คฤหาสน์
"โง่แล้วไม่เจียมอีไพร่" แม้จะเป็นเช้าที่สดใสแต่สาวเจ้าประจำก็ยืนด่าคนรับใช้ด้วยวาจาไม่สุภาพเท่าไหร่ "กูสั่งว่าน้ำส้มต้องคั้นสดเท่านั้นแช่มาแล้วกูไม่กิน"
เสียงด่าทอลั่นบ้านทำให้พรฟ้าต้องเดินลงมาเพราะเธอไม่พอใจการการกระทำนี้มาก
"พี่โรสพูดดีๆ ก็ได้นิคะไม่จำเป็นต้องพูดคำหยาบคายขนาดนี้"
"อย่ามายั่วอารมณ์ฉันนะอีพรฟ้า"
"ก็พี่โรสพูดจาดูถูกดูแคลนคนอื่นก่อน"
"แล้วเสือกอะไร"
"แต่ที่นี่บ้านของหนู"
คำพูดตอบโต้ทำให้คนตรงหน้าไม่พอใจหนักมากเพราะสถานะอาศัยของโรสก็เป็นเพียงลูกเลี้ยง
"แม่คะโรสไม่ยอมนะอีพรฟ้ามันเหิมเกริมไม่สนหัวใครคิดว่าตัวเองเป็นลูกแท้ๆ สินะ!เหอะ" ความอัดอั้นทำให้โรสทนไม่ไหวมาระบายกับแม่
"เราต้องจัดการอะไรสักอย่างตอนแรกคิดว่าจะโง่เชื่องไม่ทันคนที่ไหนได้.."
"แม่จะทำอะไรหรือเราฆ่ามัน?"
"ตอนนี้ยังไม่ได้ธุรกิจคุณท่านกำลังไปได้สวยต้องให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้ต่อไปถึงเวลากอบโกยเราจะได้รวยล้นฟ้า"
"โรสรักแม่นะคะ อิอิ"
สองแม่ลูกโอบกอดกันแนบแน่นประหนึ่งละครทีวีหลังข่าว ตัวร้ายมักจะแฝงมาในรูปแบบคนสนิทชิดเชื้อเสมอ
หลายวันผ่านไป
"ตะ แต่งงาน" เสียงตะกุกตะกักที่ข้าวแทบจะพุ่งออกมา "คุณพ่อจะให้หนูแต่งงานเหรอคะ!"
"พ่อหวังดีนะคุณหญิงอิงศรีก็เห็นด้วย"
"____"
"อีกอย่างพ่อก็อายุเยอะขึ้นทุกวันหากมีลูกเขยมาช่วยบริหารงานสักคนคงจะดี"
"แต่หนูยังไม่พร้อม"
อิงศรี คือชื่อแม่เลี้ยงของฉันที่นั่งลอยหน้าลอยตาไม่พูดจาอะไรนอกจากยิ้มเสมอถ้าหากมีคุณพ่ออยู่ด้วย
"แต่หนูเพิ่งอายุสิบแปดปีเองนะคะ" แม้พยายามร้องท้วงแต่เหมือนจะไม่ได้ผล
"พรฟ้าไม่เคยขัดใจพ่อสักครั้งและหวังว่าครั้งนี้ด้วยเช่นกัน ผู้ชายที่พ่อเลือกเขาทั้งหล่อและดีเหมาะสมกับลูกทุกประการ"
"คุณพ่อ.."
แต่ต่อให้จะถกเถียงไปทุกอย่างก็จบลงเหมือนเช่นเดิม แต่ไหนแต่ไรคุณพ่อมักถือตัวเป็นใหญ่แม้แต่คุณแม่ที่ตายไปก็ยังขัดอะไรท่านไม่ได้เลย
เช้าต่อมา
"วันนี้เรามีเรียนมารยาททางสังคมคุณอลิสาให้คุณหนูไปพบที่ตึกเนื่องจากติดธุระด้วยค่ะ"
"แล้วพี่ไม่ไปด้วยเหรอคะ"
"พอดีคุณโรสขอให้ช่วยจัดแจงชุดเสื้อผ้าเลยไปกับคุณหนูไม่ได้วันนี้"
"หนูต้องนั่งรถไปคนเดียวสินะคะ"
"ใช่ค่ะ แล้วเจอกันตอนเย็นนะคุณหนูของพี่"
พี่เลี้ยงจัดแต่งผมถักเปียให้พรฟ้าอย่างตั้งใจ เป็นครั้งแรกที่เธอจะได้ออกไปเรียนข้างนอกโดยไม่มีใครติดตามนอกจากคนขับรถ
บรืนนน
รถแล่นไปยังจุดหมายแต่จู่ๆ ก็แวะเลี้ยวเข้าข้างทางปั้มน้ำมันใจกลางชุมชน
"คุณหนูพรฟ้ารอกระผมสักครู่นะครับ สงสัยเพราะอาหารเมื่อตอนกลางวันผมเลยปวดท้องขอไปถ่ายหนักก่อน" ลุงคนขับรถหันมาพูดเสียงนอบน้อม
"ไปเถอะค่ะลุงพลหนูรอได้"
"ขอบคุณครับ"
หลายนาทีต่อมา
"ผมมาเเล้วครับคุณหนู พะ พรฟ้า" เสียงรีบเร่งขึ้นนั่งเบาะคนขับเตรียมตัวออกเดินทางต่อแต่เขากลับต้องชะงักจนแทบเป็นลมล้มพับเมื่อคุณหนูหายไป
ตึก ตึก ตึก
ฉันก้าวขาลงจากรถนับว่าเป็นครั้งแรกที่ได้แตะสัมผัสพื้นฝุ่นมากมายขนาดนี้ ซึ่งปกติแทบไม่ได้เหยียบด้วยซ้ำไป จะเรียกว่านี่..ความกล้าหาญปราชัยก็ได้เมื่อตัดสินใจแบบนี้
ขณะที่นั่งบนรถมองลอดออกไปทางหน้าต่างได้เห็นผู้คนพลุกพล่านหลากสีสัน ลูกหอมแก้มแม่ หรือสามีโอบกอดภรรยา ทั้งที่สวมใส่เสื้อผ้าชิ้นเก่าราคาคงถูกกว่ามื้ออาหารของฉัน แต่..ทำไมพวกเขาเหล่านั้นถึงดูมีความสุขจัง
บ้านคฤหาสน์
"อะไรนะจดหมายเหรอ!" เมื่อข่าวการหายตัวลูกสาวถึงหูผู้เป็นพ่อแทบจะล้มทรุด "ทำไมถึงไม่ดูแลลูกสาวของฉันให้ดีอยากตายกันหรือไง!"
ทุกคนก้มหน้าคล้ายจะร้องไห้เพราะอำนาจเงินทองของเขาเรียกได้ว่าถ้าฆ่าคนตายคงทำได้อย่างสบาย ก่อนที่ภรรยาจะลุกขึ้นมายืนแนบกายเพื่อพูดให้สติอารมณ์
"ในจดหมายลูกพรฟ้าแค่ขอเวลาไปใช้ชีวิตหากเธอเบื่อเดี๋ยวก็กลับมาเอง" มือเรียวลูบต้นแขน "ปล่อยเธอไปทำตามใจบ้างเถอะค่ะคุณพี่ ถือว่าเป็นของขวัญวันเกิดครบสิบแปดปีของเธอ"
คำเป่าหูได้ผล เขาทรุดลงอ่านเนื้อความในจดหมายที่ฝากถึง ซึ่งเป็นเพียงกระดาษเก่าที่หาได้จากเบาะรถและปากกาที่ติดกับพวงมาลัย
ก่อนอื่นหนูต้องขอกราบขอโทษคุณพ่อที่ทำแบบนี้ แต่ชีวิตของหนูไม่เคยรู้ว่าตัวเองต้องการอะไรเพราะทุกอย่างที่มีมันมากมายกว่าใคร หลังจากที่บอกว่าหนูควรแต่งงานยิ่งทำให้หนูมั่นใจว่าชีวิตยังใช้ไม่คุ้ม จึงอยากขอให้คุณพ่อเข้าใจและอย่าตามหาหนูเลยนะคะ อีกอย่างอย่าไล่ลุงพลหรือใครออกด้วยเพราะความผิดนี้หนูขอรับไว้แต่เพียงผู้เดียว หนูสัญญาว่าจะกลับไปแน่นอนหลังจากที่หนูรู้ว่า ชีวิต..คืออะไร
รักพ่อนะคะ จาก พรฟ้า
ผู้เป็นพ่อกุมขมับคิดถึงการใช้ชีวิตของลูกสาวที่ถูกเลี้ยงดูปูเสื่อมาอย่างดี แต่เขาจำลายมือนี้ได้ ซึ่งไม่ผิดก็คือพรฟ้า อีกทั้งคำพูดยุยงส่งเสริมของภรรยาเขาจึงยอมรับฟังแต่ไม่ใช่ทั้งหมด หลายชั่วโมงต่อจากนั้น
"หากเจอตัวพรฟ้าเมื่อไหร่ให้พากลับมาไม่ว่าวิธีไหนก็ตามเข้าใจไหม" เสียงน่าเกรงขามเอ่ยสั่งลูกน้องคนสนิทโดยหารู้ไม่ว่ามีใครบางคนแอบมองดูจากอีกด้าน
"คุณแม่เราจะเอายังไงดีคะ?"
"สั่งคนของเราไปขัดขวางห้ามให้มันตามหาเด็กบ้านั่นเจอ เราจะใช้จังหวะนี้ควบคุมทุกอย่าง"
"ได้ค่ะคุณแม่"
สองแม่ลูกกระซิบกระซาบอยู่หลังเสาเพราะคิดว่าพรฟ้าจะไม่กลับมา หรือ ถ้ากลับมาทุกอย่างคงเป็นของพวกเธอหมดแล้ว
ริมถนน
"เหนื่อยจังทำไมคนเขาเดินกันได้นะ" เสียงแหบพร่าของฉันที่ใช้เเรงหลบหลีกทางจนยืนไม่ไหว "เราควรนอนพักก่อนจะได้มีแรงเดินต่อไป"
สายตาฉันเหลือบไปเห็นรถกะบะคันใหญ่ที่มีผ้าคลุมเอาไว้พร้อมกองฟางและเข่งผลไม้ จึงรีบใช้ตัวเล็กผอมบางแทรกเข้าไป แม้จะนอนไม่สบายแต่ขอพักเอาแรงก่อนละกัน
"ขอพักสายตาสักนิดเถอะ.."
บรื้นนน