ตุบ!! ตุบ!! ตุบ!!
แต่พอนั่งกินข้าวไปได้สักพักเธอก็ได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรหล่นกระทบพื้นอย่างแรง เธอจึงรีบลุกขึ้นเดินไปดูบริเวณกำแพง แล้วส่งไปที่รอมองเห็นเหมือนมีนักเรียนโรงเรียนฝั่งตรงข้ามปีนข้ามรั่วหนีออกกันออกไปสองสามคน พอเห็นแบบนั้นเธอก็ทำไม่สนใจเดินกลับมากินข้าวของตัวเองต่อ แต่ก็ชะงักขากำลังจะเดินกลับมาเธอกลับคนคุ้นเคยกำลังนั่งกินข้าวในกล่องของเธออย่างหน้าตาเฉย
"มากินของเราทำไมเนี่ย"
"ก็ฉันหิวไง ยังไม่ได้ไปกินข้าวเลยครูเพิ่งปล่อยแถมคนต่อแถวเยอะอีก"
"นั่นมันก็เรื่องของเธอ ไม่อยากห่อมาเอง"
"บ่นทำไม ทำเหมือนฉันไม่เคยกินของเธอนั่นแหละ วันนี้ฝีมือป้าศรีทำอีกแล้วใช่ไหม"
"ใช่" เธอเดินลงมานั่งบริเวณโต๊ะไม้หินอ่อนฝั่งตรงข้ามเขา
"งั้นวันหลังก็ให้ป้าศรีห่อมาเผื่อฉันด้วย"
"ไม่ ถ้าอยากได้ก็ให้แม่บ้านตัวเองทำให้สิ ทำไมต้องมายุ่งกับแม่บ้านคนอื่นด้วย"
"ขี้งกจริง ๆ เลย" เขาก็นั่งกินข้าวของเธอต่อโดยไม่สนใจเธอที่มองเขาด้วยสายตาละห้อย
"หยุดกินของเราเดี๋ยวนี้เลย เรายังกินไม่อิ่มแต่เธอมานั่งกินของเราจนจะหมดกล่องอยู่แล้ว"
"พูดมาก วันนี้ว่างไหม"
"ถามเราทำไมเหรอ"
"ว่าจะชวนไปที่ที่หนึ่ง อยากให้เธอไปด้วย"
"สนามแข่งรถใช่ไหม"
"ทำไมรู้ ฉันจำได้ว่ายังไม่ได้บอกเธอเลย"
"ก็เพราะว่ามันเป็นวันศุกร์ มันมีไม่กี่ที่หรอกที่เธอชอบไปมั่วสุม"
"ไปด้วยกันนะ เดี๋ยวสักสองทุ่มจะไปรับ"
"ถ้าเราบอกว่าเราไม่ไปล่ะ เราไม่ชอบไปสถานที่แบบนั้น มันหนวกหูและน่ารำคาญ"
"แต่วันศุกร์นี้จะไปอีกสนาม คนคงไม่เยอะเท่าไหร่"
"สนามไหน"
"ไปถึงก็รู้เองนั่นแหละ"
"แล้วจะพาเราไปด้วยทำไม เราไม่ชอบที่โดนคนอื่นมองเยอะ ๆ นะ"
"ไปเป็นไม้กันหมาให้หน่อย ฉันไม่ชอบมีคนมายุ่งด้วย" ก็อย่างที่เขาพูด หลายครั้งที่เขาหอบเธอไปด้วยตามสถานที่ที่เขาแข่ง เพื่อให้เธอไปกันพวกผู้หญิงที่จะเข้าหาเขา ซึ่งทุกครั้งเธอจะถูกพวกผู้หญิงพวกนั้นมองแรงใส่ แต่เธอก็ไม่ใส่ใจอะไรเพราะเราไม่ได้ดูจากกันเป็นการส่วนตัว
"ตลอดเลยนะเธอเนี่ย เดี๋ยวสักวันเราคงจะโดนดักตบแน่"
"ถ้ามีใครมายุ่งกับเธอ ต้องรีบบอกฉันให้เร็วที่สุด เดี๋ยวฉันจะไปจัดการมันให้"
"......"
"แล้วไปทำอะไรที่กำแพงนั่น"
"เมื่อกี้เหมือนได้ยินเสียงอะไรหล่นกระทบพื้นแรง ๆ เลยเดินไปดู"
"แล้วเห็นอะไรไหม"
"เห็นเป็นนักเรียนชายโรงเรียนด้านข้างสามคนกระโดดข้ามรั้วออกไปด้านหลัง"
"น่าจะเป็นพวกไอ้อาร์มกับเพื่อนมัน เพราะฉันเห็นมันชอบข้ามไปกินข้าวร้านอาหารตามสั่งด้านหลังโน่น"
"เธอรู้จักพวกเขาด้วยเหรอ"
"ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว แต่พอได้ยินชื่อมาบ้าง เพื่อนของไอ้อาร์มคนนึงเป็นประธานนักเรียน ที่ดังเอามาก ๆ และนิสัยเกเรสุด ๆ มีเรื่องชกต่อยแทบทุกอาทิตย์"
"นิสัยไม่ดีขนาดนั้นแต่ก็ยังได้เป็นประธานนักเรียนอีกเหรอเนี่ย"
"ไม่รู้ว่าเขาโหวตให้มันได้ยังไงกัน สงสัยชอบนิสัยเห*้ย ๆ ของมัน"
"แต่แปลกนะ เรากินข้าวตรงนี้ทุกวันแต่ไม่เคยเห็นเลย"
"ดีแล้วที่ไม่เห็น เดี๋ยวพอเห็นก็โดนพวกมันแกล้งอีก พวกนั้นยิ่งเป็นนักเลงชอบแกล้งคนที่ไม่มีทางสู้ กินข้าวต่อเถอะเดี๋ยวฉันจะไปแล้ว"
"เธอลืมกล่องนม" เธอหยิบกล่องนมที่เพื่อนลืมเอาไว้ ยื่นคืนกลับให้เขา
"ฉันให้ เอาไปดื่มเถอะจะได้สูงกว่านี้"
"เดี๋ยวจะโดนเราตีนะ ทำไมต้องชอบพูดถากถางกันด้วย"
"มือแค่นั้น เธอตีให้ฉันเจ็บหรือจะเจ็บเองกันแน่" เขาพูดเสร็จก็ลุกขึ้นเดินออกไป เธอจึงกินข้าวที่เหลืออยู่ในกล่องของตัวเองต่อโดยไม่ได้รับรู้เลยว่ามีคนแอบถ่ายรูปเธอกับ...เอาไว้
"ตอนบ่ายวันนี้มีเรียนอะไรบ้างวะ"
"ปองภพกับวัณนีคนละสองคาบเลย"
"ใครแ***ชอบจัดตารางเรียนครูสองคนนี้สอนติดกันด้วยวะโคตรน่าเบื่อเลย สั่งงานก็เยอะแถมให้รีบส่งอีก"
"ทนเอาเดี๋ยวก็จบแล้ว"
"เดี๋ยวเห*้ยอะไรของมึง อีกตั้งหนึ่งเทอม"
"แล้วนี้หาที่เรียนได้ยัง กูได้แล้วนะ"
"ที่ไหน"
"มหา'ลัย..."
"กูว่าจะไม่เรียนต่อ"
"พ่อมึงจะยอมหรือไง ยิ่งมึงเป็นลูกคนเดียวต้องเป็นหน้าเป็นตาให้กับครอบครัวอีก"
"ก็กูเรียนไม่เก่ง เรียนไปก็ไม่น่าจบ"
"แล้วมึงล่ะไอ้พีช จะเรียนต่อไหม"
"ก็คงเรียนต่อ แต่ไม่รู้ว่าจะต่อที่กรุงเทพหรือกลับไปต่อที่เชียงใหม่ดี"
"จะเลือกที่ไหนก็รีบเลือก เหลือเวลาอีกไม่นานแล้วนะ"
"อืม ขอปรึกษาที่บ้านก่อน เดี๋ยวกูบอกพวกมึงอีกที"
"งั้นเราไปกันเถอะ อีกสิบนาทีก็จะถึงเวลาเรียนแล้ว"
เขากับเพื่อนทั้งสองก็ลุกขึ้นไปจ่ายเงินกับลุงเจ้าของร้าน แล้วรีบเดินมายังกำแพงที่ข้ามมาก่อนหน้านี้ เพื่อนเขาก็กระโดดข้ามไปทั้งสองคนแล้ว ก็จะเหลือแค่เขาแต่ในขณะที่กำลังนั่งอยู่บนกำแพงที่กำลังจะกระโดดข้ามไป เขาบังเอิญเห็นเป็นหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งคุ้นเอามาก ๆ แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออก กำลังจะเดินไกลออกไปจากเขาเรื่อย ๆ จนสุดสายตาเขา
"พีช"
"....."
"ไอ้พีช"
เขาที่สะดุ้งตกใจเสียงของเพื่อนจนทำให้ลื่นไถลพลาดตกลงจากกำแพงอย่างแรง
"โอ๊ยยยย"
"เห้ย!!ไอ้พีช เป็นยังไงบ้างวะเพื่อน"
"เจ็บแขน" เขาใช้มืออีกข้างจับไปยังแขนที่เจ็บ
"แขนหักไหมวะเนี่ย กูขอโทษนะกูไม่ได้ตั้งใจเรียกมึงเสียงดังจนทำให้มึงตกใจขนาดนั้น เลยพลาดตกลงมา"
"ไม่หัก แค่เจ็บนิดหน่อย"
"โล่งอกไปที เกือบซวยแล้วไงยิ่งคืนนี้มึงมีแข่งอยู่"
"ไม่ต้องห่วง กูไม่ได้เจ็บแรงขนาดนั้น"
"ถ้าไม่เป็นอะไรแล้ว ก็ไปกันเถอะเดี๋ยวจะเข้าสาย"
เขาพยุงตัวเองลุกขึ้นแล้วใช้มือเช็ดคราบดินที่เกาะติดตามเสื้อผ้าออก แล้วรีบเดินมายังอาคารเรียน เพื่อจะเข้าเรียนในช่วงบ่าย
เลิกเรียน
"วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะครับ เดี๋ยววันศุกร์ค่อยมาต่อจากนี้"
"นักเรียนทั้งหมดทำความเคารพ"
"ขอบคุณครับ/ค่ะคุณครู"
พอครูเดินออกจากห้องเรียนไปแล้ว เธอก็รีบเก็บของใส่กระเป๋าเพื่อจะได้ลงไปรอรถ ที่คนรถที่บ้านมารอรับ แต่ขณะที่กำลังเดินออกจากห้องอยู่นั้นก็มีนักเรียนหญิงสามสี่คนเดินมาดักขวางทางเธอเอาไว้ เธอจึงขยับตัวเบี่ยงหนีไปทางอื่น แต่พวกเธอก็ยังเดินมาดักเธอเอาไว้อีก เธอจริงเลยน่ามองเพื่อสื่อว่าต้องการอะไรกัน
"ยัยแว่นแกมองหน้าพวกฉันอย่างนี้ อยากเจ็บตัวหรือไง"
"เรายังไม่ได้ทำอะไรพวกเธอเลยนะ ทำไมต้องพูดจาแบบนี้ด้วย แล้วที่เรามองหน้าคืออยากสอบถามไงว่ามีอะไร ถึงเดินมาขวางทางเรา"
"ถ้าแกไม่ทำอะไรที่ไม่ควรทำ พวกฉันไม่ยอมลดตัวมาคุยกับแกหรอก"
"แล้วมีอะไร เราไปทำอะไรให้พวกเธอไม่พอใจกัน"
"แกรู้จักกับนับสิบด้วยเหรอ ทำไมท่าทางคุยกันกะหนุงกะหนิงแบบนั้น"
"อะไร พวกเธอพูดเรื่องอะไรกันเราไม่เข้าใจ"
"ยังจะมาตอแหลอีก แกไม่เห็นที่เขาแชร์กันในเพจหรือไง"
พอหนึ่งในสี่คนพูดออกมาแบบนั้นเธอก็หยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาเปิดเข้าไปในเพจโรงเรียน แล้วพบกับรูปของเธอที่น่าจะถูกถ่ายเมื่อตอนเที่ยงของวันนี้
"เห็นแล้วใช่ไหม ยังจะมาแก้ตัวอะไรอีก"
"แล้วไงต่อ"
"แล้วไงต่อเหรอ แกกล้าดียังไงมายุ่งกับแฟนของฉัน"
"แต่เขาเคยบอกกับฉันว่าเขาโสดนะ จะเป็นแฟนกับเธอได้ยังไง" เธอตอบออกไปด้วยความมั่นใจเพราะตั้งแต่รู้จักกับเพื่อนคนนี้มา เขาไม่เคยมีความลับกับเธอเลยแม้แต่เรื่องเดียว เรามีอะไรก็พูดคุยกันตลอด
"เขาเป็นแฟนฉันรู้ไว้ซะด้วยอีแว่น" คนที่อ้างตัวว่าเป็นแฟนกับเพื่อนเธอพูดออกมาไม่พอใจกับยกมือขึ้นเตรียมตัวที่จะตบเธอ แต่มีคนเดินมาแทรกด้านหน้าเธอเอาไว้จนไม่ทันระวัง ทำให้เขาโดนตบแทนเธอ
เพี๊ยะ!!
"นะ...นับสิบ วิขอโทษเจ็บไหม"
"อย่ามาจับฉัน ถอยออกไป"
พอนับสิบพูดแบบนั้นคนที่ชื่อวิก็รีบถอยออกไปทันที
"พวกเธอกำลังทำอะไรกัน มายุ่งกับแฟนฉันทำไม"
เธอที่ยืนฟังอยู่ก็รู้สึกตกใจมากหลังจากที่นับสิบพูดออกมาแบบนั้น
"เธอพูดอะไรของเธอเนี่ย เดี๋ยวเขาก็เข้าใจกันผิดหมดหรอก" เธอขยับไปพูดใกล้ ๆ เพื่อนของตัวเองเบา ๆ เพื่อให้ได้ยินกันเพียงแค่สองคน
"ก็บอกสถานะเราสองคนให้คนพวกนี้รับรู้ไง จะได้ไม่มายุ่งกับเธออีก"
"ไม่จริง สิบกำลังโกหกวิ อย่ามาพูดอะไรที่มันไม่ใช่เรื่องจริงได้ไหม มันดูตลกคนอื่นเขาดูออก"
"เธอจะเชื่อหรือไม่ มันก็เรื่องของเธอ แต่อย่าให้ฉันรู้นะ ว่าพวกเธอมายุ่งกับแฟนฉันอีก ไม่อย่างนั้นเราได้เห็นดีกันแน่" หลังจากที่นับสิบพูดออกมาแบบนั้นเขาก็รีบเดินจูงมือเธอออกมาจากตรงนั้นทันที ทิ้งให้คนที่ชื่อวิกรีดร้องออกมาด้วยความไม่พอใจ
"พวกนั้นทำอะไรเธอก่อนหน้าที่ฉันจะมาไหม"
"ไม่"
"อย่าโกหกฉันนะ"
"เราไม่ได้โกหกสิบจริง ๆ "
"ถ้าพวกนั้นมาหาเรื่องเธออีก ต้องรีบบอกฉันห้ามเก็บเงียบเอาไว้เด็ดขาด"
"รู้แล้วน่า เรื่องนี้สิบบอกเราแล้วไง"
"แล้วนี่คนรถที่บ้านมาหรือยัง"
"มาแล้ว"
"งั้นก็รีบเดินนำไป เดี๋ยวฉันจะเดินไปส่งที่รถ"
"จะไปส่งเราทำไมเราเดินไปเองได้ คนพวกนั้นคงไม่กล้ามาหาเรื่องเราแล้วแหละ"
"ยังไงฉันก็ไม่ไว้ใจ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเดี๋ยวฉันจะปกป้องเธอเอง ฉันคิดเอาไว้ว่าพวกนั้นยังไงก็มายุ่งกับเธออีกแน่นอน"
"จะมาปกป้องหรือจะทำให้วุ่นวายกว่าเดิมเนี่ย"
"ไปได้แล้ว เดี๋ยวตอนสองทุ่มไปรับ"
เธอจึงรีบเดินออกมาจากอาคารเรียน เดินตรงไปยังตรงที่คนรถจอดรถเอาไว้ที่ประจำ