“เป็นอะไร ทำไมทำหน้าแบบนั้น” “เปล่าค่ะ พราวไม่ได้เป็นอะไร” พราวเพตราพยายามควบคุมท่าทางให้เป็นปกติมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หญิงสาวไม่ทราบว่าจ้าวอี้ฟงรู้แล้วว่าเธอได้ยินเรื่องที่เขาพูดคุยกับลูกน้อง เพราะต่อให้กลบเกลื่อนอาการอย่างไรก็ไร้ประโยชน์ “งั้นก็เข้าบ้านเถอะ” จ้าวไป่เฟิงว่า พราวเพตราได้แต่พยักหน้ารับ ก่อนจะเดินตามมาเฟียหนุ่มเข้าไปด้านใน ในขณะที่จ้าวอี้ฟงเองก็บังคับรถเข็นของเขาเข้าไปในตัวคฤหาสน์หลังใหญ่เช่นกัน และจับจ้องสายตาอยู่ที่พราวเพตราด้วยแววตาวาวโรจน์ ก่อนจะปรับแววตาให้ราบเรียบในชั่วเสี้ยวนาที “เอ่อคุณจ้าวคะ พราวมีเรื่องจะคุยด้วยค่ะ” พราวเพตราบอกตอนที่ช่วยจ้าวไป่เฟิงปลดกระดุมเสื้อออก มาเฟียหนุ่มเหลือบสายตาลงมองหญิงสาวที่ช้อนสายตาขึ้นมองเขา “เอาไว้คุยก่อนนอนก็แล้วกัน เสี่ยวเฟิงรอกินข้าวอยู่” “แต่ว่า…” “เสี่ยวเฟิงรออยู่” น้ำเสียงที่เข้มขึ้นเล็กน้อยทำให้พราวเพตราได้แต่เม้ม