ขุนภาคตะโกนออกไป คนงานมากมายที่กำลังช่วยกันยกถังปลาหนัก ๆ ต่างก็หันมองหน้ากันและขานรับนายหัวตัวเอง คีตามองซ้ายขวาด้วยความหวาดกลัว เธอไม่ได้เตรียมใจมาทำงานแบบนี้ หญิงสาวยันตัวเองให้ลุกขึ้นยืน เจ็บขาเจ็บข้อมือไปหมด เธอตวัดสายตามองร่างสูงใหญ่ที่ยืนกอดอก คีตาตรงปรี่ไปหาอีกคน
“ทำไมทำแบบนี้ ฉันไปทำอะไรให้คุณ!”
เธอถามเขา ถามในสิ่งที่ตัวเองไม่เข้าใจ ถูกกระทำอย่างรุนแรงเพราะอะไร ทั้งที่คีตาไม่เคยทำอะไรผู้ชายตรงหน้า และเราสองคนก็ไม่เคยรู้จักกันด้วยซ้ำ เราอยู่ห่างกันไม่มาก ขุนภาคยืนกอดอกนิ่ง ๆ กดสายตาคมกริบมองผู้หญิงตรงหน้าที่สภาพดูแทบไม่ได้เพราะล้มลงบนพื้นที่มีน้ำขัง เนื้อตัวเปียกเหม็นกลิ่นคาวไปหมด แววตาสมเพชผู้หญิงคนนี้อย่างไม่ปิดบัง
คนที่สันดานเสียจนพี่ชายไม่ต้องการ พ่อแม่ตายไปก็ไม่ทิ้งมรดกเอาไว้ให้สักบาท
คนตรงหน้าของเขาน่ารังเกียจและก็น่าขยะแขยงในเวลาเดียวกัน
“อยากรู้?”
“ใช่”
เธอตอบเสียงแข็ง จ้องหน้าเขาเขม็ง ฉับพลันนัยน์ตาของร่างสูงก็เข้มขึ้น ก่อนจะลุกวาวดุจเปลวไฟราวกับโกรธเกลียดเธอเหมือนอยากจะฆ่ากันให้ตาย
สุ้มเสียงทุ้มเอ่ยออกมา มันกดต่ำรอดไรฟันจนคีตาเผลอหยุดหายใจ
“เพราะผู้หญิงอย่างเธอมันเลวยังไงล่ะ”
“...”
“สันดานเลวอย่างเธอ มันต้องเจอคนสันดานอย่างฉัน”
“...”
คีตากำมือตัวเองแน่น กลืนน้ำลายฝืด ๆ แทบไม่ลงคอ ขุนภาคเกลียดเธอมาก มากซะจนคีตาคิดว่าเขาอาจจะฆ่าเธอให้ตายได้ด้วยมือของตัวเอง เพราะสายตาที่มองมา และการกระทำป่าเถื่อนที่เธอได้รับ พึ่งเจอเขาไม่กี่ชั่วโมง อีกฝ่ายก็เปิดเผยตัวตนออกมาขนาดนี้
เธอไม่อยากอยู่ที่นี่ ดวงตารื้นน้ำใส ๆ ก่อนจะเบือนไปทางอื่น
“ถ้าไม่อยากเข้าคุกคดีฆ่าคนตาย ก็ทำตามที่ฉันสั่ง”
ก่อนคนใจร้ายจะหมุนตัวออกไปจากตรงนี้ทันที คีตามองตามแผ่นหลังกว้างจนลับสายตา เธอยืนเหม่อลอยอยู่กลางลานคัดแยกสัตว์ทะเล ท่ามกลางสายตามากมายของคนงานที่พากันหันมอง
‘ถ้าไม่อยากเข้าคุกคดีฆ่าคนตาย’ อย่างนั้นเหรอ...
อีกฝ่ายคงเข้าใจว่าเธอทำให้น้องสาวตัวเองแท้งลูกเพราะการตกบันไดอย่างนั้นสินะ ใบบัวคงจะเล่าออกไปแบบนั้น การจัดฉากของใบบัวและพี่ชายของเธอสมบูรณ์แบบ มีทั้งหลักฐานที่เป็นคลิปและใบรับรองแพทย์ที่เสมือนจริง ขนาดพินัยกรรม ชาวียังปลอมมันขึ้นมาได้ นับประสาอะไรกับใบรับรองแพทย์...คีตารู้ว่าตัวเองถูกใส่ความ เธอมั่นใจมากว่าใบบัวไม่ได้ท้องตั้งแต่แรก ทว่าเธอไม่มีโอกาสได้พิสูจน์อะไรเลย คนพวกนี้พยายามกล่าวหาว่าเธอเป็นฆาตกรฆ่าเด็กในท้องของใบบัว และบังคับให้เธอมาที่นี่โดยขู่ว่าถ้าไม่ทำตาม เธอจะเข้าไปอยู่ในคุกทันที คีตาเลือกไม่ได้ และเธอก็ไม่คิดว่าการเชื่อพี่ชายจะทำให้เธอมาเจอเรื่องบ้าบอและคนน่ากลัวอย่างขุนภาค
เขาโกรธแค้นเธอก็ไม่แปลก แต่เธอก็ไม่สมควรถูกศาลเตี้ยตัดสินไม่ใช่เหรอ น้ำตาของหญิงสาวไหลพราก เธอจะทำยังไงต่อจากนี้ดี ยกมือเช็ดน้ำตาของตัวเองและมองซ้ายขวา สายตาคนงานทั้งหญิงชายต่างพากันมองมาทางเธอ คีตาก้มหน้ามองพื้นอย่างเลื่อนลอย
“เธอ”
ฉับพลันเสียงเรียกของผู้หญิงก็ดังขึ้น คีตาเงยหน้ามองก็พบหญิงสาวที่สูงพอ ๆ กับเธอ รูปร่างอวบและมีผิวสีน้ำผึ้ง ส่วนข้าง ๆ ของหญิงคนนี้คือผู้ชายผิวเข้มคนหนึ่ง ทั้งคู่เดินมาหาเธอ คีตามองทั้งสองคนพลางยกมือเช็ดน้ำตาตัวเอง
“ฉันชื่อตุ๊กนะ ส่วนนี่พี่ชิด ผัวฉันเอง นายหัวให้ฉันกับพี่ชิดสอนงานเธอ”
“...”
คีตามองตุ๊กและชิด สองผัวเมียที่มีใบหน้าเป็นมิตร เธอนิ่งเงียบไปจะหันมองรอบ ๆ งานที่ว่าคือการใช้แรงงานทั้งหมด คีตากำสองมือแน่น เธอพยายามกลั้นน้ำตาตัวเองเอาไว้แต่ก็ทนไม่ไหวจนตุ๊กกับชิดหันมองหน้ากันเลิกลัก
“เธอ ร้องไห้ทำไมเนี้ย”
“ฉันขอยืมโทรศัพท์หน่อยได้ไหม”
“หา อ๋อ ได้สิ”
ตุ๊กล้วงโทรศัพท์มือถือของตัวเองและยื่นให้คีตา เธอรับไว้และรีบกดเบอร์โทรของป้าพิศทันที รอไม่นานปลายสายก็กดรับ
“ป้าพิศคะ”
(คุณหนูเหรอคะ คุณหนูเอาเบอร์ใครโทรมาคะเนี้ย แล้วคุณหนูเป็นยังไงบ้างคะ)
คีตาเม้มปากแน่น สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ
“คีอยากกลับกรุงเทพ คีไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว”
(คุณหนูใจเย็น ๆ นะคะ)
“...”
จู่ ๆ น้ำเสียงของป้าพิศก็พูดดักขึ้น คีตาตั้งใจฟังปลายสาย
(คุณหนูจำคุณไชยได้ไหมคะ ทนายคนเก่าของคุณผู้ชาย ตอนนี้ป้าติดต่อคุณไชยได้แล้ว คุณไชยรับปากว่าจะช่วยพวกเราสืบเรื่องพินัยกรรมและเรื่องใบบัวท้อง ป้าอยากให้คุณหนูอดทนอยู่ที่นั่นอีกนิด เพราะถ้าคุณหนูกลับมาตอนนี้ คุณชาวีต้องเล่นงานคุณหนูแน่นอน และพวกเราจะตามสืบอะไรต่อไม่ได้)
“จ...จริงเหรอคะ คุณลุงไชยจะช่วยพวกเราจริง ๆ เหรอคะ”
(ใช่ค่ะ แต่คุณหนูต้องอยู่ที่นั่นตามน้ำไปก่อน คุณชาวีจะไม่ได้สงสัยว่าตอนนี้ป้ากำลังทำอะไรอยู่ เพราะคุณชาวีกับใบบัวไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกัน สองคนนั้นเหมือนจะวางใจเรื่องทุกอย่างแล้ว แต่ถ้าคุณหนูกลับมาตอนนี้ คุณชาวีจะไม่ปล่อยให้หลักฐานใด ๆ หลุดรอดออกมาแน่ ป้าอยากให้คุณหนูอยู่ที่นั่นเงียบ ๆ ไปก่อนสักพัก)
“แต่...”
คีตาก้มมองปลายเท้าตัวเอง นึกถึงเรื่องที่เจอเมื่อครู่ มันร้ายแรงเกินกว่าเธอจะอดทนได้ แต่ถ้าคีตากลับไป อย่างที่ป้าพิศบอก ชาวีต้องไม่ยอมปล่อยเธอไปเป็นก้างขวางคอเรื่องสมบัติแน่ อีกฝ่ายต้องหาทางกำจัดเธอ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และไม่แน่เธออาจจะถูกตำรวจจับถ้าหากชาวีมีเส้นสายใหญ่ที่จะเอาผิดเธอในเรื่องของใบบัว มือเล็กกำแน่น แววตาของเธอเข้มแข็งขึ้น ถ้าป้าพิศบอกว่าลุงไชย ทนายคนเก่าที่เคยเป็นเพื่อนสนิทกับคุณพ่อจะยื่นมือมาช่วย คีตาก็มีความหวังขึ้นมา
เธอต้องทวงความยุติธรรมให้ตัวเอง โดยที่ต้องอดทนรออยู่ที่นี่ตามที่ป้าพิศแนะนำ
“ค่ะ คีจะอดทน”
(ค่ะคุณหนู ป้าจะรีบติดต่อกลับไปนะคะ)
“ป้าพิศติดต่อคีเบอร์นี้นะคะ เจ้าของเครื่องชื่อตุ๊ก”
(ได้ค่ะคุณหนู)
เธอและป้าพิศวางสายลง คีตายื่นมือถือคืนตุ๊กก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ถ้ามีคนโทรมาขอสายฉัน บอกฉันหน่อยนะคะ ฉันขอร้อง”
“ด...ได้สิ แล้วเธอชื่ออะไรอะ”
“คีตา ฉันชื่อคีตา”
ตุ๊กพยักหน้า ก่อนตุ๊กและชิดจะพาคีตาไปดูการทำงานและแนะนำในสิ่งที่เธอต้องทำหลังจากนี้
“ป้าแม่ง เล่นละครโคตรเนียน ฮ่า ๆ ๆ ๆ”
ชาวีหัวเราะลั่นห้องนั่งเล่นเมื่อป้าวัยกลางคนกดวางสายหลังจากที่คุยกับคีตา ใบหน้าของป้าพิศยกยิ้มขึ้น ก่อนจะรับเงินก้อนโตจากชาวีที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟากำมะหยี่
“ขอบคุณค่ะคุณชาวี”
ป้าพิศคือหนอนบ่อนไส้ คือคนที่คีตาไว้ใจเพราะเป็นคนเลี้ยงเธอมาตั้งแต่เกิดและเป็นคนที่มารดาของคีตาไว้ใจมาตลอด ทว่าอะไร ๆ ก็เปลี่ยนไป กลิ่นของเงินมันหอมหวานกว่าความจงรักภักดี ป้าพิศเป็นหมากตัวสำคัญ คนที่ปะเหลาะให้คีตาไปจากที่นี่ คนที่แกล้งรับปากกว่าจะช่วยเพื่อให้คีตาอดทนอยู่ในสถานที่ที่เปรียบเสมือนนรก
ทุกอย่างที่ป้าพิศพูด...คือการหลอกลวงคีตาและเลือกอยู่ข้างชาวีตั้งแต่แรก
ไม่มีการสืบหาเรื่องพินัยกรรมและเรื่องที่ใบบัวแท้งจริงหรือไม่ ไม่มีการติดต่อไชย ทุกอย่างที่ป้าพิศบอกคีตาออกไป...คือการโกหกทั้งสิ้น
“ผมอาจจะต้องรบกวนป้าอีกหลายครั้ง แต่เงินก็จะมากขึ้นทุกครั้ง ป้าโอเคใช่ไหม”
ชาวีเอ่ยขึ้น ใบหน้าร้ายกาจมองหญิงคนรับใช้
“โอเคสิคะ อีกกี่ครั้งป้าก็ยินดีช่วยคุณชาวีกับคุณใบบัวค่ะ”
“ดีครับ ป้าเลือกถูกแล้ว”
ชาวีกระตุกยิ้มมุมปาก พลางคิดในใจว่าไม่มีทางที่คีตาจะกลับมาที่นี่ได้อีก
เขาจะทำให้เธอหายไปตลอดกาล