5 ปีผ่านไป...
ท้องฟ้าสีครามสดใส ปุยเมฆสีขาวลอยละล่องบนท้องฟ้ากระจ่าง แสงแดดอ่อนๆ ให้ความอบอุ่นและควันกรุ่นๆ ของกาแฟหอมๆ ควรจะทำให้บรรยากาศการทำงานที่บริษัทรักษ์ชัวรี เอ็มไพร์ ดูคึกคักสดชื่นเหมือนทุกวัน
แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น...
ภายในห้องประชุมใหญ่กำลังตึงเครียดอย่างหนัก เมื่อท่านประธานหนุ่มผู้บริหารสูงสุดแผ่ความเย็นยะเยือกชวนให้หนาวสะท้านครามครันออกมา หลังได้รับรายงานยอดขายลิปสติกสีเฉดใหม่ล่าสุด
ดวงตาเรียวคมสีนิลนิ่งลึกจนมองไม่เห็นความคิดคู่นั้นจ้องมองรายงานในกระดาษเงียบๆ สีหน้ายังคงเรียบเฉยเย็นชาไม่มีเปลี่ยน ผิดแผกจากความเกรี้ยวโกรธที่สุมอยู่ข้างใน เหมือนกระแสคลื่นคลั่งที่อยู่ภายใต้ผิวน้ำที่แน่นิ่ง
วันนี้ฟ้าจะล่ม ดินจะทลายรึไง?
รักษ์ชัวรี แบรนด์ดังชั้นนำ ซึ่งก่อตั้งด้วยการใช้ท้ายนามสกุล ‘รักษ์’ ของตระกูลหิรัญศิริรักษ์มาใช้พ้องเสียงกับคำว่า ‘ลักซ์’ จาก ลักซ์ชัวรี ในภาษาอังกฤษที่มีความหมายว่าเลิศหรูมีระดับ ครองความเป็นเจ้าตลาดมายาวนานนับทศวรรษอย่างที่ไม่มีใครเทียบเคียง กลับถูกโค่นลงภายในคืนเดียวด้วยฝีมือของ เดอะ ควีน บริษัทยักษ์ใหญ่ที่เป็นรองอยู่ภายใต้เงาของบริษัทเขาตลอดมา
ดรณ์ไม่เชื่อเด็ดขาดว่านี่เป็นฝีมือของ... ยศกร โสภณวิชย์!
หมอนั่นไม่มีน้ำยาถึงขั้นจะก้าวขึ้นมาเป็นคู่ต่อสู้กับเขาได้ ต้องมีใครอีกคนอยู่เบื้องหลังความอับอายของเขาในครั้งนี้
และเขาต้องการรู้เดี๋ยวนี้ด้วย!
“มันเกิดขึ้นได้ยังไง”
เสียงแหบทุ้มเซ็กซี่เอ่ยขึ้นเรียบๆ หลังจากนั่งนิ่งอยู่ร่วมครึ่งชั่วโมง โดยไม่พูดอะไรสักคำ แต่แค่คำถามง่ายๆ ที่เอ่ยขึ้น ก็ทำเอาคนที่เข้าร่วมประชุมพากันร้อนๆ หนาวๆ ได้แต่นั่งก้มหน้าไม่กล้าสบตาเขาเป็นทิวแถว ราวกับกลัวว่าใบมีดคมกริบที่ส่งตรงมาจากดวงตาจะกุดหัวพวกเขาให้ขาดกระเด็น
“คะ... คือที่ยอดขายของเดอะ ควีน เพิ่มขึ้น เพราะเมื่อวานบรรดาผู้หญิงต่างก็แห่ไปซื้อลิปสติกเซตใหม่ของทางนั้น จนของหมดแทบทุกสาขา ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงครับ”
กรรมการผู้จัดการฝ่ายกองอำนวยการการตลาดเอ่ยรายงานซ้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงขลาดๆ เพราะเป็นหน้าที่ของเขาโดยตรงที่ต้องตอบคำถามของท่านประธานหนุ่มให้ได้ และคนระดับเพอร์เฟกต์ชันนิสต์เช่นเขาไม่ยอมรับความผิดพลาดใดๆ ทั้งสิ้นเป็นอันขาด
โครม!
พูดยังไม่ทันขาดคำ เสียงโยนแฟ้มเอกสารก็ดังสนั่นขึ้นทันที ทำเอาคนที่นั่งอยู่สะดุ้งโหยงไปตามๆ กัน ยิ่งกลัวหัวหด เมื่อได้ยินเสียงลอดไรฟันเอ่ยกดดันตามมาราวกับจะปลิดลมหายใจออกไปด้วย
“พวกคุณจะบอกว่าแบรนด์กระจอกพรรค์นั้นเหนือกว่าสินค้าของเรางั้นเหรอ”
“ไม่ใช่ครับ แต่ที่เดอะ ควีน ขายดิบขายดีแบบไม่น่าเชื่อ ผมคิดว่าเป็นเพราะงานเปิดตัวนางแบบมากกว่าครับ” หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์การตลาดรีบเอ่ยขึ้น
“ใคร?”
หัวคิ้วของดรณ์ขมวดมุ่น ใครกันที่แข็งแกร่งถึงขนาดโค่นราชาอย่างเขาลงได้!
“เธอคือโรซี่ โจนส์ ครับ เป็นนางแบบดาวรุ่งที่กำลังดังที่สุดในรันเวย์ตอนนี้”
“นางแบบโนเนมเนี่ยนะ”
จะให้เขาเชื่ออย่างนั้นหรือว่า แค่ผู้หญิงคนเดียวจะสะเทือนบัลลังก์ของเขาได้
“เธอถูกบรรดาสื่อยักษ์ใหญ่ชั้นนำจากทั่วโลกจับตามองในฐานะ ‘ควีน’ คนใหม่ของวงการแฟชั่นครับ ไม่ว่าสินค้าหรือบริษัทแบรนด์ไหนที่ได้เธอไปร่วมงาน ยอดขายก็พุ่งขึ้นมากกว่า 20% เลยทีเดียวครับ บางแบรนด์เพิ่มขึ้นมากกว่า 35 % ด้วยซ้ำครับ เธอจึงเป็นที่ต้องการตัวของแบรนด์ชั้นนำจากทั่วโลก เมื่อคืนเธอเพิ่งเดินทางมาถึงเมืองไทย และเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองเปิดตัวลิปสติกชุดใหม่ของทางเดอะ ควีน แถมยังให้สัมภาษณ์ช่วยโปรโมตอีกว่าเธอเองก็ชอบลิปสติกของยี่ห้อนี้ เธอเป็นไอดอลของบรรดาผู้หญิง และยังเป็นขวัญใจของบรรดาหนุ่มๆ ในเรื่องของความสวยและเซ็กซี่ พอเธอบอกว่าอะไรดี คนก็จะแห่ตามไปใช้จนยอดขายถล่มทลายเลยครับ”
ดรณ์กระตุกมุมปากเยาะ เพิ่งเข้าใจ ที่แท้สุนัขที่ดีแต่เห่าอย่างยศกรก็หมดปัญญาจะเอาชนะเขาแล้ว เลยต้องใช้แม่นางแบบปลายแถวให้มาช่วยกู้วิกฤตของบริษัทเลยอย่างนั้นหรือ...
สิ้นคิดสิ้นดี!
คิดหรือว่าแผนการบ้องตื้นครั้งนี้ของมันจะช่วยพลิกเกมให้ชนะเขาได้ ใครๆ ก็รู้ว่าผลิตภัณฑ์ของเขาเป็นเกรดพรีเมียมมีคุณภาพ สมกับชื่อแบรนด์ พวกลูกค้าระดับไฮเอนต์จึงยอมทุ่มไม่อั้น เพื่อให้ได้เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ส่วนพวกที่ชอบทำของเกรดครึ่งๆ กลางๆ อย่างเดอะ ควีน จึงรั้งตำแหน่งที่สองมาโดยตลอด
ต่อให้ยศกรเอาคนมีชื่อเสียงเข้ามาช่วย มันก็เป็นเพียงแค่เรื่องฉาบฉวย ในเมื่อทางนั้นใช้นางแบบหน้าใหม่ เขาก็จะใช้ดาราเซเลบิรตี้โต้กลับไปบ้าง
ก็ให้มันรู้กันไปว่าใครจะเหนือกว่ากัน!
และเพื่อดับฝันที่มักใหญ่ใฝ่สูงเกินตัวของมันให้มอดสนิท เขาจะไม่ประมาทเด็ดขาด
“ผมต้องการข้อมูลทุกอย่างของผู้หญิงคนนี้ภายในครึ่งชั่วโมง”
ดรณ์สั่งเสียงเฉียบ แล้วลุกเดินออกไปจากห้องประชุมทันที