ตอนที่ 9
วันวาเลนไทน์ วันแห่งความรักที่เหล่าบรรดาคู่รักมักมีของขวัญ ดอกไม้ช่อใหญ่ให้กัน และเลือกใช้เวลาร่วมกันเฉลิมฉลองวันแห่งความรักกันอย่างมีความสุข ชื่นมื่น พลอยทำให้บรรยากาศโดยรอบตรงนั้นอิ่มเอมไปด้วยความสุข แต่คงแตกต่างกับอารมณ์ของหญิงสาวแสนสวยที่มาคนเดียวลำพัง ท่ามกลางบรรยากาศหวานชื่นที่ชวนให้คนที่มานั่งโดดเดี่ยวลำพังแอบรู้สึกอิจฉาความสุขเหล่านั้นอยู่ลึกๆ
บรรยากาศในร้านอาหารรูทท็อปสุดหรูคลาคล่ำด้วยเหล่าบรรดาคู่รัก ที่พากันมาดินเนอร์ดื่มด่ำกับบรรยากาศแสนโรแมนติก มองพระอาทิตย์ที่กำลังไล่แสงอยู่บนขอบฟ้ายามเย็นอย่างแสนสวยงาม
ขณะที่หญิงสาวเดินตรงมายังโต๊ะอาหารที่เคยได้จองไว้ล่วงหน้านานหลายเดือน เพราะเธอเคยอยากจะมาลิ้มลองและดื่มด่ำบรรยากาศนี้กับคนรักเธอสักครั้ง ทว่า เธอคงไม่มีโอกาสนั้นแล้ว คิดถึงตรงนี้หัวใจเธอก็สั่นหวิว น้ำตาเอ่อคลอ…จนต้องรีบปาดเช็ดมันทิ้ง
หญิงสาวในชุดเดรสกระโปรงสั้น เผยช่วงไหล่สวย อวดลำคอระหงที่มีสร้อยทองคำขาวเส้นเล็กสวมใส่อยู่ ทอดถอนลมหายใจออกมาเบาๆ
หล่อนไม่ได้คาดหวังว่าวันนี้เขาจะมา และคิดว่าเขาคงจะไม่ใส่ใจ จนลืมนัดที่เคยคุยกันไว้เมื่อนานมาแล้ว เพราะรู้อยู่เต็มอกว่าเขาคงจะไม่ได้สนใจอะไร โดยเฉพาะวันที่เป็นวันของคู่รักเช่นนี้ ก็มีแต่เพียงเธอคนเดียวที่ให้ความสำคัญ
ปกติแล้วทุกปีก็มีแต่เธอที่เป็นฝ่ายตื่นเต้นรอคอยอยู่ข้างเดียวแม้กระทั่งดอกไม้และของขวัญก็เป็นเธอที่เตรียมให้เขาอยู่ฝ่ายเดียวมาโดยตลอด
กระทั่งปีนี้...เธอย่อมแน่ใจแล้วว่า...มันก็คงไม่ต่างกัน และเธอก็จะต้องเรียนรู้ที่จะอยู่คนเดียวในเทศกาลที่ห้อมล้อมด้วยคนรักกันเช่นนี้ให้ได้
หล่อนถอนหายใจออกมาเบาๆ กับความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างแย่ลง ความเหินห่างเย็นชาที่เหมือนจะมีมากขึ้น การสื่อสารที่มีก็เริ่มน้อยลงไปทุกขณะ
อิงค์วิฬาร์ตั้งใจแต่งตัวสวย เพื่อมาดื่มด่ำบรรยากาศนี้ด้วยตัวเองลำพัง โดยไม่ได้ย้ำเตือนใคร อาหารที่สั่งจึงล้วนแล้วแต่เป็นอาหารที่เธอชอบ
หญิงสาวถ่ายรูปอาหารทุกจาน กับภาพบรรยากาศสุดหรูบนชั้นดาดฟ้าย่านใจกลางเมือง ตั้งใจจะเก็บภาพทุกอย่างไว้เป็นความทรงจำ และบอกตัวเองว่า...จากนี้ในทุกๆปี เธอจะให้รางวัลตัวเอง ให้ความสุขกับตนเองบ้าง
ขณะกำลังดื่มด่ำกับแชมเปญที่บริกรเพิ่งรินใส่แก้ว เสียงย้ำฝีเท้าของใครบางคนที่เดินมาใกล้จนเธอต้องเหลือบตาขึ้นมอง นำความแปลกใจมาให้เธอไม่น้อย
“โทรหาทำไมไม่รับ...แล้วนี่สั่งอาหารก่อนเลยเหรอ” ท่าทีสบายๆของเขา ทำให้เธอนึกแปลกใจอยู่ไม่น้อย
“ไม่คิดว่าพี่จะมาค่ะ” ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ทว่าใจนั้นกลับเต้นแรง ไม่บ่อยเลยที่เขาจะทำให้เธอประหลาดใจได้มากขนาดนี้
“นัดกันไว้แล้วนี่” ตอบรับอย่างสบายๆ ขณะเดินไปนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเธอราวกับว่าเรายังเป็นคู่รักที่หวานชื่น ทว่าในความเป็นจริงแล้วกลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง
“บรรยากาศดีนะ” เอ่ยขึ้น ขณะกวาดสายตามองไปรอบๆร้าน แล้วค่อยชำเลืองมองสีหน้าของหญิงสาวเป็นระยะ
และช่วงจังหวะนั้นที่สายตาเธอเหลือบเห็นโต๊ะข้างๆ มองดูชายหนุ่มคนนั้นกำลังมอบดอกไม้ช่อใหญ่ให้กับหญิงสาวที่คงเป็นคู่รักของเขา หล่อนอ้าแขนรับด้วยความดีใจ
อิงค์วิฬาร์เม้มริมฝีปากเล็กน้อย ก่อนจะยกยิ้มออกมาบางๆ ในชีวิตเธอคงไม่ได้สัมผัสความรู้สึกเหล่านั้นอย่างแน่นอน หากเธอยังอยู่กับเขาคนนี้ คนที่เขาไม่เคยเห็นควาความสำคัญกับเธอเลยสักครั้ง
อาหารที่สั่งไว้ก่อนหน้าเริ่มทยอยมาเสิร์ฟ ในขณะที่บรรยากาศในโต๊ะอาหารกลับเต็มไปด้วยความเงียบ ไร้เสียงพูดคุย บ่อยครั้งที่เขาก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ คล้ายกับพิมพ์ตอบโต้ใครบางคน
เธอจ้องมองเขานิ่งนาน ขณะทานอาหาร คอยลอบมองใบหน้าของเขาเป็นระยะ
จนกระทั่ง
“พี่ปราบคะ”
“ครับ”
“เราเลิกกันเถอะค่ะ” ถ้อยคำที่เอ่ยขึ้นอย่างไม่มีที่มาไป พลอยทำให้เขาหยุดชะงักทุกอย่างที่กำลังทำอยู่ วางโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะ มองหน้า สบตาเธอคล้ายกับไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
ทุกอย่างรอบตัวคล้ายกับหยุดเคลื่อนไหวไปชั่วขณะ เวลาคล้ายกับหยุดเดิน มีแต่เสียงเพลงดังคลอกับบรรยากาศให้ได้ยินเพียงเท่านั้น ย้ำให้รู้ชัด ว่าทุกอย่างกำลังดำเนินไปอย่างเงียบเฉียบ