สายตาฉันเหลือบไปเห็นรถกะบะคันใหญ่ที่มีผ้าคุมเอาไว้พร้อมกองฟางและเข่งผลไม้ จึงรีบใช้ตัวเล็กผอมบางแทรกเข้าไป แม้จะนอนไม่สบายแต่ขอพักเอาแรงก่อนละกัน
"ขอพักสายตาสักนิดเถอะ.."
บรื้นนน
"ลงผักเลยสามเข่งแต่ไปเอากระสอบมาใส่ก่อน" เฒ่าแก่สั่งลูกน้องเสียงดังเมื่อรถขนของเดินทางมาจากต่างเมืองขาประจำเทียบจอด
"อื้อ เช้าเเล้วเหรอเนี่ย" เสียงงัวเงียตื่นจากหลังหลังจากแอบหนีมาหลบซ่อนบนเข่งผักแต่ดันเผลอหลับไปอย่างไม่รู้ตัว "น..นี่มันที่ไหนเนี่ย"
เวลาชีวิตหมุนผ่านอย่างรวดเร็วเสมอเช่นเราอาจจะเผลอนอนหลับข้ามคืนแล้วตื่นขึ้นมาพบว่าอยู่บนรถส่งผักที่กำลังแล่นไปที่ไหนสักแห่ง..
พอเงยหน้ามองป้ายทางเข้าหมู่บ้านเท่านั่นเเหละ
.
.
'ชุมชนเถื่อนเขื่อนแตก'
แค่ชื่อก็โคตรเป็นศิริมงคลแล้วค่ะ เฮ้อ...
ฝีเท้าเล็กเดินเรียบไหล่ทาง ด้านข้างสองฟากแทบจะไม่มีผู้คนคล้ายกับเป็นชุมชนห่างไกลความเจริญ เธอย่ำเท้าอย่างไร้จุดหมายจนกระทั่งใกล้พลบค่ำ
"ถ้ามืดต้องอันตรายแน่ แต่เคยดูในข่าวที่พึ่งของคนไทยคือวัด ใช่เราต้องไปวัด" รอยยิ้มแสยะอย่างภูมิใจ แต่..จะหาวัดเจอยังไงเพราะไม่มีผู้คนให้ถาม
ขณะที่เดินอยู่ก็สังเกตพื้นดินที่มีเป็นถนนดินแดงทางลูกรังรองเท้าสีขาวกลายเป็นเปรอะสีสันตลกดี
ร้านเหล้าฮาเฮ
"น้องจ๋าขอเหล้ายาดิ่งสิบเป็ก"
"ส่วนพี่ไม่ขอยาดองแต่ขอยาใจ อึ๊ยยย"
"ส่วนพี่ไม่ขออะไรนอกจากขอน้องมาชิดใกล้ ฮ่าๆ"
เสียงเอ่ยแซวจากบรรดาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ เมื่อร้านเหล้าแถบนี้ไม่ได้เยอะมากมาย ผู้คนจึงรวมตัวกันหลากหลายในที่นี่
"ใจเย็นไว้ไอ้สัส!พี่มึงเป็นเด็กเสิร์ฟต้องทำใจ" คมตบบ่าไหล่ของเพื่อนเรียกสติ
"พูดได้แต่อย่าให้มากไปหลายทีแล้วแตะอั๋งพี่กูอยู่ได้ไอ้จัญไร"
"กูบอกแล้วว่าควรไปร้านอื่น พอมาร้านที่พี่แยมอยู่มึงก็เป็นงี้"
"ก็กูอยากมา"
วันนี้ครึ้มใจผมเลยชวนพรรคพวกหลายคนมานั่งดื่มเหล้าร้านที่พี่สาวทำงาน แต่ดันเจอพวกตัณหากลับวัยทำงานกวนส้นตีน สักพักก็มีกลุ่มวัยรุ่นอีกฝั่งเดินมานั่งทำท่ากวนตีนอีก
เพียะ!
"โทษทีครับพี่มือผมลั่น" ฝ่ามือหนาฟาดลงแก้มก้นเนียนของแยมจนลั่นสั่น
"จะรับอะไรดีคะ"
"เอาแสงกลมแบบเพียวน้ำครับ"
"รอสักครู่นะ"
"แต่น้ำพี่คิดเท่าไหร่.."
ข้อแขนเล็กโดนคว้าเอาไว้ทั้งคำพูดคุกคาม แยมหันไปมองโต๊ะข้างที่น้องชายตัวเองนั่งอยู่สายตาเขาตอนนี้ดูอยากจะสู้เต็มทน
"ปะ ปล่อยเถอะ"
"แค่นี้ทำเป็นหวงตัวเป็นคนชงเหล้าพ่วงด้วยอาชีพกะหรี่ถมเถไปพี่ ฮ่าๆ"
"หยุดนะ"
"ทำไมอะ..ทำไมครับบบบ"
เคว้ยง!
"เฮ้ยย!"
จานชามแตกกระจายลงพื้นเพราะผมคว่ำโต๊ะเอง สันดานอย่างมันต้องคุยกับหมัดของผม ดูถูกใครก็ได้แต่ไม่ใช่กับพี่สาวไอ้ยีนส์!
"มึงอยากมีเรื่องเหรอ" ทันทีอีกฝ่ายก็ลุกยืนขึ้นอย่างพร้อมเพรียง
"มาถิ่นอื่นยังปากดีอย่าแดกเลยเหล้าแดกตีนกูให้คลายเหงาก่อนเถอะพวกมึง"
"ก็มาดิครับ"
กรี๊ดดด
เหตุการณ์ตีกันอย่างชุลมุนเสียงรอบข้างกรี๊ดสั่นอย่างตกใจ เมื่อทั้งสองฝ่ายวิ่งปรี่ทำร้ายอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายใดๆ
"พอเถอะยีนส์พี่ขอ!"
เสียงผู้หญิงคนหนึ่งห้ามปราม จนทำให้ชายอีกคนได้จังหวะจึงรีบวิ่งหนีออกไป
"ไอ้ยีนส์มันวิ่งไปแล้ว!" เพื่อนในกลุ่มที่กำลังดวลหมัดรีบตะโกนบอก สักพักเสียงสบถพร้อมวิ่งตาม
"คิดว่าจะหนีพ้นเหรอไอ้เหี้ยเอ้ย!"
ร้านเหล้าขนาดเล็กเละเทะไปด้วยข้าวของแตกกระจัดกระจายเสียหาย
"ตามกูไม่ทันหรอกเว้ยยย!"
ชายหนุ่มวิ่งกระเจิงซอยเท้าเข้าซอยอีกหมู่บ้าน ตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบหกโมงเย็นเขาจึงรีบวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต
ตุ้บ! อัก
"โอ๊ยยย" เสียงร้องเจ็บดังขึ้นเมื่อเกิดการปะทะกันจนกระเด็นล้มไปคนละทาง
"เดินยังไงวะอีสัส!"
"พี่นั่นแหละวิ่งยังไงไม่มองทาง"
"แม่ง.."
เขารีบลุกขึ้นยืนเอามือกุมอกที่สั่นเพราะใช้เเรงเยอะก่อนที่เสียงเล็กจะเอ่ยถาม
"วัดไปทางไหนพี่?."
"วัดเชี้ยไรถอยไปกูรีบ!"
หมับ
"ตอบหนูก่อนสิคะมันจะมืดแล้ววัดไปทางไหน.."
แขนเล็กยังคว้ามือหยาบรั้งไว้ไม่ให้ไปก่อนจะถูกสะบัดทิ้งอย่างแรง
"กูไม่รู้จักมึงอีห่านี่!"
"สวัสดีค่ะหนูชื่อพรฟ้า หรือ นส.ศรสวรรค์ อายุสิบแปดปีนี้บอกหนูได้หรือยังว่าวัดไปทางไหน"
ปุ๊ก!
"เชี่ยไม่แตก"
ทันทีที่พรฟ้าแนะนำตัวจบก็มีใครบางคนโผล่มาจากด้านหลังถือขวดเบียร์ทุบหัวของผู้ชายตรงหน้าเธอ
ฉึก! พึก!
หลังจากสถานการณ์ชวนงุนงง ชายผู้ถูกทุบล้วงมีดพกในกระเป๋าเฉือนแทงเขาที่แขนก่อนจะผลักจนล้มลงกับพื้นพร้อมกับวิ่งกระเเทกไหล่ของเธอออกไป
"เชี่ยแม่ง!ไอ้สัส อ๊าก"
เลือดสีแดงสดไหลออกมาโดยที่เขายังนอนคลุกฝุ่นสบถด่า พรฟ้าอึ้งจนแน่นิ่งก่อนที่เธอจะตั้งสติวิ่งไปหาเขาที่ล้มกำลังบาดเจ็บ
"พี่คะรู้ไหม..วัดไปทางไหน?"
"!!!"
สถานีตำรวจ
"กูบอกใช่ไหมไอ้ยีนส์ถ้ามีอีกคดีคือเข้าตาราง ถ้าไม่ติดว่ากูเป็นเพื่อนพ่อมึงสมัยเก่าไม่ตามช่วยมึงหรอก สันดานนักเลงแก้ไม่หายสักที" ตำรวจชั้นผู้น้อยส่ายหน้าทันทีเมื่ออีกฝ่ายมาร้องทุกข์เรื่องที่โดนขวดทุบหัวจนเลือดอาบ
"ครั้งนี้ผมไม่ได้เป็นคนเริ่มนะมันลวนลามพี่สาวผมก่อนและตอนผมทุบขวดก็ไม่แตกมันตอแหล"
"จะยังไงก็แล้วแต่อันดับแรก..พยานเพื่อยืนยันว่ามึงบริสุทธ์และตอนมึงใช้ขวดทุบหัวมันไม่แตก"
"เหอะ!สบายมากผมมี!"
ดั่งโชคเข้าข้างขนาดคุกอยู่ตรงหน้าแต่รั้งความยิ่งใหญ่ของผมไม่ได้ จึงเดินออกไปลากแขนนังเด็กที่อยู่ในเหตุการณ์เข้ามาด้วย
"บอกเขาไปว่ากูถูกทำร้าย" สายตาแหลมคมจ้องมองสาวน้อยข้างกาย "มันเอามีดแทงแขนกูและมึงเห็นเต็มสองตาว่าตอนขวดฟาดหัวมัน ขวดแม่งไม่แตก"
ตำรวจจ้องหน้าพรฟ้าพร้อมยื่นเอกสารบางอย่างคล้ายเป็นสำเนาบันทึกประจำวันให้เธอเป็นพยานยืนยันเพราะขวดที่เป็นอาวุธนั่นดันหายไปในที่เกิดเหตุ
"หนูไม่รู้เรื่องและไม่เห็นอะไรสักอย่างเลยค่ะ"
"เห็นหรือยังผมบริสุทธิ์ครับ ถุ้ยยย!"
อีห่า! พูดออกมาหน้าตาเฉยทั้งที่มันเห็นทุกอย่างแต่ทำไมกลับให้ปากคำแบบนั้น เอกสารถูกคว้าเพื่อยึดกลับพร้อมกับกรงขังที่เปิดออก ฉิบหายละเอายังไงดีวะเนี่ย..