บทที่ 6
เปลี่ยนแปลง
“เมื่อวานคุณโอนเงินมาผิดหรือเปล่าคะ” จรัสรักใช้จังหวะที่จิณณ์กำลังแต่งตัวหลังอาบน้ำเสร็จเอ่ยถามเรื่องที่ยังเป็นปริศนา เขาเมินข้อความที่เธอส่งไปถามในห้องแชต มิหนำซ้ำตอนมาถึงโรงแรมเขาก็ไม่เว้นช่องว่างให้เธอได้พูดอะไร สั่งให้เธอเข้าไปอาบน้ำ จากนั้นเขาก็เข้าไปอาบต่อ พออาบเสร็จเขาก็ส่งสัญญาณให้เธอขึ้นเตียงทันที
กระทั่งพายุสวาทรอบสุดท้ายจบลง จิณณ์ผละออกไปจัดการตัวเองในห้องน้ำทันทีเหมือนอย่างเคย จรัสรักค่อย ๆ พยุงตัวเองลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง ใช้มือสางผมที่ชี้ฟู กว่าอัตราการหายใจจะกลับมาเต้นคงที่ เจ้าของร่างสูงโปร่งก็อาบน้ำรอบที่สองเสร็จพอดี เธอจึงรีบเอ่ยถามก่อนที่เขาจะกลับไป
“อะไร”
“เมื่อวานคุณโอนเงินมาเกินที่เราตกลงกันไว้ โอนผิดหรือเปล่าคะ”
“ไม่ผิด ผมให้คุณเดือนละหนึ่งแสน ส่วนอีกห้าหมื่นผมให้เป็นค่าเดินทาง หรือถ้ามันเหลือ คุณจะใช้ทำอะไรก็เรื่องของคุณ” ชายหนุ่มแจกแจงอย่างละเอียด เขาไม่เคยเลี้ยงเด็กมาก่อน จึงไม่รู้ว่านอกจากเงินรายเดือนแล้วเขาต้องจ่ายค่าอะไรให้ ‘เด็ก’ อีกบ้าง บางคนอาจจะเรียกร้องค่านั่นค่านี่ตามมาอีกแบบจุกจิก เขาเลยตัดปัญหาด้วยการรวบจ่ายทีเดียว
“ขอบคุณค่ะ” เมื่อได้ยินดังนั้นจรัสรักก็รีบยกมือไหว้ขอบคุณ หัวใจลิงโลดเมื่อรู้ว่าเงินก้อนที่เหลืออยู่ในบัญชีนั้นเป็นของตน หากเธอนำไปรวมกับเงินที่จะได้จากเขาอีกในเดือนหน้า ก็คงพอที่จะต้องจ่ายหนี้เฮียชาง
สองแสนเธอมีพอแน่ ๆ หากจะขาดก็แต่ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายทุกสัปดาห์
แต่ไม่เป็นไร ยอดนั้นเธอพอจะถูไถได้อยู่
เจ้าของร่างสูงแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย ก้มมองนาฬิกาข้อมือก็พลันรู้สึกเหนื่อยใจกับตัวเอง วันนี้เขาเลิกงานเร็ว และตั้งใจว่าจะใช้เวลาตรงนี้ไม่เกินเที่ยงคืน ทว่าตอนนี้เข็มนาฬิกาล่วงเข้าสู่วันใหม่มาแล้วกว่าสองชั่วโมง
จิณณ์ถอนหายใจเบา ๆ หยิบกระเป๋าเงินกับกุญแจรถขึ้นมาถือ ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปก็มิวายย้ำอีกเรื่องสำคัญกับร่างบางที่นั่งอยู่บนเตียง
“อย่าลืมเรื่องคุมกำเนิด ไปจัดการให้เรียบร้อยซะ”
“ค่ะ”
จากนั้นเขาก็เดินออกจากห้องไปเลยทันที เหลือทิ้งไว้เพียงเจ้าของนัยน์ตาโศกซึ่งมองตามแผ่นหลังกว้างไปจนลับสายตา
เมื่อประตูห้องปิดสนิท ความเงียบงันก็มาเยือน ความรู้สึกบางอย่างคืบคลานเกาะกินหัวใจ จรัสรักหันออกไปมองนอกกระจกซึ่งข้างนอกมืดมิด ทว่าแสงสว่างจากในห้องทำให้เธอมองเห็นเงาสะท้อนของผู้หญิงคนหนึ่งได้อย่างชัดเจน
หญิงสาวนั่งมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกเวทนาอยู่สักพัก ปลอบใจตัวเองว่ามันก็แค่ช่วงชีวิตหนึ่ง อีกไม่นานมันจะผ่านไปกลายเป็นเพียงแค่อดีต และความรู้สึกนี้ก็คงจะเลือนรางหายไปตามกาลเวลา
ร่างบอบบางปัดทุกความคิดออกจากหัว ก้าวลงจากเตียงด้วยขาที่ยังสั่น หญิงสาวเข้าไปชำระร่างกายในห้องน้ำ จากนั้นก็กลับขึ้นมานอนบนเตียงอย่างรวดเร็ว ด้วยร่ายกายที่เหนื่อยล้า หัวถึงหมอนเพียงไม่นานเธอก็ผล็อยหลับไป
ชีวิตประจำวันของจิณณ์ค่อนข้างเป็นรูทีน เรียบง่าย และมีแบบแผนที่ชัดเจน ทุกเช้าเขามักตื่นนอนตอนตีห้า ออกกำลังกาย กินมื้อเช้าง่าย ๆ และออกไปทำงานตอนหกโมงครึ่ง ไม่ว่าจะต้องอยู่เวรดึกต่อหรือไม่ เมื่อถึงเวลาเลิกงานหากไม่มีนัดที่ไหน เขาก็จะตรงกลับที่พักเลยทันที
จิณณ์เป็นคนชอบเก็บตัว เขาไม่ชอบเข้าสังคม กับเพื่อนร่วมงานก็คุยกันแทบนับคำได้ ถ้าหัวข้อนั้นไม่เกี่ยวกับเรื่องงาน เขาก็แทบไม่มีปฏิสัมพันธ์กับใคร
กับเพื่อนสนิททั้งสี่คนเขาก็ไม่ค่อยออกไปเจอใคร ส่วนหนึ่งเป็นเพราะบางวันเขาต้องทำงานติดต่อกันหลายชั่วโมง พอเสร็จจากงานสมองก็ล้าจนแทบไม่อยากทำอะไร หลายครั้งหลายคราที่จิณณ์เลือกนอนมากกว่าออกไปพบปะเพื่อนฝูง
กระทั่งเผลอตัวกดรับสายจากกฤษณ์เมื่อสองเดือนก่อน ตั้งแต่นั้นมาชีวิตประจำวันหลังเลิกงานของเขาเริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด...
ในวันที่ไม่ต้องอยู่เวรดึก จากที่เคยตรงดิ่งกลับคอนโดมิเนียมเลยทันที แต่เดี๋ยวนี้เขากลับหมุนพวงมาลัยรถไปอีกทาง ขับฝ่าการจราจรที่ติดขัดเพื่อไปยังโรงแรมที่นัด ‘เด็ก’ เอาไว้ ซึ่งกว่าเขาจะขับรถกลับถึงที่พักและได้เข้านอน เข็มนาฬิกาก็เลยเที่ยงคืนไปไม่ต่ำกว่าสองชั่วโมง ทำให้เขาเหลือเวลานอนเพียงน้อยนิด
แรก ๆ ก็เป็นอะไร ทว่าพอพักผ่อนน้อยติด ๆ กันหลายสัปดาห์ ร่างกายเขาก็เริ่มประท้วง รู้สึกง่วงระหว่างวันบ่อยขึ้น กาแฟดำที่ซัดไปวันละสามแก้วก็ไม่ช่วยอะไร ชายหนุ่มจึงคิดว่าต้องปรับเปลี่ยนอะไรสักอย่าง
จิณณ์เคาะปากกากับโต๊ะเบา ๆ ขณะสมองกำลังขบคิดหาวิธีบาลานซ์ชีวิตกับความต้องการตามธรรมชาติของมนุษย์ ซึ่งช่วงนี้เหมือนมีเพิ่มมากขึ้นทุกที
มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวหลายครั้งหลายครา ด้วยเป็นวิธีที่ง่ายต่อตัวเขามากที่สุด ก็แค่เปลี่ยนสถานที่จากโรงแรมแห่งนั้นมาเป็นเพนต์เฮาส์ของเขาเอง เพียงเท่านี้เขาก็จะมีเวลานอนมากขึ้น
เรื่องการเดินทางสำหรับเธอคงไม่มีปัญหา เพราะเขาเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนนั้นอยู่แล้ว เธอสามารถเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันหรือนั่งแท็กซี่ไปกลับได้อย่างสบาย ๆ
ทว่า...ที่จิณณ์ยังไม่ตัดสินใจเลือกใช้วิธีนี้ก็เพราะเขาหวงความเป็นส่วนตัว ชายหนุ่มไม่ชอบให้ใครเข้ามาในพื้นที่ของตน แม้แต่แม่บ้านที่เห็นกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ เขายังสั่งให้เข้ามาทำความสะอาด รวมถึงเติมเสบียงเพียงแค่สัปดาห์ละครั้ง และจะต้องมาตอนที่เขาออกไปทำงานแล้วเท่านั้น
อีกทั้งยังไม่รู้ว่าหากเขาอนุญาตให้ ‘เด็ก’ ในความดูแลเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัว จะมีปัญหาอื่น ๆ ตามมาอีกหรือเปล่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขาไม่ได้รู้จักเธอดีขนาดนั้น
จิณณ์ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็น ‘เสี่ยเลี้ยงเด็ก’ แต่หากจะนิยามความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอในตอนนี้ สามคำนี้เห็นจะใกล้เคียงมากที่สุด ระยะเวลาสองเดือนกว่า ๆ ที่เขากับเธออยู่ในสถานะนั้น เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวเธอเลย นอกจากชื่อเล่นที่เธอแทนตัวเองว่า ‘ลีฟ’ และกำลังเดือดร้อนเรื่องเงิน
“หมอจิณณ์ยังไม่กลับบ้านเหรอคะ” เสียงทักทายจากเพื่อนร่วมอาชีพดึงความคิดของแพทย์หนุ่มออกจากเรื่องไม่เป็นเรื่อง
ใบหน้าหล่อเหลาหันไปมองเจ้าของคำถาม สีหน้าของอีกฝ่ายฉายความฉงนคล้ายกำลังรอคำตอบ เขาจึงตอบไปเพียงสั้น ๆ ว่า “ครับ”
ทว่าคำตอบของเขาไม่ได้ทำให้คุณหมอสาวเกิดความกระจ่าง ขวัญข้าวจึงถามย้ำไปอีกรอบ พร้อมเดินเข้าไปหาหมายจะชวนคุยเพื่อสร้างความสนิทสนม
“งานยังไม่เสร็จเหรอคะ”
“กำลังจะกลับครับ” จิณณ์ออกเวรสักพักแล้ว แต่เขามีเอกสารที่ต้องเคลียร์ให้เสร็จ ก็เลยมานั่งทำที่ห้องพักแพทย์ซึ่งใช้เป็นส่วนรวม หลังเคลียร์งานเสร็จ เขาตั้งใจจะกลับคอนโดมิเนียมเลยทันที ทว่าดันมีความคิดที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องงานแทรกเข้ามาในหัว
“ข้าวก็กำลังจะกลับเหมือนกัน คุณหมอกลับทางไหนคะ วันนี้ข้าวไม่ได้ขับรถมา ว่าจะขอรบกวนขอติดรถคุณหมอไปลงที่สถานี...” แพทย์หญิงขวัญข้าวบอกชื่อสถานีรถไฟฟ้าซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อไปอีกสายหนึ่ง อันที่จริงหน้าโรงพยาบาลก็มีสถานีรถไฟฟ้าให้บริการ ทว่าเธอก็ต้องนั่งไปเปลี่ยนขบวนที่จุดเชื่อมต่ออยู่ดี อีกทั้งทางเชื่อมที่ว่ายังต้องเดินไกลเป็นกิโลฯ แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลหลัก เพราะความจริงคือเธออยากใกล้ชิดจิณณ์ แค่ได้นั่งรถด้วยกันไม่กี่นาทีก็ยังดี “ได้ไหมคะ เวลานี้คนเยอะแน่ ๆ ข้าวไม่อยากไปขึ้นไปเบียด”
แพทย์หนุ่มเกิดความอึดอัดใจ เขารู้ว่าหญิงสาวมีเจตนาอื่นแอบแฝง เขาจะปฏิเสธเธอไปทันทีเลยก็ยังได้ ด้วยคอนโดมิเนียมของเขาไปคนละทางกับสถานีรถไฟฟ้าที่เธอขอติดรถไปลง ทว่าที่เขายังเงียบเป็นเพราะมีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว พร้อมกับใบหน้าของเจ้าของเรือนร่างนุ่มนิ่มที่ไม่ได้เจอมาสามวันแล้ว
จิณณ์ครุ่นคิดว่าจะเอาอย่างไรดี เพราะพรุ่งนี้เขาต้องมาทำงานแต่เช้า ถ้าเขาไปทางนั้นก็คงเกินเวลาอีกเช่นเคย
ทว่าเพียงครู่เดียวชายหนุ่มก็ถอนหายใจออกมาเบา ๆ เมื่อถูกคุณหมอสาวมองมาคล้ายกับเร่งให้เขาต้องตัดสินใจ
“สรุปหมอผ่านทางนั้นไหมคะ”
“ครับ”
...สปอยล์ตอนหน้า
“มาเจอกันที่โรงแรมเดิม”
[ตอนนี้เหรอคะ]
“อืม ตอนนี้ ผมใกล้จะถึงแล้ว”