ความจริงที่แสนเจ็บปวด

1125 คำ
ตอนที่ 6 มีนาร้องนอนไห้อย่างเงียบๆ โดยไม่มีเสียงใดๆ ออกมาอีก อินทัชมองเธอด้วยความสงสาร น้ำตาที่เธอพยายามเก็บไว้ตลอดสองวันไหลทะลักออกมาทันที เด็กเอามือปิดปากไว้เพื่อสกัดกั้นเสียงสะอื้นที่กำลังจะระเบิดออกมา อินทัชอดไม่ได้ที่เดินเข้าไปให้กำลังใจเด็กสาวและยื่นมือไปลูบศีรษะของเธอเบา ๆ เขามองมีนาด้วยความห่วงใย เด็กสาวก็ปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อาจควบคุมได้ ร่างกายเธอสั่นเทาจากการสูญเสียครั้งใหญ่ อินทัชจับมือเธอไว้แน่นโดยไม่ได้พูดอะไร เขาเข้าใจความเจ็บปวดของการสูญเสียดี ความเงียบอันหนักอึ้งก็เข้าครอบคลุมอีกครั้ง มีนาใช้มือปาดน้ำตาที่ไหลลงมาไม่หยุด แล้วหันไปมองอินทัชด้วยดวงตาที่แดงก่ำ “อย่าคิดมากไปเลย มีนา…” “เรื่องของอัศวพจน์ วันหนึ่งตำรวจก็ต้องตามจับเขาได้อยูดี สู้ยอมให้เขาเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายจะดีกว่านะ” ”แต่เขาไม่ได้เป็นคนฆ่านะคะ” “เรื่องนั้นก็ต้องไปพิสูจน์กันอีกที” อินทัชรีบบอก “อัศวพจน์ไม่ได้กลัวความผิดหรอก เขาเต็มใจรับโทษ เพียงแต่ตอนนี้เขาเป็นห่วงหนู ก่อนไปเขายังย้ำและฝากให้ฉันดูแลหนูอยู่เลย” น้ำตาของมีนาไหลลงมาไม่หยุดหย่อน ความรู้สึกโดดเดี่ยวเข้าจู่โจมเธออย่างรุนแรง มีนาสูญเสียทั้งลูก และอัศวพจน์ ผู้ชายที่คิดว่าจะพึ่งพิงเขาได้เป็นคนสุดท้าย ใบหน้าเธอซีดขาว อินทัชค่อย ๆ ปล่อยมือเธออย่างช้า ๆ เพราะต้องไปดำเนินเรื่องเอกสารต่อจากนี้ ไร่ชาอินทัช พ่อเลี้ยงหนุ่มขับรถพาเด็กสาวออกจากโรงพยาบาลมายังเรือนพักหลังใหญ่ภายในไร่ เขาจอดรถสนิทแล้วหันไปมองมีนา เด็กสาวที่ยังคงนั่งนิ่ง สายตาเหม่อลอยออกไปนอกหน้าต่าง ดวงตาคู่สวยบวมช้ำจนน่าใจหาย มือหนาของเขาเอื้อมไปสัมผัสมือเรียวบางของเธออย่างแผ่วเบาเป็นการดึงสติ “มีนา... ถึงแล้ว” เด็กสาวปรือตาขึ้นอย่างเชื่องช้า เธอหันมามองเขาแวบหนึ่งก่อนจะก้าวลงรถ อินทัชถอนหายใจอย่างอ่อนโยน เขารู้ดีว่าความเงียบของเธอเกิดจากความบอบช้ำภายในใจตลอดหลายวันที่ผ่านมา เขาจึงไม่อยากบังคับให้เธอพูดอะไรทั้งนั้นในตอนนี้ ตั้งแต่วันที่เขาเข้าไปดูแลเธอที่โรงพยาบาล หัวใจของเขาก็บีบรัดไปด้วยความสงสาร เขาจำต้องให้เธออยู่ที่เรือนหลังใหญ่ของเขาไปก่อน เพราะเกรงว่าเธออาจจะคิดสั้นหากต้องอยู่คนเดียว หลายวันต่อมา มีนาก็รู้สึกได้ถึงแรงดึงดูดบางอย่างจากพ่อเลี้ยงอินทัช ผู้ชายคนนี้คือภาพของชายในอุดมคติที่เธอเคยวาดฝันไว้ ไม่ว่าจะเป็นความอบอุ่น ความใจดี หรือแม้แต่แววตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใย ทุกครั้งที่อินทัชปรากฏตัวใกล้ๆ หัวใจของเธอก็เต้นรัวอย่างประหลาด ความรู้สึกที่เกิดขึ้นนั้นลึกซึ้งกว่าแค่ความชื่นชม มันคือความรู้สึกที่ปั่นป่วนอยู่ในใจ ราวกับว่ามีบางสิ่งกำลังเติบโตขึ้นอย่างเงียบงันภายในใจเธอ โดยที่เธอเองก็ไม่ทันได้ตั้งตัว เธออดนึกสงสัยไม่ได้ว่าทำไมอัศวพจน์ถึงไม่เคยเล่าเรื่องราวของพ่อเลี้ยงของเขาในแง่มุมที่น่าประทับใจเช่นนี้ให้เธอฟังเลย ระหว่างมื้อค่ำบนโต๊ะอาหาร มีนาก็ตัดสินใจที่จะเป็นฝ่ายเปิดบทสนทนาขึ้นเอง “คุณอินทัช... หนูพร้อมที่จะเล่าความจริงแล้วค่ะ” เด็กสาวเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว เธอเรียกเขาด้วยชื่อเต็ม ๆ พ่อเลี้ยงหนุ่มวางช้อนลง ก่อนจะจ้องมองเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใย เขารู้ดีว่าเธอกำลังหมายถึงเรื่องในอดีตที่ยังค้างคาเป็นปริศนา “แน่ใจนะมีนา” อินทัชย้ำเสียงทุ้ม “หนูตัดสินใจแล้วค่ะ” มีนาพูดจบก็เงยหน้าขึ้นอีกครั้ง สบตากับอินทัชที่นั่งอยู่ตรงหน้าอย่างไม่หวาดหวั่น ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องที่เก็บงำไว้ในใจทั้งหมด เธอพร้อมที่จะเดินทางไปจากที่นี่แล้ว แต่ก่อนไปก็ขอพูดความจริงให้เขารับรู้เสียก่อน “หนูไม่ได้ท้องกับพจน์เค้าหรอกค่ะ… เราไม่เคยมีอะไรกัน” มีนาเอ่ยเสียงแผ่วเบา แต่ทุกคำชัดเจนจนอินทัชต้องชะงัก ชายหนุ่มจ้องมองเธอด้วยความแปลกใจระคนสงสัย เขาพยายามปะติดปะต่อเรื่องราวในหัว แล้วจึงเอ่ยถามออกไปอย่างใจเย็น “งั้นก็แสดงว่า… เด็กคนนั้นเป็นลูกของเสี่ยสุชาติใช่มั้ย” “ไม่ใช่หรอกค่ะ…” มีนาส่ายหน้าช้าๆ ใบหน้าซีดเซียวของเธอเต็มไปด้วยความเจ็บปวดเมื่อนึกถึงเรื่องราวในอดีต “ก่อนหน้านี้หนูคบกับคุณนพดล ซึ่งเป็นลูกชายของเสี่ยสุชาติ... แล้วภรรยาของเสี่ยก็พยายามบังคับให้หนูไปทำแท้ง เพราะเธออ้างว่าหนูตั้งใจจะจับลูกชายของเธอ” มีนากัดริมฝีปากแน่น พยายามกลั้นน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมา “ในตอนนั้น เสี่ยสุชาติรับปากว่าจะช่วยหนูและจัดงานแต่งให้... หนูหลงคิดว่าเขาเป็นคนดี แต่เขากลับหลอกหนูไปกักขังและพยายามบังคับให้หนูยอมทำแท้งค่ะ... ระหว่างนั้นเสี่ยก็บังคับขืนใจหนู” อินทัชรู้สึกสงสารเด็กสาวจับใจที่ต้องเจอกับเรื่องราวที่เลวร้ายเช่นนี้ “แล้วหนูไปรู้จักกับอัศวพจน์ได้ยังไง” “พจน์เค้าเป็นลูกน้องของเสี่ยสุชาติค่ะ ตอนนั้นเสี่ยสั่งให้เค้ามาเฝ้าหนูที่บ้านพักของเสี่ย” มีนาเล่าต่อด้วยเสียงที่อ่อนลง “หนูยอมรับว่าหนูอ่อยเค้าเพื่อให้เขายอมช่วยหนูออกมา” เธอพูดด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด อินทัชเข้าใจการกระทำของเธอ ว่ามันเป็นวิธีการเอาตัวรอด “แต่ถึงแม้ว่าพจน์เค้าจะยอมช่วยเหลือหนู แต่พอเค้ารู้ความจริงว่ารู้ไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับเค้า พจน์ก็ไม่เคยล่วงเกินหนูเลย... พจน์เป็นคนดีค่ะ” มีนาเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาอย่างช้าๆ อินทัชพยักหน้าอย่างเข้าใจ เขารู้แล้วว่าทำไมอัศวพจน์ถึงยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยมีนาอย่างถึงที่สุด เขาต้องรักเธอมาก... มากเสียจนยอมสละแม้กระทั่งชีวิตของตัวเอง “ฉันเสียใจด้วยนะที่หนูต้องมาเจอเรื่องราวที่เลวร้ายแบบนี้” เรื่องราวทั้งหมดที่เหมือนปมเชือกพันกัน ตอนนี้มันคลี่คลายออกจนกระจ่างแจ้งแล้ว และคำถามมากมายในใจของเขาก็ได้รับคำตอบจนหมดสิ้น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม