05 | แรกพบ

971 คำ
17.30 น. หน้าตึกสูงตระหง่านขวักไขว้ไปด้วยพนักงานเพราะเป็นเวลาเลิกงานพอดี วันนี้เจ้าเอยได้กลับบ้านเร็วเพราะไม่มีประชุม เธอบอกลากับราเชนเพื่อนสนิทเมื่อครู่นี้เนื่องจากอีกฝ่ายต้องแยกตัวไปทางตึกจอดรถของบริษัท ส่วนหญิงสาวจะกลับเองโดยรถไฟฟ้าบีทีเอส ราเชนเร้าหรือจะไปส่งเจ้าเอยทุกวันทว่าเธอปฎิเสธอีกฝ่ายทุกครั้ง จะให้เพื่อนไปส่งที่บ้านได้ยังไงบ่อยๆ แค่อาศัยติดรถนานๆ ทีเธอก็เกรงใจจะแย่อยู่แล้ว คนตัวเล็กเดินทอดน่องไปตามฟุตบาทจนกระทั่งถึงบีทีเอสที่อยู่ใกล้กับบริษัท จากสถานีนี้ใช้เวลาเพียงสามสถานีก็ถึงอพาทเม้นที่คนตัวเล็กเช่าอยู่ เจ้าเอยเป็นคนต่างจังหวัด เข้ามาเรียนปริญญาตรีในกรุงเทพฯ ก่อนจะหางานทำที่นี่ตั้งแต่เรียนจบ เธอเช่าห้องพักเล็กๆ อาศัยอยู่ หญิงสาวใช้ชีวิตแบบธรรมดาไม่หวือหวา ตั้งใจทำงานเก็บเงิน ส่งเงินกลับไปให้พ่อกับแม่ทุกเดือน รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในชีวิตและมีเงินเก็บเป็นของตัวเองถึงจะไม่มากแต่ก็ไม่ขัดสน วันหยุดเสาร์อาทิตย์ก็นัดเจอเพื่อนบ้าง ชีวิตของเธอแสนจะเรียบง่ายและมีความสุขดี เจ้าเอยตั้งใจจะกลับบ้านที่ต่างจังหวัดในวันหยุดยาวที่จะถึงนี้ และกะจะลางานเพิ่มอีกสองวันเพื่อให้ได้อยู่บ้านได้นานขึ้น แค่คิดเธอก็ดีใจที่จะได้เจอพ่อกับแม่แล้ว “อยากให้ถึงวันหยุดเร็วๆ จังแฮะ” ริมฝีปากเล็กสีชมพูพึมพัมคนเดียวภายใต้หน้ากากอนามัยที่ใส่อยู่ ทอดสายตามองผู้คนที่ทยอยกันเดินเข้ามายืนรอรถไฟฟ้าจนกระทั่งรถไฟเคลื่อนตัวมาถึง ภายในขบวนเบียดเสียดไปด้วยประชากรที่ต่างก็รีบกลับบ้านในช่วงเวลาเลิกงานแบบนี้ มือเล็กหยิบหูฟังจากในกระเป๋าสะพายออกมาและใส่เข้าในหูทั้งสองข้างของตัวเอง เปิดเพลงสบายๆ ฟัง เวลาผ่านไปไม่นานก็ถึงสถานีที่เธอจะต้องลง ตอนนี้เป็นเวลาหกโมงเย็นแล้ว ท้องฟ้าใกล้จะมืดลง พระอาทิตย์ค่อยๆ ลับขอบฟ้า ทางเข้าอพาทเม้นของเจ้าเอยค่อนข้างลึกเข้าไปในซอยแคบๆ ที่เป็นถนนเลนส์เดียว ไม่ค่อยมีรถยนต์สัญจรเพราะข้างในเป็นซอยตัน จะมีมอเตอร์ไซต์รับจ้างวิ่งสวนไปมาบ้างแต่เธอไม่ค่อยได้เรียกใช้บริการสักเท่าไร คนตัวเล็กเดินเข้าออกจนชินซะแล้ว แต่วันไหนไปทำงานสายก็มีบ้างที่ต้องเรียกพี่วิน แต่วันนี้ไม่ต้องรีบกลับไปทำอะไร ทำให้ร่างบางเดินไปตามทางริมกำแพงที่เพิงด้วยสังกะสีเพราะตรงนี้เป็นเขตก่อสร้างของบ้านหลังใหญ่ เพราะเป็นสถานที่ที่กำลังก่อสร้างอยู่ จากที่รถเข็นขายของริมทางหลายร้าน ตอนนี้ก็ว่างเปล่าเงียบเหงา เพราะร้านเหล่านั้นหนีไปอยู่ที่อื่นกันหมด ทั้งร้านขายน้ำ ขายลูกชิ้น ขายผลไม้ ขายของกินมากมายก็หายไปตั้งอยู่อีกที่ ทำให้ตอนนี้เจ้าเอยเดินอยู่เพียงลำพังในเวลาที่พระอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้าลงเต็มที เสียงเพลงยังเล่นอยู่ในหูฟังทั้งสองข้าง ส่งผลให้เธอไม่ได้ยินเสียงรถยนต์สุดหรูที่ขับตามอยู่ด้านหลัง รถยนต์ราคาแพงที่ไม่ค่อยเห็นบ่อยในซอยธรรมดาๆ แบบนี้ ล้อทั้งสี่หยุดนิ่งทันทีเมื่อขับมาเทียบเคียงร่างบอบบางของคนที่เดินฟังเพลงไม่รู้เรื่องอะไร จนกระทั่งเจ้าเอยรู้สึกตัว เธอรีบดึงสายหูฟังออกก่อนจะมองรถยนต์ที่จอดเทียบคันข้างกายด้วยสายตาไม่เข้าใจ เธอก็ไม่ได้ไปเดินเกะกะทางรถยนต์สักหน่อย ทำไมรถคันนี้ถึงมาหยุดอยู่ข้างเธอราวกับต้องการบางอย่าง และฉับพลันความสงสัยที่มีก็ยิ่งทวีคูณขึ้น เพราะกระจกที่ติดฟิล์มสีทึบฝั่งคนขับค่อยๆ เลื่อนลงมา ปรากฏบุคคลที่เธอแทบจะไม่อยากเชื่อสายตา “...!!” ดวงตากลมเบิกกว้างอย่างตกตะลึง ในขณะที่ร่างสูงหลังพวงมาลัย BMW ถอดแว่นกันแดดออกจากใบหน้า ทำให้เจ้าเอยแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง “เธอ...เจ้าเอยหรือเปล่า?” สุ้มเสียงทุ้มเข้มกังวานอยู่ในโซนประสาท หญิงสาวไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำหน้าตาแบบไหนอยู่ แต่เดาว่ามันคงเหวอมากๆ “ค...ค่ะ” เธอตอบออกไปเพราะคนที่นั่งประจำตำแหน่งคนขับนิ่งงันรอฟังคำตอบ เขาคือคนที่เธอรู้จักเป็นอย่างดี รู้จักดีมากๆ และไม่คิดว่าอีกฝ่ายคือคนหน้าเหมือนแต่อย่างใด ดินแดน... ศิลปินในดวงใจที่เจ้าเอยชอบมากที่สุด และตอนนี้เขากำลังอยู่ตรงหน้าของเธอ “ฉันมีธุระจะคุยด้วย” “คะ?” เจ้าเอยเบิกตากว้างยิ่งกว่าไข่ห่าน ดินแดนน่ะเหรอมีธุระจะคุยกับเธอ แล้วเขามาทำอะไรที่นี่ ตรงนี้?? เราสองคนไม่เคยรู้จักกัน ไม่สิ เขาไม่เคยรู้จักเธอ แต่เธอน่ะรู้จักเขาเป็นอย่างดี แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ “ธุระอะไรเหรอคะ” “ขึ้นรถมาสิ” “...” “ธุระสำคัญ” ดวงตาสีเข้มเย็นเหยียบ ทว่าความตกใจในความเป็นไปไม่ได้ทำให้หญิงสาวไม่ทันได้สังเกต เธอกระพริบตาปริบๆ พลางชั่งใจในหัวสมอง แต่สมองของเจ้าเอยทำงานช้าลงและตีรวนกันมั่วไปหมด เธอกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ หันมองซ้ายมองขวาก็ไม่มีใครผ่านมาแถวนี้ “กลัวฉันหรือไง” “เปล่าค่ะ ฉันแค่สงสัย” “ขึ้นมาเถอะ” “...” “คุยไม่นาน”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม