ตอนที่ 1-1

1031 คำ
ตอนที่ 1 อิงค์วิฬาร์จ้องมอง หญิงสาวเจ้าของใบหน้าสวยหวาน กับดวงตากลมโตภายใต้ขนตางอนเรียงยาวเป็นแพสวย เส้นผมยาวม้วนเป็นลอนสวยสีน้ำตาลอ่อน ผิวขาวผุดผ่องสวยหวาน น่ารักราวกับตุ๊กตาปั้น นั่งอยู่ถัดจากเขาด้วยท่าทีสนิทสนม ส่งยิ้มหวานให้กับคนรักเธออย่างออดอ้อน พลอยทำให้เธออดรู้สึกวูบไหว เสียดแน่นที่อกซ้ายอย่างบอกไม่ถูก “ครับ" “เดี๋ยวปายมานะคะ" “จะไปไหน" “ไปห้องน้ำค่ะ" “ให้ไปเป็นเพื่อนไหม" สุ้มเสียงเอื้ออาทรอบอุ่น ทว่าสำหรับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรักกับจุก เสียดแน่นในอกอย่างบอกไม่ถูก “คิกคิก ไม่เป็นไรค่ะ ปายไปเองได้ ขอบคุณนะคะ" “ครับ…งั้นรีบมา" “ค่า" ตอบรับเสียงหวานกับรอยยิ้มสดใส ก่อนจะลุกเดินออกไปโดยไม่ลืมหันมาชำเลืองมองเธอเล็กน้อย กระตุกยิ้มมุมปาก อิงค์วิฬาร์มองตามร่างบอบบางนั้นไป ความหึงหวงแล่นปลาบเข้ามาในความคิด “ผู้หญิงคนนั้นใครคะ?” “น้องปาย น้องสาวหมอปก" น้ำเสียงราบเรียบ เย็นชา คล้ายไม่ใส่จะตอบ ขณะเหลือบสายตามองไปยังบาดแผลบริเวณหัวเข่า ริมฝีปากบางเม้มแน่น น้ำตาคลอด้วยความน้อยใจ สุ้มเสียงที่เขาใช้ถามเธออย่างแตกต่างกับเธอคนนั้นอย่างสิ้นเชิง “รถชนเมื่อไหร่” “เมื่อกี้ค่ะ...ตอนที่วิฬาร์โทรหาพี่” ตอบด้วยเสียงสั่นเครือ พลอยทำให้เขาถึงกับชะงักมือที่กำลังยกบรั่นดีราคาแพงขึ้นจิบ นัยน์ตาคมวูบไหว “อืม" … “จะไปหาหมอไหม" “ไม่เป็นไรค่ะ" “อืม ตามใจละกัน เดี๋ยวค่อยแวะซื้อยาตอนขากลับแล้วกัน" “ค่ะ" บทสนทนาที่หมดไป กับบรรยากาศรายล้อมด้วยเสียงเพลง กับสายตาของใครหลายคนต่างลอบมองดูด้วยความสนใจ จนกระทั่ง “พี่ปราบขา…” เสียงหวานเอ่ยเรียกชื่อเขาอย่างออดอ้อน ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้าง “ครับ" “หิวจังเลยค่ะ" “อืม อยากทานอะไรล่ะ" “นั่นอะไรน่ะคะ น่าทานจัง” หญิงสาวหันไปชี้นิ้วมือไปยังเมนูหนึ่งที่พนักงานเพิ่งยกเข้ามาเสิร์ฟด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น พลอยทำให้หญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรักของเขาถึงนั่งนิ่ง คอแข็ง หน้าม้าน ตีสีหน้าตัวเองไม่ถูก ไม่รู้ว่าควรจะปั้นหน้าแบบไหนในเวลานี้ดี จนต้องแสร้งหยิบค็อกเทลที่มีคนนำมาเสิรฟ์ให้ขึ้นจิบ ปารย์ณวิชเอื้อมมือไปตักอาหารใส่จานให้อย่างเอาใจใส่ “ขอบคุณนะคะ" “ทานเยอะๆเถอะ เราน่ะตัวบางจนจะปลิวได้แล้ว" “งื้อ…อย่าบูลลี่น้องนะคะ" หล่อนว่า ด้วยท่าทางกระเง้ากระงอดน่าเอ็นดู คงจะลืมไปแล้วละมั่งว่าเธอที่เป็นคนรักนั่งอยู่ตรงนี้ แต่เขากลับทำเหมือนลืมว่ามีเธออยู่ ทั้งใส่ใจ ถามไถ่ ดูแลผู้หญิงคนนั้น แต่กลับเธอเขากลับเลือกที่จะนิ่งเฉย ไม่ได้หันมาสนใจเท่าไหร่นัก กระทั่งเสียงโทรศัพท์ของคนข้างตัวดังขึ้น พลอยทำให้เธอถึงกับชะงักไปเล็กน้อย ปารย์ณวิชหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เห็นชื่อปรากฏบนหน้าจอว่าเป็นใคร จึงกดรับสาย “อืมว่าไง...ไปรับมาแล้ว นั่งอยู่ข้างๆกูนี่ล่ะ...อืมได้ๆ เดี๋ยวกูดูแลให้” พูดต่ออีกไม่กี่คำก็กดวางสาย อิงค์วิฬาร์หันขวับมามองเสี้ยวหน้าของคนรัก สายตาตัดพ้อ เต็มไปด้วยความน้อยใจ นึกสงสัยว่าทำไมเมื่อครู่ที่เธอโทรหาเขา แต่เขากลับเลือกที่จะไม่รับสายเธออย่างนั้นเหรอ แต่กับใครก็ไม่รู้ที่เพิ่งโทรเข้ามา กลับกดรับสายได้ทันที “มีอะไร” เสียงทุ้มเข้มเอ่ยถามด้วยโทนเสียงเรียบ ขณะเหลือบสายตามองใบหน้าหญิงสาว คิ้วหนาเลิกสูงขึ้นเล็กน้อย อิงค์วิฬาร์ได้ยินคำถามนั้นถึงกับสะอึก อึ้งไปทันที ริมฝีปากเม้มแน่นด้วยความน้อยใจ ลำคอตีบตันจนแทบจะพูดอะไรไม่ออก “เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร” ปารย์ณวิชเห็นหยาดน้ำเคลือบคลออยู่ในดวงตาคู่สวย ถึงกับถอนหายใจออกมาเบาๆ เอ่ยอธิบายเสียงเรียบนิ่ง “อืม…ปายเป็นน้องไอ้ปก มันติดเคส ไม่ว่างมา" "ค่ะ” ก้มหน้ารับคำเสียงเบา ทั้งๆที่ในใจนั้นกำลังร้อนรุ่ม ด้วยความหึงหวงอยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่กล้าแสดงอะไรออกมามากนัก แม้จะได้ชื่อว่าเป็นคนรักของเขา แต่ด้วยเพราะหน้าที่การงานและอาชีพที่เขาเป็น พลอยทำให้ที่ผ่านมา เธอมักจะเกรงใจ และยอมเชื่อฟังเขาโดยง่าย ไม่เคยคิดโต้เถียงอะไร หากมันไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกอะไรมากมายนัก ยอมเขามาเสมอ…ยอมให้เขา จนเขาไม่รักษาน้ำใจเธอเช่นนี้ ทั้งๆที่หลายๆครั้ง ที่เขาทำ จะละเลย และไม่รักษาน้ำใจเธอ มองข้ามความรู้สึกเธอเสมอ ไม่เคยสนใจว่าเธอจะชอบหรือไม่ชอบ อยากทำหรือไม่อยากทำ อยากทานอะไร หรือไม่อยากทานอะไร เขาไม่เคยถาม หรือตามใจ มีแต่เธอนั้นที่คอยห่วงความรู้สึกเขา ห่วงจนลืมดูแลความรู้สึกตัวเอง "แผลเนี่ย...เดินยังไงซุ่มซ่ามให้รถมาชน ทำไมไม่หัดมองทางดีๆ” คำบ่นว่าแทนการถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง ยิ่งทำให้เธอถึงกับพูดอะไรไม่ออก สองมือกำแน่น พลางคิดน้อยใจในสิ่งที่เขาพูด เพราะนอกจากเขาจะไม่แสดงอาการตกใจหรือความห่วงใยให้เธอเห็นแล้ว ยังพูดจาเย็นชาไร้เยื่อใยกับเธอต่อหน้าผู้หญิงคนนั้น…อีกต่างหาก โทษว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเธออย่างนั้นหรือ…หยดน้ำตาเอ่อคลอเต็มหน่วยตาแต่พยายามอดกลั้น กลืนก้อนสะอื้นรี่ขึ้นจนจุกอก สองมือกำแน่น ใช้ปลายเล็บจิกเข้าที่เนื้อหนังตัวเอง เจ็บที่กายดีกว่าเจ็บที่ใจ ก่อนจะเหลือบสายตามองเลยไปเห็นหญิงสาวอีกคน ที่กำลังนั่งกลั้นยิ้ม ยิ่งรู้สึกเสียหน้า ลำคอตีบตันจนแทบไม่อยากตักอะไรใส่ปากทาน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม