"คุณหนูทำไมแน่นิ่งไปแบบนี้คะ บัวบานใจคอไม่ดีเลย" บัวบานเอ่ยถามขณะนั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียง
“นี่เป็นความจริงหรือฝันกันแน่วะ” ไลลาพูดเสียงแผ่ว
“ทำไม คุณหนูพูดจาแบบนี้คะ” บัวบานอดถามคนตรงหน้าไม่ได้ ตั้งแต่ตื่นมาก็พูดจาผิดแปลกไปราวกับคนละคน
“แบบไหน?”
“พูดจาไม่เพราะ คุณหนูไม่เคยเป็นนิคะ”
ไลลาแน่นิ่งไม่ตอบ ก่อนจะโพล่งออกมาอย่างหงุดหงิด “เฮ้อออ ที่นี่ที่ไหนวะเนี่ย!”
สาวน้อยเอามือยีหัวตัวเองเเรงๆ ท่ามกลางความงุนงงของพี่เลี้ยง
แกร๊กก เสียงเปิดประตูดังเบาๆ ก่อนที่หญิงวัยกลางคนจะพุ่งเข้ามา
"ไลลาลูกแม่ ฮือออ ฟื้นเเล้วสินะ เรื่องจริงสินะ" แม่โผกอดสาวน้อยตรงหน้าทันที
“มะ..แม่เหรอ?” ไลลาพึมพำจ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างสับสน
ตึก ตึก เสียงเดินเข้ามา
"เราตรวจสอบแล้วทุกอย่างปกติดีครับ แต่อาจจะมีความทรงจำบางอย่างที่ขาดหายไปบ้าง เนื่องจากสมองกเกิดหยุดทำงานไปชั่วขณะนึงนะครับ โปรดใจเย็นๆ หมอเองก็ตอบไม่ได้ว่าจะหายเป็นปกติเมื่อไหร่" หมอเข้ามาอธิบาย
“อ๋อ ไม่น่าล่ะ คุณหนูถึงดูแปลกๆ” บัวบานถึงบางอ้อ
“ไลลา แม่ดีใจที่เจอลูกอีกนะ อย่าทำอะไรโง่ๆ อีกรู้ไหม” แม่ของไลลาลูบหัวเธออย่างอ่อนโยน โดยไม่มีใครสังเกตเห็นถึงความสับสนของเธอเลย
“...”
“พี่บัวบานจะคอยช่วยฟื้นความทรงจำคุณหนูเองนะคะ” บัวบานเองก็เข้าไปกอดขาไลลาอย่างอ่อนโยน
บ้านไลลา
"นี่ห้องกูเหรอ" สาวน้อยเอ่ยถามขณะมองไปรอบๆ
“คุณหนูห้ามพูดคำหยาบนะคะ เดี๋ยวคุณนายดุเอา” บัวบานพูดเตือนอย่างอ่อนโยน
“อันนั้นก็ไม่ได้ อันนี้ก็ไม่ได้ นี่เมืองมนุนย์หรือสวรรค์ชั้นดาวดึงวะ!” เธอพูดอย่างหงุดหงิด
ฉันคืออีดอกรัก อยู่ๆ มาโผล่ที่ไหนในร่างใครก็ไม่รู้โคตรไม่ชินตา เเถมยังต้องมานั่งพูดจาเพราะๆ และเท่าที่ดูบ้านเด็กนี่คงรวยพอสมควร
"สรุปกูชื่อว่าอะไร?" ไลลาหรือดอกรักหันไปถามพี่เลี้ยง
“คุณหนูชื่อ ไลลาค่ะ พิไลลา”
“กูชื่อ...”
“ไลลาค่ะ”
“อีกทีดิ!”
“ไลลา” บัวบานตอบอย่างอดทน
“ชื่อ...”
“ไลลา..”
“กูคือ?”
“เอ่อ…อีกนิดเดียวจะเป็นเพลงสามช่าเเล้วนะคะคุณหนู”
"โอ๊ยยย ใครคือไลลาวะ!" สาวน้อยร่างบางทิ้งตัวลงที่เตียงอย่างหงุดหงิดถึงขีดสุด
หลายวันต่อมา
"เป็นไงบ้างลูก นึกอะไรออกบ้างไหม" แม่ถามอย่างอ่อนโยน
“ไม่สักกะอย่างเลย” สาวน้อยตอบอย่างเฉยชา
“ค่อยๆ คิดนะ แต่อย่าพูดคำหยาบเพราะมันไม่ดี” แม่พูดขณะลูบหัว
“ไม่ดียังไงอะ ตรงๆ ไปดิจะแอ๊บทำไม”
แม่ผู้อ่อนโยนรู้สึกกังวลกับอาการที่ลูกสาวตัวเองเป็นอยู่ คิดอยู่นานจนสุดท้ายตัดสินใจเตรียมส่งไลลาไปรักษาตัวที่โรงบาลจิตเวช
"จริงเหรอ? แม่เเม่งจะพากูไปโรงบาลบ้าเนี่ยนะ" ไลลาตกใจสะดุ้งพรวด
“จริงค่ะ บัวบานแอบได้ยินคุณนายคุยกับหมอ คุณหนูต้องรีบกลับมาปกติแล้วนะคะ” บัวบานพูดอย่างเป็นห่วง
“เออๆ งั้นสอนกู เอ๊ย สอนฉัน ให้เป็นไลลาแบบเดิมที!”
ดอกรักไม่อยากอยู่โรงบาลบ้า เธอจึงต้องเรียนรู้ที่จะเป็นไลลาทั้งคำพูดคำจาและหลายๆ อย่างพร้อมกับเทคโนโลยีในยุคนี้ เเม้จะเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างก็ตามที
3 เดือนต่อมา
"ลูกกลับมาเป็นไลลาคนเดิมบ้างเเล้วแม่ก็ดีใจมากนะ" แม่ลูบหัวไลลาอย่างอ่อนโยน
“ความจำหนูอาจไม่กลับมาแต่หนูจะพยายามนะคะคุณแม่” ไลลายิ้มตอบ
เเม้จะอึดอัดฉิบหาย แต่พอทำเข้าบ่อยๆ ก็เริ่มชิน ต้องมานั่งพูดเพราะๆ เดินช้าๆ อีสัสกว่าจะถึงที่หมายอย่างกะเต่าพิการ
แต่เอาเหอะถ้าฟ้าลิขิตให้ฉันมาเป็นเด็กนี่ฉันก็ต้องเป็นให้ได้
ห้องน้ำ
ซ่าาา เสียงฝักบัวดัง
"คนรวยนี่ดีจริงมีน้ำอุ่น มีทีวีหรูมีทุกอย่างสบายเลยกู เอ๊ย!เลยหนูไลลา อิอิ" ไลลาพูดพลางถูสบู่ชำระล้างร่างกาย
จึก เอานิ้วจิ้มร่อง
"อย่าบอกนะว่าเด็กนี่ยังซิง...อายุ 18 เเล้วนิ" ไลลาพึมพำขณะเพ่งพินิจร่องตัวเอง
แจ๊ะ! เอานิ้วแหย่เข้าร่อง
"อ๊ากก อีสัส! ซิงจริง เจ็บมากแค่นิ้วเอง" ไลลาสะดุ้งเฮือกรีบถอยนิ้วออก
“เวรกรรมอะไรของกู ต้องมาอยู่ในร่างซิงๆ คนเหี้ยไรต้องโดนเปิดซิงสองรอบวะเนี่ย โอ๊ย ฮ่าๆ” เธอหัวเราะออกมาอย่างอดไม่อยู่