“ที่นี่ที่ไหน? ใครเป็นคนจับฉันมา”
คำถามแรกจากคนถูกพวกโจรป่าเถื่อนลักพาตัวออกมาจากงานแต่งงาน เจ้าสาวแสนสวยสะลึมสะลือด้วยฤทธิ์ยาสลบ หญิงสาวรู้สึกตัวเมื่อเห็นสถานที่ไม่คุ้นตา
เธอจำได้ว่าก่อนถูกเหตุการณ์พวกชายฉกรรจ์ชุดดำลักพาตัวข้างในงานวิวาห์ของตนเองและปรเมศ (อดีต)คู่หมั้นเธอ
กิ่งพยอมพบว่าตัวเองถูกล่ามโซ่เอาไว้ติดกับข้อมือและข้อเท้าขาวเนียนทำตัวเหมือนเธอเป็นนักโทษร้ายแรง หรือว่าโจรจะจับตัวเธอเรียกค่าไถ่จากพ่อแม่เพื่อต้องการเงิน เพราะเห็นว่าเป็นลูกสาวเศรษฐี ต้องใช่อย่างหลังแน่นอน
“ชะ ช่วยด้วย มีใครอยู่ข้างนอกมั้ย มีคนติดอยู่ในนี้ ช่วยด้วย”
กิ่งพยอมหวาดกลัวกับสถานที่บ้านหลังไม้เก่าแก่ ถัดไปจากตัวเธอเป็นเตียงฟูกนอนสีขาวสะอาดใหม่เอี่ยม ถึงแม้เป็นบ้านไม้หลังเล็กมีแต่เตียงนอนและตะเกียงอันเดียว
ภายในพื้นห้องกลับสะอาดเหมือนว่าเคยมีคนเข้ามาทำความสะอาดบ่อยครั้ง ราวเตรียมการว่าจะมีคนมาอยู่ที่นี่ตลอดไป
หญิงสาวออกแรงข่วนผนังไม้ของห้อง หาทางเอาโซ่ล่ามผูกติดตรงเสาห้องอยู่ใกล้ๆ จนเกิดรอยเลือดแดงเสียดสีตรงข้อเท้าทั้งสองข้าง แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ผล เธอหวังว่าจะมีใครมาช่วยหลุดพ้นจากที่นี่ได้
เสียงประตูบ้านถูกคนด้านนอกผลักออกรุนแรงตามอารมณ์โกรธแค้นเคือง ใบหน้าถมึนทึงทำเอาเจ้าสาวไร้วิวาห์หวาดกลัว ตัวสั่นระริกจนควบคุมตัวเองไม่อยู่
“นายวีร์!”
“ตื่นมาแล้วก็แหกปากร้องลั่นโวยวายไปทั่วไร่ของฉัน เป็นนกหวีดหรือไง ถึงได้ร้องกรี๊ดดังลั่นจนแสบแก้วหูไปหมด”
ปรวีร์ สกุลเรวัติ นายใหญ่แห่งไร่ภูฟ้า ลูกชายรองของมาริคที่สืบทอดกิจการบริหารไร่ชาและกาแฟต่อจากพ่อ และคัดเลือกผลผลิตที่ดีส่งเข้าสู่บริษัทใหญ่ที่พี่ชายบริหารงานอยู่ในกรุงเทพฯ
ชายหนุ่มได้รับฉายาจากคนแถวนี้ว่าเขาเป็นอันธพาล มีอิทธิพลควบคุมพื้นที่ที่นี่ แน่นอนว่าความใหญ่โตทำให้ตัวเขาเองมีศัตรูลอบจะทำร้ายมากมาย
ดังนั้นปรวีร์ต้องป้องกันตัวเองและมีลูกน้องฝีมือดีคอยคุ้มกันนายใหญ่ของที่ตรงนี้ไม่ให้เกิดอันตราย
“ยะ อย่าบอกนะว่าเป็นฝีมือของนาย ปล่อยฉันกลับกรุงเทพฯ เดี๋ยวนี้ ถ้าหากพ่อแม่ฉันและพ่อแม่นายรู้เข้า นายนั่นแหละจะต้องเดือดร้อน ปล่อยฉันออกไปเถอะ ยังไงนายก็จะกลายเป็นน้องเขยของฉัน นายวีร์”
เจ้าสาวแสนสวยยกมือไหว้เอ่ยเว้าวอนขอร้อง ขอความเห็นใจจากน้องชายของ(อดีต)คู่หมั้น ยิ่งเห็นสภาพแบบนี้ เธอยิ่งรังเกียจตัวเองมากขึ้นต้องเอาชีวิตรอดจากอันธพาลเถื่อนด้วยการยอมก้มหัวให้เขา
“ฉันไม่ได้อยากเป็นน้องเขย แต่ฉันอยากเป็นผัวเธอต่างหาก ลืมไปแล้วเหรอว่าคืนนั้นเราทำอะไรกัน หรือว่าเธอจำไม่ได้ว่าถูกผัวเถื่อนคนนี้เอากี่รอบแล้ว?”
ปรวีร์เชยคางเล็กเงยหน้าสบตากับเขา แต่ถูกเธอฉวยโอกาสตบหน้าคมสันรุนแรงจนหน้าชาดิกไปครึ่งซีก
“เลว! ฉันไม่เคยเจอใครคนไหนที่เลว ห่าม ไม่เป็นสุภาพบุรุษ ชอบรังแกคนไม่มีทางสู้ นายมันเลวสุดขั้วเกินที่ฉันจะบรรยายออกมา” ยอมรับว่าตอนนี้เธอกลัวเขามาก กลัวว่าคนป่าเถื่อนจะฆ่าเธอหมกป่าท้ายไร่ตามคำขู่แต่แรก
“คำก็เลว สองคำก็เลว คนที่เธอกำลังด่าอยู่ตรงหน้าเป็นผัวเลวของเธอนี่แหละ ปากดีนักต้องถูกผัวจูบสั่งสอน”
ปากของเธอถูกปากเขาบดขยี้กดจูบดูดดื่มแฝงความแค้น เขาต้องการสั่งสอนคนปากเก่งว่าอย่าอาจริท้าทายอำนาจผู้มีอิทธิพลของที่นี่อีก
“อะ อื้อ”
รสจูบครั้งนี้แตกต่างจากครั้งแรกโดยสิ้นเชิง ไม่มีความอ่อนโยน เธอมีแต่เจ็บ เจ็บแสบ เมื่อคนเอาแต่ใจขบเม้มกัดปากแดงระเรื่อสีชมพูเบาๆ
“ไอ้เลว”
พอพ้นอิสระจากการถูกจูบหนักหน่วง หญิงสาวโกรธตัวสั่นถูกหยามเกียรติศักดิ์ศรีลูกผู้หญิง เธอกำลังง้างมือจะตบสั่งสอนเขาอีกครั้ง ทว่าเขารู้ทันรวบจับข้อมือทั้งสองบีบไว้แน่น
“ตบอีกสิ ฉันจะได้จูบเธอสองเท่า หรือว่าเธอติดใจรสจูบฉันจึงอยากตบฉันอีกรอบ”
กิ่งพยอมข่มอารมณ์ขุ่นเคืองไว้ในใจพลางสะบัดข้อมือเต็มด้วยรอยเลือดที่ผูกติดกับกุญแจมือ ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากย่ามใจ
เขาเหลือบมองลำคอขาวเนียนไม่มีรอยตีตราแต่ก่อน คงใช้แป้งปกปิดความอับอายตัวเองได้แนบเนียน ถึงรอยจูบเก่าจางหายไป เขาจะทำรอยตีตราความเป็นเจ้าของมาใหม่
“จะ ทำอะไร” เอ่ยถามเสียงสั่น
ปรวีร์ไม่สนใจคำถามของนางบำเรอคราบเจ้าสาวเปื้อนรอยคาวโลกีย์ ปากอุ่นร้อนกดจูบทำรอยใหม่ชัดเจนกว่าเดิมจนเต็มทั่วลำคอขาวและร่องเนินอก เขาพึงพอใจกับผลงานชิ้นนี้มาก ‘สัตว์เลี้ยง’ ของตนเอง
“มีรอยขึ้นมาแบบนี้ค่อยดีหน่อย นางบำเรอของฉัน”
“ปล่อยฉันไปเถอะ นายวีร์ แล้วฉันจะไม่เอาเรื่อง”
กิ่งพยอมยอมนั่งนิ่งให้คนซาดิสม์กระทำย่ำยีทั้งร่างกายและจิตใจจนเจ็บแสบไปทั้งตัว เขาน่าจะพอใจได้แล้ว
“เรื่องอะไรฉันจะปล่อยเธอไปง่ายๆ ไม่ต้องห่วงพ่อแม่ของเธอหรอก เพราะฉันส่งข้อความไปบอกพวกเขาทางโน้นแล้วว่าเธอตัดใจจากพี่ชายฉันและไม่แต่งงานกับพี่เมศแล้ว ทีนี้ก็ไม่มีใครตามหาเธอได้อีกต่อไป”
ปรวีร์โชว์สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดของกิ่งพยอมที่ฉกฉวยออกมาจากตัวเธอ หญิงสาวชะล่าใจ ไม่ได้ตั้งรหัสผ่านปลดล็อคตัวเครื่อง ข้อความส่งไปด้วยฝีมือคนเลวทำเอาเจ้าของโทรศัพท์ตัวจริงกำมือแน่น
‘ขอโทษทุกคนด้วยที่ทำให้ต้องเดือดร้อนเพราะกิ่ง กิ่งรู้ดีว่าพี่เมศไม่ได้รักกิ่งเหมือนคนรัก กิ่งไม่รู้จะแต่งงานกับคนที่เขารักแบบน้องสาวทำไม กิ่งขอเวลาทำใจสักพัก ทุกคนอย่าตามหากิ่ง ถ้าตามหา กิ่งจะหนีไปให้ไกลที่สุด พอกิ่งทำใจเรื่องพี่เมศได้ กิ่งจะกลับมาเอง จากกิ่งพยอม’
“ไอ้บ้า เอาโทรศัพท์ฉันคืนมานะ”
“เรื่องอะไรฉันจะปล่อยให้เธอหนีไป”
นายใหญ่ของไร่ภูฟ้าตั้งใจโยนโทรศัพท์ลงพื้น จากนั้นเท้าหนาเหยียบบดขยี้จนเครื่องแตกจนไม่สามารถใช้การได้อีก
“โทรศัพท์ของฉัน นายวีร์”
“แย่จัง เผลอทำตกจนได้ ขอโทษแล้วกันนะที่รัก แล้วฉันจะซื้อเครื่องใหม่ให้เธอ”
เขาเอ่ยยียวนกวนประสาทนางบำเรอใหม่ของตัวเอง เป็นคนของเขาต้องไม่มีเครื่องติดต่อสื่อสาร กลัวว่าเธอจะหนีไป
“นายวีร์”
“ปากดีอย่างนี้ยังไม่สำนึก ปล่อยเอาไว้ที่นี่ไม่ให้กินข้าวกินปลาสักหนึ่งอาทิตย์เลยเป็นไง”
“นายจับตัวฉันมาทำไม เรื่องของฟ้าใส ฉันไม่รู้เรื่องอะไรด้วยซ้ำ นายแก้แค้นผิดคนแล้ว”
ร่างบางในชุดเจ้าสาวเปื้อนเลือดเล็กน้อยเพราะรอยเลือดจากข้อมือสองข้างที่เสียดสีเอาชีวิตรอดจากพวกโจรป่าเถื่อน
“ฉันไม่เชื่อ คนหลอกลวงมารยาหญิงอย่างเธอคงหาวิธีปฏิเสธความผิดเพื่อจะหลบหนีจากฉัน เธอต้องอยู่ที่นี่ในฐานะสัตว์เลี้ยงใหม่ของฉัน”
“ฉันไม่ใช่สัตว์เลี้ยงของนายนะ นายวีร์ โอ๊ย เจ็บ”
‘สัตว์เลี้ยง’ ใหม่ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดเมื่อชายหนุ่มออกแรงผลักร่างบอบบางไร้เรี่ยวแรง จนกิ่งพยอมทั้งเจ็บตัวทั้งเกลียดอันธพาลที่ทำร้ายผู้หญิง
“อยากร้องก็ร้องไปเถอะ เพราะไม่มีใครช่วยเธอได้”
การแก้แค้นของปรวีร์เพิ่งเริ่มต้นขึ้น เธอต้องได้รับความเจ็บปวดทุกข์ทรมานมากกว่าเขาเคยเจ็บหลายเท่า
……
นายใหญ่ของไร่ภูฟ้า เกี่ยวกับบริหารไร่ชาและกาแฟทางภาคเหนือตอนบน ปรวีร์ควบคุมคนงานในไร่ทำให้คนงานรักและเคารพนายใหญ่ที่นี่
“นายใหญ่จะกักขังผู้หญิงคนนั้นไว้ที่ท้ายไร่แบบนี้เลยเหรอครับ ผมว่าเธอดูน่าสงสารออก ผมไม่คิดว่าลูกสาวของคุณพศินที่ทำไร่องุ่นติดกับไร่ของเรา จะจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตสั่งการฆ่าคุณฟ้าใสและลูกนายในท้องได้ลงคอ”
อัคคี ลูกน้องคนสนิทรู้ใจนายใหญ่ เขาเป็นลูกชายของเพลิง ซึ่งเคยคนรับใช้พ่อมาริคมาก่อน เขาพอได้ยินสาเหตุความแค้นของปรวีร์ที่มีต่อผู้หญิงชื่อกิ่งพยอม
“ฟ้าใสมีกิ่งพยอมเป็นเพื่อนรักคนเดียว ถ้าไม่ใช่เธอทำกับเพื่อนรักแล้วใครจะทำ!”
“เท่าที่ผมทราบ คุณกิ่งรักพี่ชายของนาย ถ้าหากนายใหญ่คบกับฟ้าใสเพื่อตัดใจจากเธอ คุณกิ่งจะทำร้ายเพื่อนตัวเองเพราะอะไรล่ะครับ เพราะเธอไม่ได้รักนายใหญ่”
อัคคียังคงไขข้องใจกับเรื่องราวความรัก ความแค้นซับซ้อนของนายใหญ่
“นายไม่รู้อะไรอย่าพูดมากดีกว่า ห้ามให้พวกคนงานมาป้วนเปี้ยนแถวท้ายไร่เด็ดขาด และห้ามช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงและห้ามให้อาหาร ถ้านายฝ่าฝืนคำสั่ง ฉันจะให้นายเข้าไปอยู่ข้างในนั้นแทน”
“ครับนายใหญ่”
อัคคีมองตามนายใหญ่เดินออกจากบ้านไม้ท้ายไร่ด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว น้ำเสียงเข้มเอ่ยหงุดหงิด ปากบอกว่าแก้แค้นให้ทุกข์ทรมานตายทั้งเป็น แต่สิ่งที่แสดงออกตอนนี้ดูเหมือนเจ้าตัวร้อนรนใจมากกว่า