ตอนที่ 8
เสียงข้อความจากโทรศัพท์เครื่องหรูดังขึ้น สองมือเรียวที่กำลังเลือกดูชุดเครื่องเพชรอยู่ข้างมารดาของเขา ถึงกับเหลือบสายตามองไปยังหน้าจอโทรศัพท์เครื่องนั้นด้วยความสนใจ อยากรู้ แต่ก็ไม่กล้าพอที่จะเอ่ยถาม ริมฝีปากบางขบเม้ม นึกคาดเดาว่าคงจะเป็นอิงค์วิฬาร์ที่ส่งข้อความหาเขาเป็นแน่
ในขณะที่ปารย์ณวิชจ้องมองตัวเลขที่แจ้งเตือนถึงการใช้บัตรเครดิตในยอดหลักหมื่น ระหว่างคิ้วมุ่นหากันด้วยความแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้คิดติดใจอะไรเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงคืนด้วยสีหน้าเคร่งเครียดเล็กน้อย
กระทั่งเวลาผ่านไป ราวครึ่งชั่วโมง เสียงข้อความดังแจ้งเตือนถึงยอดบัญชีการใช้งานแสดงจำนวนเงินหลักแสน นัยน์ตาคมเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจระคนแปลกใจมากยิ่งขึ้น เพราะไม่คิดว่าบัตรที่เขาเคยให้อิงค์วิฬาร์เก็บไว้ใช้มานานกว่าสามปีโดยที่เธอไม่เคย ใช้มันเลยสักครั้ง
ทว่าวันนี้กลับมีข้อความแจ้งเตือนดังระรัวแสดงยอดหลักแสน ซึ่งมันผิดวิสัยของหญิงสาวที่เขารู้จักอยู่ไม่น้อย
“จะไปไหนน่ะปราบ” คุณหญิงเปรมวดีที่กำลังสนใจเลือกดูชุดเครื่องเพชรชุดใหญ่กับปทิตตา เหลือบสายตามองไปยังบุตรชายเห็นท่าทีขยับตัว ลุกขึ้นยืนทำทีคล้ายว่าจะออกไปไหน จึงหันมาถามเสียงเข้ม ระหว่างคิ้วย่นหากันเล็กน้อย ด้วยความสงสัย ขณะที่เขานั้นชะงักเท้าเล็กน้อย หันมาตอบมารดาเสียงเรียบ ใบหน้านิ่งขรึม
“ผมจะออกไปโทรศัพท์ครับ” คำตอบนั้นทำให้คุณหญิงถึงกับหรี่ตามองเล็กน้อย อย่างจับผิด ก่อนจะพยักหน้า
“อืม งั้นก็รีบไปรีบมา” กำชับเสียงเข้ม พลอยทำให้ร่างสูงใหญ่ถึงกับพ่นลมหายใจออกมาเบาๆด้วยสีหน้าเคร่งเครียดระคนเบื่อหน่ายที่ถูกรัดตัว จ้องจับผิดจากมารดาราวกับเขาเป็นเด็กน้อยก็ไม่ปาน ก่อนจะปลีกตัวเดินแยกออกมาเพื่อโทรหาอิงค์วิฬาร์
ทว่า...เมื่อเขากดโทรศัพท์กลับไป ปลายสายกลับไม่กดรับและยังกดปฏิเสธตัดสายเขาอีกต่างหาก
ร่างสูงพ่นลมหายใจออกมาด้วยความหงุดหงิด ขยับตัวจะลุกเดินกลับเข้าไปในตัวร้านด้านใน
กระทั่งเสียงข้อความแจ้งเตือนจากธนาคารดังขึ้นอีกครั้ง ยิ่งสร้างความแปลกใจให้กับเขามากยิ่งขึ้น ไม่บ่อยเลยที่เธอจะใช้เงินจากบัตรเครดิตที่เขาเคยให้ เพราะเขารู้จักนิสัยของเธอดีว่าเป็นคนเช่นไร เธอไม่เคยฟุ่มเฟือยใช้จ่ายของแบรนด์เนม ยกเว้นแต่ที่เขาซื้อให้เองโดยที่เธอไม่เคยร้องขอ
แต่ทำไมครั้งนี้ วันนี้ เธอถึงได้ใช้เงินเขาซื้อข้าวของมากมายเช่นนี้
ขณะกำลังนิ่งคิดใคร่ครวญด้วยความสงสัย สายตาคมเหลือบเห็นร่างระหงคุ้นตาในชุดเดรสสั้นสีชมพูหวานแต่กลับมีลูกเล่นเพิ่มความเย้ายวนใจด้วยการออกแบบที่เน้นทรวดทรงเข้ารูป ยิ่งทำให้หญิงสาว เจ้าของร่างระหงที่กำลังเดินผ่านช็อปหรูสวยสง่า สะกดทุกสายตาของใครหลายคนตรงนั้นให้หันมองตามเธอเป็นตาเดียว
ปารย์ณวิชชะงักนิ่ง แทบลืมหายใจ กับภาพลักษณ์แปลกตาอย่างที่เขาไม่เคยได้เห็น และไม่คาดคิดว่าจะเจอเธอในเวลาเช่นนี้
ร่างสูงโปร่งลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ตั้งท่าจะก้าวเดินออกไปจากร้านตามหญิงสาวคนนั้นไป
“พี่ปราบจะไปไหนคะ” เสียงหวานของปทิตตาเอ่ยเรียกเขาทันที พร้อมกับก้าวเท้าเข้ามาหา ขณะที่เขานั้นเพียงหันมาตอบรับสั้นๆ ก่อนจะรีบเดินออกจากร้านไปทันที
“เดี๋ยวพี่มา”
สองเท้าก้าวยาวพยายามเร่งฝีเท้าให้ทันหญิงสาวอีกคน โดยไม่คิดสนใจว่าปทิตตาจะร้องเรียกเขาหรือรู้สึกอย่างไร วินาทีนี้เขาต้องการเจอผู้หญิงที่ยังได้ชื่อว่าเป็นคนรักของเขาอยู่แค่นั้น
“วิฬาร์!” เสียงเข้มดุเอ่ยเรียกชื่อหญิงสาวดังขึ้น ขณะที่เธอหัวเราะหยอกเอินอยู่กับเพื่อนสนิท สายตาทอดมองบรรดาผลิตภัณฑ์ต่างๆด้วยความสนใจก่อนจะหยุดอยู่บริเวณหน้าเคาน์เตอร์เครื่องสำอางแบรนด์หรู
เจ้าของชื่อชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะหันมามองตามเสียงเรียก ด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่ได้นึกแปลกใจเลยสักนิดที่เห็นเขาในเวลานี้
หล่อนมองเขานิ่ง ไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ แม้กระทั่งคะนิ้งยังอดที่จะแปลกใจไม่ได้ กับท่าทีเมินเฉยเย็นชา ที่แทบไม่เคยแสดงออกให้ใครได้เห็นมุมนี้เลยสักครั้ง
“เธอมาทำอะไร” เสียงเข้มดุถามห้วน ขณะที่หญิงสาวกลับย่นระหว่างคิ้วหากัน ก่อนจะเหลือบสายตามองบนเขาเล็กน้อย
“ถามแปลก วิฬาร์กำลังช้อปปิ้งไงคะ”
“ช้อปปิ้ง เธอเนี่ยนะช็อปปิ้ง?” เขาทวนคำนั้นด้วยสุ้มเสียงดัง คล้ายกับประหลาดใจ
ตั้งแต่คบกันมาน้อยครั้งที่เธอจะสนใจมาเดินเล่นช้อปปิ้ง เดินเล่นซื้อของแบบนี้ ด้วยปกตินิสัยที่เธอเป็นคนเงียบๆ ชอบเก็บตัวอยู่แต่กับบ้าน ปลูกต้นไม้ทำอาหาร งานอดิเรกของเธอคือการอยู่บ้านอ่านหนังสือ ไม่ชอบวุ่นวายกับใคร และชอบทำอะไรซ้ำๆ ชอบทานอะไรเดิมๆ เมนูคล้ายเดิม นานๆถึงจะออกงานสังคม ไลฟ์สไตล์ที่เขาเองก็เคยนึกถึงชื่นชมถึงความเรียบร้อย เรียบง่ายของเธอ
ทว่า พอนานวันไป มันก็เริ่มเบื่อหน่าย จนระยะหลังมานี้ถึงได้มักที่จะเลือกออกมาสังสรรค์กับเพื่อน มากกว่าอยู่บ้านนั่งเล่นหาอะไรทำกับเธอเช่นเมื่อก่อน
“ก็เห็นอยู่แล้วนี่คะ” หันมาตอบเสียงเรียบ ท่าทีเย็นชาเหมือนจะไม่ยี่หระ อย่างที่เขาชอบทำกับเธอในระยะหลัง
“ทำไมไม่รับโทรศัพท์พี่”
“หึ...” น่าขัน เมื่อเธอได้ยินคำถามนั้นออกจากปากของเขา
“วิฬาร์”
“แล้วทำไมต้องรับโทรศัพท์คนที่เขาไม่คิดที่อยากจะติดต่อหรือรับสายเราด้วยละคะ”
“พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงวิฬาร์”
“ว่าแต่น้องสาวคุณละคะ หายไปไหนแล้ว ทิ้งเขาไว้แบบนี้ไม่ดีนะคะ” ระหว่างคิ้วขมวดมุ่นหากันเล็กน้อย
“เธอเห็นพี่ก่อนแล้วงั้นเหรอ” เขาย้อนถามเสียงเข้มขึ้นเล็กน้อย
หญิงสาวถอนหายใจยาว ด้วยสีหน้าคล้ายกับจะเบื่อหน่ายขึ้นมาทันที
ในขณะที่นัยน์ตาคมก้มมองสำรวจการแต่งกายของหญิงสาวตรงหน้า ดูสวยแปลกตาอยู่ไม่น้อย ทว่าระหว่างคิ้วหนากลับขมวดมุ่น นัยน์ตาขุ่นเคือง ไม่ชอบใจเท่าไหร่นัก