ประธานหนุ่มดึงความคิดกลับมาที่เรื่องงานอีกครั้ง หลังเผลอปล่อยใจล่องลอยไปกับเรื่องไร้สาระ คงเพราะนางแบบคนนี้ดูคล้ายคลึงให้ความรู้สึกเหมือนกับผู้หญิงคนนั้นละมั้ง
เขาเปิดกระดาษหน้าต่อไป เป็นรายละเอียดที่โรซี่ โจนส์ เดินทางมาเมืองไทย เนื่องด้วยบริษัทของแอนโทนี่ ฮอว์กต้องการขยายตลาดมาสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งประเทศไทยมีความเหมาะสมในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะความเจริญทางด้านแฟชั่นที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เขาจึงตัดสินใจส่งโรซี่เพื่อมาเปิดตลาด และทันทีที่หล่อนก้าวขาลงสนามบิน กองทัพสื่อมวลชนและเจ้าของแบรนด์ดังชั้นนำทั่วฟ้าเมืองไทยก็แห่ไปต้อนรับกันเนืองแน่น
แต่งานนี้คนที่ดูจะมีภาษีมากกว่าใครก็คือ... ยศกร
หมอนั่นทุ่มสุดตัวด้วยการปิดโรงแรมระดับไฮคลาส เพื่อต้อนรับแม่นางแบบหน้าใหม่ พร้อมกับฉลองเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เป็นลิปสติก ก่อนจะมอบมันให้แก่หล่อน แม่โรซี่นี่ก็เจนงานดี ช่วยโปรโมตสินค้าให้พ่อบุญทุ่มอย่างยศกรเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งก็ได้ผลดีทีเดียว ลงทุนไปไม่กี่ล้าน แต่ได้ผลกำไรกลับมาเป็นยอดขายมหาศาล แถมยังได้หักหน้าเขาไปกลายๆ อีกด้วย
ดรณ์กัดฟันกับวิธีต่ำๆ ที่ยศกรงัดมาใช้เพื่อต่อกรกับเขา
น่าสมเพช...
เป็นเขาจะไม่เสียเวลากับผู้หญิงยั่วยวนพรรค์นี้เด็ดขาด ผู้หญิงที่มีดีแค่อยู่บนเตียงคอยปรนเปรอผู้ชายอย่างหล่อน ไม่มีค่าคู่ควรที่จะได้รับการดูแลประดุจเจ้าหญิงแบบนี้
ยศกรช่างหน้าโง่เหลือเกิน... ที่ทำตัวตกต่ำถึงขนาดนี้!
ดรณ์เหยียดปาก พลิกรูปถ่ายอีกหลายใบของนางแบบสาวดูผ่านๆ ก่อนจะมาถึงรูปสุดท้ายที่ทำให้เขาเบิกตากว้าง ลมหายใจสะดุดจนเกือบจะหยุดไปเดี๋ยวนั้น เมื่อสายตาปะทะเข้ากับไฝเม็ดเล็กๆ สีน้ำตาลแดงใต้ดวงตาสวยซึ้งที่เขาจำได้ดี
เป็นหล่อนนี่เอง...
หัวใจของเขาเต้นแรงระส่ำจนได้ยินเสียงดังชัดเจน แม้จะเกลียด แต่เขาต้องยอมรับว่าไฝที่ผุดขึ้นมาเหมือนจุดไข่ปลาบนใบหน้าของแก้มหอม ไม่อาจทำให้เขาละสายตาจากหล่อนได้ มันคอยดึงดูดใจเขาให้เหลียวมองไม่ต่างจากกลิ่นของหล่อน
มิน่า... ตอนที่เห็นครั้งแรก เขาถึงได้รู้สึกคุ้นตานัก ที่แท้ โรซี่ โจนส์ ก็คือ แก้มหอม รุจีรัตน์ นั่นเอง
หล่อนเปลี่ยนไปจนเขาจำไม่ได้...
เมื่อกี้เขาเห็นหน้าด้านตรงของหล่อน มุมของใบหน้าที่เอียงบดบังทำให้ไม่เห็นสัญลักษณ์เด่นบนหน้าหล่อน แต่รูปถ่ายที่อยู่ในมือเขาตอนนี้ เป็นเสี้ยวด้านครึ่งหน้าที่เผยให้เห็นไฝเม็ดเล็กๆ ของหญิงสาวที่ใครเห็นเป็นต้องเย้ายวนหลงใหล เขาจึงจำได้ทันที เพราะไม่มีผู้หญิงคนไหนที่จะเด่นสะดุดตาไปมากกว่าหล่อนอีกแล้ว
ดรณ์เพ่งมองรูปในมือ ใบหน้างดงามมีเสน่ห์ ดวงตาสวยซึ้งมองชดชม้ายเหมือนจงใจจะให้คนที่สบตาด้วยถูกดึงดูดเข้าไปในความเย้ายวน ยิ่งรวมกับรอยยิ้มน้อยๆ ยิ่งทำให้รู้สึกลุ่มหลงจนถอนตัวไม่ขึ้น
วูบหนึ่ง... ใบหน้าคมสันราวกับถูกศิลปินเอกสลักเสลาฉายแววยินดีและโล่งใจที่หล่อนยังอยู่รอดปลอดภัย
เขาดีใจงั้นหรือ?
ไม่หรอก.. เขาโล่งใจมากกว่า ต่อไปนี้เขาก็ไม่ต้องรู้สึกผิดที่ทำให้แก้มหนีเตลิดออกจากบ้านไป มันไม่เกี่ยวกับเขา หล่อนเลือกจะออกไปเอง และตอนนี้หล่อนก็ไปได้ดีมีสุขเสียด้วย
ได้ดีมีสุข...
ดรณ์เม้มปาก สีหน้าคร่ำเคร่งลงทันตา เมื่อถูกความหวาดวิตกถาโถมเข้าใส่อย่างหนักหน่วงด้วยคำถามที่ว่า
ในเมื่อหล่อนก็อยู่อย่างสุขสบาย เป็นถึงว่าที่คุณนายฮอว์ก แล้วจะกลับมาอีกทำไม...
หรือคิดจะมาแก้แค้น?
ทวงสัญญา?
หรือ... ทวงสมบัติ?
เพราะหลังจากหล่อนหายสาบสูญได้ เขาก็จัดการยักย้ายหุ้นในส่วนของพ่อแม่หล่อนเข้ามาเป็นของหิรัญศิริรักษ์จนหมด รวมถึงสมบัติพัสถานทุกอย่างที่รุจีรัตน์เคยครอบครองด้วย
แต่นั่นไม่น่าเป็นห่วงเท่ากับอีกเรื่องที่เขากำลังกังวล มีความเป็นไปได้สูงที่การกลับมาครั้งนี้ของแก้มหอมจะสร้างความปั่นป่วนให้กับชีวิตของเขา
โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ... เกวลิน!
ถ้าหล่อนทวงสัญญาหมั้นหมายขึ้นมาต่อหน้าพ่อเขาจะทำยังไง?
เขามั่นใจว่าท่านจะต้องดีใจและทำตามคำขอของหล่อนโดยไม่รีรอแน่ ซึ่งมันจะสร้างความลำบากใจให้แก่เขาและเกวลิน
คนรักของเขาจะต้องเจ็บปวดเสียใจ เพราะผู้หญิงร้ายกาจคนนั้นอีกแล้วหรือ...
เขาไม่ยอม!
ขืนแก้มหอมกล้าเข้าใกล้หรือแตะต้องเกวลินละก็…
เขาไม่เอาหล่อนไว้แน่!
เจ้าของดวงตาคมดิ่งลึกเหมือนหุบเหววาวโรจน์ ขบกรามแน่น ก่อนจะเพียรระงับอารมณ์กรุ่นโกรธ สั่งให้ตัวเองสุขุมใจเย็นเหมือนเดิม เขาจะไม่ทำอะไรตอนนี้ จะรอดูท่าทีของแก้มหอมก่อนว่าคิดจะมาไม้ไหนกันแน่...
ถ้าหล่อนอยู่เฉยๆ เขาก็จะปล่อยเรื่องนี้ไป ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาไม่รู้จักหล่อน และจะไม่มีวันอยากรู้จัก แต่ถ้าหล่อนกล้ายั่วยุอารมณ์เขาหรือตามตอแยคนรักของเขาแม้แต่นิดเดียว เขาจะให้หล่อนชดใช้อย่างสาสม
คอยดู!