INTRO
"กว่าจะเสร็จโว้ย น่ารำคาญจริง ๆ "เขาบ่นพึมพำออกมาหลังจากที่เดินพ้นห้องประชุมมาได้ไม่ไกล ในช่วงเวลาเกือบหกโมงเย็น หลังจากนั่งฟังการประชุมของโรงเรียนมานานเกือบสามชั่วโมง เพราะด้วยสถานะของเขาเป็นประธานนักเรียนที่ไม่ได้อยากเป็นตั้งแต่แรก เพราะถูกเพื่อนทั้งห้องบังคับลงสมัครประธานนักเรียน แต่ความซวยมันมาลงที่ว่าเขาดันถูกเลือกด้วยคะแนนสูงสุดห่างจากอันดับที่สองเกือบแปดสิบเปอร์เซ็นต์ ทำให้เขาเลยต้องยอมเป็นอย่างจำใจจนมาถึงทุกวันนี้ เขาเอาแต่ปลอบตัวเองทุกวันว่าทนอีกหน่อยอีกไม่นานก็จบจากโรงเรียนนี้ไปแล้ว
"ไอ้พีชเพื่อนรัก เสร็จแล้วเหรอวะ"
"อืม เสร็จแล้ว"
"จะกลับห้องเลยไหม หรือว่าจะไปไหนต่อ"
"ก็คงต้องกลับ เพราะช่วงนี้มีงานกิจกรรมที่โรงเรียนเยอะ ไปสนามก็ไม่ได้ด้วยเดี๋ยวก็โดนเฮียสิงห์ ตวาดไล่ให้กลับมาอีก" สนามที่เขาพูดถึงก็คือสนามแข่งรถของรุ่นพี่ที่สนิทที่เป็นพี่ที่พวกเขาเคารพ แต่ด้วยตอนนี้พี่เขาจบจากโรงเรียนนี้ไปแล้วสองปีเพราะต้องไปต่อมหา'ลัย แต่ยังไงพวกเราก็ไปมาหาสู่กันตลอด และเขาก็ชอบไปแข่งรถที่นั่นอย่างน้อยอาทิตย์ละหนึ่งครั้ง แต่ด้วยเพราะช่วงนี้ที่โรงเรียนเขามีงานกิจกรรมทำให้เขาต้องห่างจากที่นั่น เพราะสิงหาที่เขาพูดถึงบอกว่าวัยนี้ต้องตั้งใจเรียนก่อนเป็นอันดับแรก
"น่าเสียดายว่ะ เห็นไอ้แบงก์บอกว่าวันศุกร์หน้ามีคนมาท้ามึงด้วยนะเว้ย"
"มันเป็นใคร" เขาถามเพื่อนตัวเองออกมาไปด้วยน้ำเสียงอยากรู้ เพราะด้วยฝีมือการแข่งรถของเขานั้นถึงเขาจะเป็นเด็กแต่ฝีมือเขาระดับมืออาชีพเลยก็ว่าได้
"ไอ้นับสิบไง"
"แล้วมันนับสิบไหนล่ะ กูจะรู้ไหมเนี่ย"
"นับสิบโรงเรียนข้างรั้วเราไง มันดังจะตายนะมึงไม่รู้จักมันหรือไง" เขาหันไปมองโรงเรียนที่ใช้กำแพงเดียวกันกับเขา ถึงจะเป็นโรงเรียนด้วยกันแต่ด้วยของเขาเป็นโรงเรียนเอกชนชื่อดัง แต่อีกฝั่งนั้นเป็นโรงเรียนรัฐบาลที่มาตรฐานการเรียนเคร่งครัดเหมือนของเขาด้วยความไม่พอใจ เพราะถึงเราทั้งสองโรงเรียนนั้นจะอยู่ติดกันใช้กำแพงเดียวกันแต่ไม่ถูกกันเลยแม้แต่นักเรียนและก็ครู เวลากิจกรรมอะไรชอบชิงดีชิงเด่นกันตลอด ถือว่าเป็นคู่ปรับกันตลอดกาล
"ชื่อแ***โคตรเชยเลย"
"กูว่าชื่อมึงน่าจะเชยกว่าชื่อมันอีกนะ"
"ไอ้อาร์ม" เขามองไปที่เพื่อนด้วยความไม่พอใจหลังจากที่มันต่อล้อต่อเถียงกับเขา
"แล้วเอาไง จะรับไม่รับกูจะได้บอกเขาไว้"
"งั้นก็รับคำท้ามันไปซะ"
"ก็ไหนมึงบอกว่าช่วงนี้จะไม่ไปไง"
"มันท้ากูขนาดนั้น มึงจะให้กูปฏิเสธหรือไง"
"ได้เลยเพื่อนรัก งั้นกว่าจะถึงวันแข่งก็ต้องเตรียมตัวให้ดีเพราะเหลืออีกแค่สี่วันเอง"
"มึงไม่ต้องเป็นห่วงหรอก กูเตรียมตัวเองดีอยู่แล้ว และกูไม่มีวันแพ้แน่นอน"
"กูรู้ว่ามึงเก่ง แต่มึงก็อยากชะล่าใจแล้วกันเพราะไอ้นั่นมันก็เก่งเหมือนกัน"
"เออ งั้นกูกลับก่อนจะไปกินก๋วยเตี๋ยว"
"กูไปกินด้วยสิ เพื่อนรัก"
"กูอยากไปกินคนเดียว" เขาตอบเพื่อนออกไปแล้วรีบเดินออกมาจากอาคารเรียน เดินตรงไปยังโรงจอดรถที่มีรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์คันใหญ่ของตัวเองจอดอยู่ พอเดินมาถึงก็ตวัดขาคร่อมรถพร้อมกับหยิบหมวกกันน็อกใบแพงของตัวเองมาใส่เรียบร้อย แล้วรีบสตาร์ตรถขับออกมาด้วยความเร็ว พอขับมาสักพักก็เลี้ยวจอดริมทางบริเวณร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าประจำของตัวเอง
"พ่อหนุ่มเอาเหมือนเดิมไหมลูก"
"ครับป้า แต่วันนี้ขอเพิ่มเป็นพิเศษนะ"
"ได้เลยลูก งั้นหาที่นั่งเลยนะเดี๋ยวป้าจะรีบทำเอามาให้"
เขาเดินลงมานั่งบริเวณโต๊ะว่างในร้าน พร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นรอ เลื่อนดูช่องทางโซเชียลของตัวเองที่เพิ่งลงรูปรถไปเมื่อเช้า มีคนเข้ามากดไลก์ให้เกือบหมื่น
"ได้แล้วพ่อหนุ่ม" คุณป้าเจ้าของร้านเดินถือถ้วยก๋วยเตี๋ยวที่เขาสั่งมาวางเอาไว้ พร้อมกับแก้วน้ำหนึ่งแก้วที่มีน้ำและน้ำแข็งบรรจุอยู่ข้างใน
"กินให้อร่อยนะลูก"
เขาก็ไม่ได้ตอบอะไรคุณป้าออกไปแต่หยิบเครื่องปรุงก๋วยเตี๋ยวขึ้นมาปรุงรสชาติตามใจตัวเอง พอปรุงเสร็จก็ลงมือกินด้วยความหิวโหย
ครืดดด ครืดดด
แต่ในขณะที่เขากำลังกินอยู่นั้นโทรศัพท์ที่กำลังเลื่อนเล่นอยู่นั้นก็มีรายชื่อของคนที่เขากำลังคิดถึงเด้งขึ้นมา เขาจึงรีบกดรับสายทันที
"ว่าไงครับม๊า"
(คนหล่อของม๊า ทำอะไรอยู่ครับ)
"กินก๋วยเตี๋ยวครับ"
(กินก๋วยเตี๋ยวอีกแล้ว ม๊าโทรหาตอนไหนก็บอกว่ากินแต่ก๋วยเตี๋ยว ทำไมไม่กินข้าวล่ะลูก)
"ก็มันไม่หิวน่ะสิครับผมชอบกินก๋วยเตี๋ยวมากกว่า แล้วนี่โทรมามีอะไรหรือเปล่า"
(ม๊าก็โทรมาเล่นด้วยเฉย ๆ นั่นแหละ เพราะคิดถึงไอ้เจ้าลูกชายตัวแสบ)
"ผมก็คิดถึงม๊าครับ แล้วนี้ป๊าไปไหน"
(ยังไม่กลับมาจากที่ทำงานเลย เห็นเมื่อเช้าก้องเกียรติมาตามให้ไปดูไม้ล็อตใหม่ที่เอามาส่ง)
"บอกป๊าว่าให้ดูแลสุขภาพด้วยนะ อายุเยอะแล้วยังจะทำงานหนักอีก"
(คนดื้อขนาดนั้นม๊าบอกฟังที่ไหนล่ะ แล้วนี่ช่วงนี้ได้ไปสนามแข่งอีกไหม)
"ไม่ได้ไปมาสองอาทิตย์แล้วครับ พอดีช่วงนี้มีงานที่โรงเรียน"
แม่ของเขารู้เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของเขาแทบทุกอย่าง เพราะเขาพยายามไม่ปิดบังมีอะไรก็จะบอกตลอด ซึ่งแม่ของเขาท่านก็ไม่ได้ห้ามอะไรอยากไปก็ไปแต่ต้องระวังตัวเองให้ดี
(ดีแล้วลูก เคลียร์งานทุกอย่างให้เสร็จตอนนั้นอยากไปค่อยไปม๊าไม่เคยห้าม แต่ต้องดูแลตัวเองดี ๆ นะห้ามไปมีเรื่องอีกเด็ดขาด)
เพราะด้วยเขาเป็นวัยรุ่นแล้วอารมณ์ก็จะฉุนเฉียวมากกว่าปกติ ซึ่งการมีเรื่องนั้นอยากจะบอกเลยว่าเขามีแทบทุกอาทิตย์และจะเป็นพี่ชายของเขาที่เป็นลูกพี่ลูกน้องซึ่งอาศัยอยู่กรุงเทพฯด้วยกันจะมาประกันตัวตลอด เพียงแต่ช่วงนี้คือห้ามไว้ก่อนเพราะด้วยงานของเขาแล้วไม่มีเวลาที่จะไปหาเรื่องใคร
"ก็ต้องดูก่อน ถ้ามันมาหาเรื่องผม ๆ ไม่ยอมหรอกนะ"
(ถ้ามันมาหาเรื่องลูกก่อน ก็กระทืบมันกลับไปเลยอย่าไปยอมนะเดี๋ยวจะเสียชื่อป๊ากับม๊าหมด)
ก็อย่างที่ทุกคนเห็นแม่ของเขาให้เขายอมคนอื่นที่ไหนล่ะ สมัยที่เขายังเป็นเด็กเวลามีเรื่องชกต่อยคำถามแรกที่แม่ถามเขาก็คือได้ชกมันกลับหรือยัง ถ้าบอกว่าได้ชกกลับแล้วแม่ของเขาจะยิ้มดีใจมาก แต่ถ้าเขาตอบว่าไม่แม่เขาจะโกรธเขาสุด ๆ เพราะแม่เขาบอกว่าห้ามให้มันชกเราแค่ฝ่ายเดียว เราต้องชกมันกลับให้มันเจ็บมากกว่าเราเป็นสองเท่า เขาเลยจำคำสอนนั้นมาจนตลอด
(งั้นก็กินต่อเถอะลูก ม๊าก็จะไปทำอาหารเตรียมไว้ให้ป๊าลูกด้วย)
"ทำไมต้องทำเองครับ แม่บ้าน ๆ เราก็มีเยอะแยะ"
(ม๊าอยากทำให้ป๊าของลูกกินเอง แค่นี้ก่อนนะม๊ารักลูกนะครับ)
"ผมก็รักม๊าครับ"
เขาวางโทรศัพท์ลงหลังจากที่แม่ของตัวเองตัดสายไปแล้วพร้อมกับตั้งหน้าตั้งตากินก๋วยเตี๋ยวของตัวเองจนเสร็จ แล้วก็รีบลุกขึ้นเดินไปจ่ายเงิน เตรียมตัวกำลังจะเดินออกจากร้านแต่ขณะนั้นเองก็มีหญิงสาวคนหนึ่งเดินผ่านเขามาพร้อมกับกลิ่นกายของเธอที่หอมโชยไปทั่วบริเวณ จนเขาต้องรีบหันหลังกลับไปดูพบว่าเธอคนนั้นเป็นเด็กสาวที่ใส่แว่นตาหนาเตอะพร้อมกับผ้าปิดจมูกมิดชิดจนไม่เห็นหน้าตาว่าเป็นยังไงแถมยังใส่ชุดนักเรียนของโรงเรียนที่อยู่ด้านข้างเขาอีก เขาทำเป็นไม่สนใจรีบเดินออกจากร้านไปที่รถของตัวเองที่จอดอยู่ริมฟุตบาท เพื่อจะกลับคอนโดที่ตัวเองพักที่อยู่ด้านหลังร้านก๋วยเตี๋ยวนี้