ตอนที่ 7

2087 คำ
ทอส ธีรภพ ผมกำลังนั่งรอใครคนหนึ่งในห้องโถงใหญ่ซึ่งมีเพียงโซฟาสีเลือดหมูถูกจัดวางที่ข้างฝาผนังของห้อง บรรยากาศภายในห้องแห่งนี้มันรู้สึกว่าเงียบสงบแปลกๆ แม้เครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่กำลังทำงานอยู่ก็ตาม ผมนั่งรอด้วยจิตใจหวาดหวั่นทั้งที่รู้ว่าคนที่ผมมานั่งรอนี้เขาคนนั้นจะร้ายกาจเพียงใดแต่ผมมีความจำเป็นที่จะต้องมาพบเขาให้ได้ในวันนี้ เวลาผ่านไปไม่นานลูกบิดประตูก็ถูกใครบางคนบิดด้วยความแรงแล้วเปิดเข้ามาช้าๆ ก็ปรากฏร่างสูงใหญ่ของใครคนนั้นที่ผมต้องการพบยืนอยู่ด้านหน้าประตูด้วยสีหน้าแววตาที่เคร่งเครียด ทันทีที่มันมองเห็นว่าเป็นผมสีหน้าของมันก็เริ่มมีรอยยิ้มและแสดงออกถึงความเจ้าเล่ห์ทางสายตาอย่างเด่นชัด มันก้าวขาเข้ามาภายในห้องช้าๆ อย่างนวยนาด เม็ดเหงื่อเล็กๆ ของผมกำลังซึมออกจากฝ่ามือ ตามใบหน้าอย่างรู้สึกประหลาด ผมรู้สึกกลัวมันขนาดนี้เชียวเเหรอ ไม่ได้ซิเมื่อผมได้มาถึงที่นี่แล้วไม่ว่าจะเป็นตายร้ายดียังไง ผมก็ต้องคุยกับมันให้รู้เรื่องประหนึ่งสุภาษิตไทยที่ว่า 'ใจดีสู้เสือ' อย่างไรอย่างนั้น เมื่อมันก้าวขามาหยุดยืนตรงหน้าผม ผมสัมผัสได้ถึงรังสีอำมหิตที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวของมันอยู่ตลอด ผมคิดในใจเพียงว่าเป็นไงเป็นกันก่อนพยายามรวบรวมสติและควบคุมความกลัวไว้ภายใต้สีหน้าจริงจังบวกกับความมุ่งมั่นแล้วลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับดวงตากลมโตที่ดูอบอุ่นอ่อนโยนอย่างผิดคาดขึ้นมาทันควันอย่างไม่น่าเชื่อสายตา จากนั้นผมจึงค่อยๆ ถอดเสื้อคลุมหนังสีดำออกลงวางไว้บนโซฟา ตามด้วยเสื้อเชิ้ตสีเทาและกางเกงยีนส์เนื้อดีออกวางบนโซฟาในตำแหน่งเดียวกัน จนร่างของผมเหลือเพียงเสื้อกล้ามสีขาวและกางเกงบ๊อกเซอร์ลายสก๊อตสีฟ้าเท่านั้น ผมสังเกตแววตาของมันอีกครั้งสายตาที่ดูอบอุ่นและอ่อนโยนเมื่อกี้พลันเปลี่ยนเป็นความหื่นกระหายในฉับพลัน มีใครบอกผมหน่อยสิครับว่ามันไม่ได้เป็นไบโพล่า ทำไมอารมณ์เปลี่ยนแปลงไปได้รวดเร็วขนาดนี้ ผมยืนประจันหน้ากับมันด้วยความมั่นคงทางจิตใจเพื่อไม่ให้มันได้สัมผัสถึงความหวาดกลัวที่กำลังเกิดขึ้นในใจของผมจนแทบยืนไม่อยู่ ผมยิงคำถามที่ผมอยากรู้มานานใส่มัน "กุขอถามมึงจริงๆ นะ แกคิดยังไงถึงมาทำธุรกิจค้ากามผู้ชายแบบนี้?" แต่ดูแล้วมันไม่ได้สนใจในคำถามของผมเลย สายตาของมันกำลังโลมเลียเรือนร่างของผมทุกซอกทุกมุมจนแทบละลายไปด้วยสายตาอันหื่นกระหายของมันเสียให้ได้ "ตกลงที่นายมาเนี่ยเพื่อจะมาแก้แค้นให้พี่ชายหรือสนใจอยากจะเป็นเครื่องสังเวยกามให้กับกูกันแน่ กูชักจะสนใจมึงขึ้นมาแล้วสิ บอกมาตรงๆ ดีกว่าว่ามึงต้องการอะไร?!" ขณะที่ฝีปากของมันกำลังต่อล้อต่อเถียงกับผมแต่สายตาของมันยังไม่ละจากเรือนร่างของผมเลยแม้แต่วินาทีเดียว ผมเริ่มรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยของตัวเองเสียแล้ว ไหนๆ ก็ไหนๆ เมื่อมันถามมาตรงๆ แบบนี้ผมก็คงต้องตอบคำถามมันตรงๆ ออกไปเช่นกัน "กูต้องการให้มึงไปขอขมาพี่แบงค์ กูรู้ว่ามึงชอบพี่แบงค์มากถึงขั้นไปหาเขาถึงบริษัทของแฟนกู กูอยากให้มึงไปขอโทษเขาและสัญญาด้วยสัญชาตญาณความเป็นลูกผู้ชายที่ยังพอจะมีอยู่ในตัวของมึง ว่ามึงจะไม่ยุ่งและจะไม่คิดทำร้ายเขาอีก กูขอแค่นี้แหละจะได้ไหม มันคงไม่มากเกินไปสำหรับมึงเหรอกนะ!!" "มึงแน่ใจนะว่ามึงต้องการแค่นี้ กูรู้สึกว่าการกระทำของมึงตอนนี้มันกำลังเชื้อเชิญให้น้องชายในกางเกงของกูเข้าไปอยู่ในบันท้ายมึงมากกว่านะ มึงต้องการอย่างหลังใช่ไหมถึงได้มายั่วกูแบบนี้.." ผมถึงขั้นกลืนน้ำลายเอื้อกใหญ่ที่ได้ยินคำพูดของมัน "จะว่าไปมึงก็กล้ามากนะ กล้าที่จะเข้ามาในถิ่นของกู ทั้งๆ ที่รู้ว่ากูเป็นใคร!!" มันยอกย้อนคำพูดผมไปมาอย่างทันทีทันใดไม่ต่างกัน สายตาบวกกับท่าทางของมันเริ่มจะไม่น่าไว้ใจเท่าที่ควรขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมันเริ่มทำการปลดเปลื้องอาภรณ์บนร่างกายออกทีละชิ้นๆ อย่างสบายใจ "สิ่งที่กูก็เพียงจะบอกมึงว่า นอกจากพี่ชายที่ดูอ่อนต่อโลกของกูแล้ว ยังมีคนอื่นที่น่าสนใจสำหรับมึงอีกนะ มึงเลิกล้มความคิดที่จะทำร้ายพี่ชายของกูเถอะถือว่ากูขอ.." ผมบอกถึงความรู้สึกของผมที่มีความจริงจังจริงใจกับมันแต่ก็ถูกมันตอบกลับมาแทบตั้งตัวไม่ทัน "ถ้ามึงพูดแบบนี้กูก็รู้แล้วล่ะว่าคนๆ นั้นคงจะไม่ใช่ใครที่ไหนเหรอก ที่กูกำลังสนใจถ้าไม่ใช่มึง.. มาเป็นของกูดีๆ แล้วกูจะไม่ยุ่งกับพี่ชายมึงตกลงมั๊ย?" ไม่ทันที่มันจะพูดจบประโยชน์ ฝ่ามือใหญ่ของมันก็เหนี่ยวรั้งเอาร่างของผมเข้าไปกอดแนบชิด ผมไม่ขัดขืนปล่อยให้มันทำตามใจที่มันปรารถนาอย่างย่ามใจเพราะอีกไม่ถึง 1 นาทีมันก็จะเป็นไปตามที่ผมวางแผนเอาไว้ ทันใดนั้นมันก็... "เอ้ออ?!.. เอ่ออ.. นี่มึงทำอะไรกู!! ทำไมกูหายใจไม่ออก มึงทำอะไรกับกู?" เมื่อผมเห็นว่ามันล้มลงไปนอนกับพื้นแล้วใช้มือใหญ่พยายามจับลำคอของตัวเองพร้อมทั้งลูบคลำไปมาอย่างทุรนทุรทาย มันคงเริ่มหายใจติดขัดขึ้นมากะทันหัน ผมเห็นภาพนั้นทำให้ผมอดจะฉีกยิ้มใส่มันด้วยความสะใจไม่ได้ ก่อนจะหันหลังก้มลงไปหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวมใส่ตามเดิม จากนั้นผมก็ค่อยๆ ล้วงมือเข้าไปหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกงเปิดฝาส่งให้มันดมซักพักมันก็เริ่มกลับสู่สภาวะปกติ "มึงฟังกูให้ชัดๆ นะ กูจะพูดช้าๆ ชัดๆ ให้มึงฟัง สิ่งที่แกเพิ่งได้รับเข้าสู่ร่างกายไปจากการสัมผัสและสูดดมบริเวณลำคอขาวๆ ของกูเมื่อกี้ มันคือสารชนิดหนึ่ง เมื่อสารตัวนี้ออกฤทธิ์มึงจะหายใจติดขัดหากไม่รีบดมสารอีกตัวหนึ่งเพื่อเป็นตัวแก้กับสารที่มึงสัมผัสไปเมื่อสักครู่นี้ มึงก็จะขาดใจตายภายใน 5 นาที แล้วคราวนี้มึงจะทำตามที่กูสั่งได้หรือยัง ไอ้นะ!!" ผมแผดเสียงดังใส่หน้ามันก่อนที่มันจะค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วคุกเข่าต่อหน้าผมเหมือนกับกำลังอ้อนวอนให้ผมไว้ชีวิตมัน "มึงต้องการอะไร กูยอมทำตามคำสั่งของมึงทุกอย่างขอเพียงมึงให้ยาแก้กับกูเท่านั้น ขอร้องอย่าทรมานกูแบบนี้เลย.." "แล้วสิ่งที่มึงทำกับพี่ชายของกูล่ะ มึงคิดบ้างไหมว่าเขาก็ทรมานเหมือนตายทั้งเป็น ไม่ต่างจากที่มึงกำลังเป็นอยู่ตอนนี้" ผมระบายความรู้สึกที่อัดอั้นใส่หน้ามัน กลับไม่มีคำโต้ตอบรุนแรงจากปากของมันอีกเลย ก่อนที่ผมจะออกคำสั่งกับมันหลังจากที่มันดูสงบนิ่งเหมือนหมาตัวหนึ่ง "... ถ้าอย่างนั้นมึงตามกูมาและห้ามให้ลูกน้องของมึงเข้ามายุ่งเรื่องนี้เด็ดขาดแล้วก็ไม่ต้องคิดจะมาตลบหลังกูด้วย ไม่อย่างนั้นมึงได้ตายเหมือนหมาข้างถนนแน่!!" ทุกอย่างเป็นไปตามที่ผมสั่งอย่างเคร่งครัด ผมใช้เวลาเพียงไม่นานก็พาอาชญากรค้ามนุษย์ตัวฉกาจมายังสนามบินที่ห้องผู้โดยสารขาออก พอไปถึงบรรยากาศภายในอาคารผู้โดยสารขาออกเริ่มดูวุ่นวาย ผู้คนมีอาการหวาดกลัวที่ผมกำลังนำตัวอาชญากรมาขอขมาพี่แบงค์ถึงภายในตัวอาคารผู้โดยสารและทันทีที่พี่แบงค์เห็นหน้ามันเขาก็เริ่มมีอาการหวาดกลัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแต่ทางตัวอาชญากรเองกลับมีทีท่าอาการตึงเครียด ดูห่อเหี่ยวเพราะฤทธิ์สารตัวนั้นอย่างน่าเวทนา ผมรีบผลักมันให้นั่งคุกเข่าลงต่อหน้าพี่แบงค์แล้วรีบไปนั่งประกบด้านข้างพี่แบงค์เพื่อปลอบขวัญ "พี่แบงค์ไม่ต้องกลัวนะครับ ผมพามันมาขอขมาพี่กับการกระทำอันเลวทรามของมัน" ผมโอบกอดพี่แบงค์ไว้ในอกด้วยความรู้สึกสงสาร ในขณะที่พี่แบงค์ก็พูดพึมพำในลำคอว่าอย่าเข้ามาๆ อยู่ตลอดเวลา จังหวะเดียวกันไอ้นะเริ่มมีอาการหายใจติดขัดขึ้นมาอีกครั้ง ผมจึงรีบส่งสารแก้อาการหายใจติดขัดให้มันดม โดยที่มือของมันถูกมัดไพล่หลังไม่สามารถที่จะตอบโต้หรือทำร้ายใครได้ "รีบขอโทษ ขอขมาพี่แบงค์กูซะก่อนที่มึงจะขาดใจตาย!" "มันเกิดอะไรขึ้นครับน้องทอส ทำไมนายคนนี้ถึงมีอาการแบบนี้.." พี่ทัชรีบถามขึ้นทันทีหลังจากที่มีช่องว่าง ผมจึงเล่าเหตุการณ์คร่าวๆ ให้เขาฟังดูพี่ทัชมีสีหน้าตกใจขึ้นมาอย่างมาก จากนั้นไอ้นะก็ขอโทษ ขอขมาพี่แบงค์เสร็จสมบูรณ์โดยมันให้คำมั่นสัญญาด้วยชีวิตของมันเองว่าหลังจากนี้มันจะไม่ล่อลวงหรือคิดทำร้ายใครอีกแต่ผมไม่เชื่อคำพูดของมันเหรอกเพราะคนอย่างมันเคยทำยังไงมันก็คงจะทำอยู่เหมือนเดิม ผมขออย่างเดียวว่าให้มันเลิกยุ่งและเลิกสนใจพี่แบงค์ของผมเท่านั้นเป็นพอก่อนที่ผมจะส่งกระปุกสารบางอย่างให้มันได้เอาไปดมเพื่อคลายอาการหายใจติดขัด ที่จริงแล้วผมมีตัวยาแก้ ที่กินเข้าไปแล้วจะทำให้สารตัวนั้นหมดฤทธิ์แปรสภาพสลายไปกับฉี่ของเรา ซึ่งผมไม่ได้ให้ยาตัวนั้นมันไปเพราะผมคิดว่ามันคงไม่เลิกราอย่างแน่นอน เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามที่ผมต้องการผมจึงปล่อยมันส่งคืนให้กับลูกน้องของมันแล้วพากันออกไปจากอาคารผู้โดยสารสนามบิน ผมจะหันมาอธิบายถึงเหตุผลและสาเหตุที่ผมได้ทำการอันอุกอาจลงไปในครั้งนี้โดยไม่ได้ปรึกษาพี่ทัชก่อน "พี่แบงค์ที่ผมทำไปอย่างเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายนี้เพราะผมทำด้วยเหตุผลที่อยากให้พี่แบงค์กลับมามีความสุขอีกครั้งนะครับ ต่อไปพี่แบงค์ไม่ต้องกลัวว่ามันจะมาทำร้ายพี่ได้อีก ผมรักพี่นะครับเราจะกลับบ้านพร้อมกันครับพี่แบงค์" และผลของการขอขมาจากไอ้นะส่งผลให้พี่แบงค์เกิดความผ่อนคลายและรู้สึกสบายใจขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดทำให้ผมรู้สึกมีความสุขตามพี่ชายไม่ต่างกัน "ทอสเราไม่ต้องกลับไปกับพี่เหรอก อยู่ที่นี่กับทัชนี่แหละ เดี๋ยวใกล้ๆ เปิดเทอมพี่จะบินมารับอีกครั้งไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ทอสทำเพื่อพี่มามากแล้วให้พี่ได้ทำเพื่อน้องพี่บ้างนะ" ผมอึ้งพลางรู้สึกดีใจไปพร้อมๆ กันไม่พูดหรือโต้แย้งอะไรพี่แบงค์เลยผมทำได้แค่เพียงกระโดดกอดคอหอมแก้มพี่ทัชด้วยท่าทางกระโดดโลดเต้นจนลืมไปว่าสารเคมีที่ผมใช้แต้มตามลำคอยังไม่ได้ล้างออก ทันทีที่ผมนึกขึ้นได้จึงปล่อยแขนลงจากร่างใหญ่ของพี่ทัชทันที สร้างความตกใจแกทุกคนก่อนที่ผมจะรีบจับมือพี่ทัชแล้วพาวิ่งไปห้องน้ำของสนามบินอย่างไม่คิดชีวิต "มีอะไรหรือทอส" "อย่าเพิ่งถามสิพี่.. ตามผมมาก่อนเร็ว!!"  
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม