าไร ยิ่งสร้างความพึงพอใจให้กับเขามากเท่านั้น ดินแดนต้องการให้เจ้าเอยเจ็บปวดมากที่สุดไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม และคนที่จนตรอกอย่างเขาคงทำได้เพียงเท่านี้ ยิ่งเห็นเธอต่อต้านเขายิ่งหยิบยื่นให้ ทั้งสูดดม ขบเม้ม จนลำคอระหงเป็นรอยจ้ำแดง ดินแดนผละใบหน้าออกมาเล็กน้อยและมองดูผลงานของตัวเอง สีแดงจางๆ เพราะถูกดูดจากริมฝีปากทำให้เขากระตุกยิ้ม
“ฮื้อ!! ออกไปนะ”
เธอร้องไห้เหมือนคนบ้าคลั่ง นั่นแหละที่เขาต้องการ มือของเจ้าเอยหลุดออกจากพันธการทำให้ฝ่ามือเล็กๆ จิกทึ้ง และตีไปยังแผ่นหลังกว้าง เธอขยำเส้นผมสีดำของดินแดนจนใบหน้าของชายหนุ่มแหงนขึ้น เขาจิ๊ปากอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะกดข้อมือบางให้ลงบนโซฟาอีกครั้ง
“อย่าเสแสร้างทำเป็นรังเกียจกันไปหน่อยเลย ทั้งที่ลึกๆ เธอก็อยากได้ฉันจนตัวสั่น”
“ฮึก”
“บอกมาสิว่าไม่ได้ชอบฉัน” ดวงตาสีดำหรี่ลง สบตากับดวงตากลมที่เต็มไปด้วยน้ำตา
“ฉันเกลียดคุณ”
“...”
“คุณจะต้องเสียใจที่ทำแบบนี้”
เจ้าเอยพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ในประโยคนั้นเต็มไปด้วยความโอหัง ส่งผลให้ดินแดนกัดฟันกรอด ใบหน้าโกรธเกรี้ยวเพิ่มเป็นทวีคูณเมื่อได้ยินคำพูดท้าทาย เขาสะกดกลั้นอารมณ์ปะทุเพราะไม่ว่าจะทำยังไงเจ้าเอยก็ยังไม่ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป
“ฉันจะเปิดปากเธอออกมาเอง”
ราวกับปีศาจร้ายเข้าสิง ใบหน้าหล่อโน้มลงซุกไซร้ที่ซอกคอขาวอีกครั้ง กลิ่นกายเดิมปะทะเข้ากับจมูก แต่ครั้งนี้ดินแดนทำรุนแรงมากขึ้น ทั้งดูดดุนขบเม้มและกัดลำคอจนเป็นรอยสีแดงมากกว่าเดิม เจ้าเอยดิ้นพล่านและกรีดร้องอย่างหนัก ก่อนเสียงร้องของชายหนุ่มจะแทรกเข้ามาเมื่อเธอได้โอกาสกัดไปที่ใบหูเขาเต็มแรงจนดินแดนต้องผละใบหน้าออกมา
ดินแดนยกมือขึ้นกุมใบหูตัวเอง ไฟโทสะพุ่งทะยานกว่าเดิม ทว่าจังหวะนี้อะไรๆ ก็เป็นใจให้เจ้าเอยสวนแทงเข่าไปที่หน้าท้องแกร่งเข้าอย่างจังจนเธอหนีรอดจากพันธนาการร้าย และหนีมายืนเต็มสองขา
“เธอ!!”
“อย่าเข้ามานะ ถ้าเข้ามาฉันจะกัดหูคุณให้มันขาดไปเลย!!”
“ขู่?!”
“ฉันไม่ได้ขู่”
เจ้าเอยสะอื้นไปด้วยแยกเขี้ยวใส่คนตัวสูงไปด้วย เธอถอยหลังให้ห่างจากเขาให้มากที่สุด ร่างหนาเดินดุ่มๆ เข้ามาอีกครั้ง เจ้าเอยไม่รู้จะทำยังไงให้ตัวเองปลอดภัยจากน้ำมือของสัตว์ร้ายอย่างคนตรงหน้า และนี่เป็นประโยคที่กลั่นออกจากใจของหญิงสาวทั้งหมด
“ถึงคุณจะไม่นึกถึงจิตใจของฉัน ก็ห่วงความรู้สึกของเหมยบ้างเถอะ”
กึก...
สองเท้าของดินแดนหยุดชะงัก ร่างกายนิ่งค้างราวกับน้ำแข็ง มีเพียงแววตาเท่านั้นที่บ่งบอกว่าเขายังมีชีวิตอยู่
แววตาสั่นไหวเมื่อได้ยินชื่อของเหมย...คนรักของเขาที่ไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้ว
“แฟนคุณจะรู้สึกยังไงที่จากไปไม่นาน แฟนตัวเองก็มานอนกับผู้หญิงคนอื่น”
เจ้าเอยไม่มีอะไรจะเสีย เธอมองคนตรงหน้าอย่างประเมิน เห็นว่าดินแดนฉุกคิดเพียงแค่เอาชื่อของเหมยมาอ้าง
“เพราะฉะนั้นให้ทุกอย่างมันเป็นไปตามกฎหมายเถอะ ถ้าฉันทำผิดจริง ยังไงฉันก็หนีไม่พ้น”
เธอขอต่อสู้กับกฎหมายข้างนอก ดีกว่ามาอยู่กับศาลเตี้ยไร้ความปราณีอย่างเขา
“ปล่อยฉันออกไปเถอะนะ”
เจ้าเอยกำมือที่ชื้นเหงื่อแน่น เห็นนัยน์ตาคู่นั้นสั่นไหว ก่อนจะกลายเป็นแข็งกร้าวราวกับได้สติว่ากำลังถูกเธอตะล่อม
“ไม่มีทาง!”
“...!!”
“เธอได้ติดคุกแน่ไม่ต้องห่วง แต่ก่อนจะติดคุกจริง อยู่คุกจำลองที่นี่ไปก่อนก็แล้วกัน”
ร่างกำยำหันไปคว้าแก้วน้ำบนโต๊ะหน้าโซฟาก่อนจะเขวี้ยงมันลงพื้นจนแตกละเอียดตรงหน้าเจ้าเอย เฉียดปลายเท้าเธอนิดเดียว
เพล้ง!!!
คนถูกปาใส่ยืนตัวแข็งหลับตาแน่นกับเสียงแก้วแตกกระทบพื้น ก่อนเจ้าของห้องจะเดินออกไปไม่ลืมปิดประตูเสียงดังสนั่น
ตุบ...
ฉับพลัน ร่างบอบบางทิ้งตัวลงนั่งทรุดลงกับพื้นอย่างหมดแรง ในใจโล่งอกที่เขาไม่ทำอะไรเธอไปมากกว่านี้ แต่น้ำตายังคงไหลลงมาเมื่อคิดว่าสิ่งที่เจอมันเกินกว่าจะรับไหว
“ฮึก...”
มีเพียงน้ำตาเท่านั้นที่จะเป็นคำตอบทุกอย่างในเวลานี้
.....
เอาใจช่วยน้องเจ้าเอยกันด้วยนะคะ ฮรึกก
และที่สำคัญต้องเอาใจช่วยไรท์เตอร์ด้วยงับบ อุแงง คอมเมนต์พูดคุยกันได้นะคะ รออยู่นะค้าบ