วันต่อมาเอริคมารับมารีนไปดูแหวนแต่งงานที่ร้านเพชรชื่อดังในช่วงเที่ยงของวัน เอริคก็ยังคงเป็นเขาที่เอาแต่พูดจาดูถูกเธอตลอดเวลาที่มีโอกาสจนมารีนไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงกับเขา เมื่อพวกเขาได้แหวนแต่งงานเสร็จเรียบร้อยแล้วเอริคก็ให้คนไปส่งมารีนที่คฤหาสน์ ส่วนเขาก็แยกตัวไปทำงานของตัวเองทันที
หลังจากนั้นต่อมาอีกหนึ่งสัปดาห์ เอลแดดก็ได้จัดงานแถลงข่าวเรื่องวันแต่งงานของเอริคกับมารีน พวกเขาได้ประกาศวันที่จะจัดงงานแต่งขึ้นมา ก็คืออีกอีกสองอาทิตย์ที่กำลังจะถึง ซึ่งแน่นอนว่าข่าวของพวกเขาเป็นข่าวดังและใหญ่ที่สุดในสัปดาห์นี้ เพราะนางแบบชื่อดังกับทายาทคนโตของตระกูลที่มีอิทธิพลที่สุดได้ประกาศแต่งงานกันอย่างสายฟ้าแลบ
ร่างกำยำของเอริคสวมเสื้อเชิ้ตสีดำสนิทพับแขนเสื้อขึ้นมาถึงข้อศอกทั้งสองข้าง ชายหนุ่มกำลังนั่งอ่านเอกสารในแฟ้มสีดำภายในห้องทำงานของกาสิโนอยู่ด้วยความตั้งอกตั้งใจ จนกระทั่งประตูห้องทำงานของเขาเปิดออกโดยที่เอริคเองก็รับรู้ได้ทันทีว่านอกจากแอทเทอร์แล้วก็ไม่มีใครที่กล้าเข้าห้องมาโดยที่ไม่เคาะประตู
“หมายความว่าไง เรื่องที่พี่กำลังจะแต่งงาน” แอทเทอร์เอ่ยขึ้นมาพร้อมกับเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของพี่ชาย เอริคเงยหน้าขึ้นมามองน้องชายก่อนที่เขาจะตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ
“ก็ตามนั้นแหละ”
“แต่ผู้หญิงคนที่พี่กำลังจะแต่งงานด้วย” ยังไม่ทันที่แอทเทอร์จะเอ่ยจบประโยค เสียงทุ้มทรงพลังของเอริคก็พูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน
“คือคนที่แกสนใจละสิ”
“มันก็ใช่ แต่..” แอทเทอร์ยอมรับว่าเขาสนใจในตัวของมารีนอยู่ไม่น้อยเพราะเธอทั้งสวยทั้งหุ่นดี แล้วเขาก็เพิ่งได้มารับรู้ทีหลังว่ามารีนเป็นนางแบบแถวหน้าของประเทศ ทว่าพอเวลาผ่านไปได้ไม่นานเขาก็ได้มารับรู้เรื่องงานแต่งงานของพี่ชายตัวเองที่กำลังจะถูกจัดขึ้นมาในไม่ช้านี้กับผู้หญิงที่เขาเล็งเอาไว้ว่าจะจีบเธออีกครั้งหากเขาได้เจอกับเธออีก
“ต่อไปเธอต้องเป็นเมียของฉันแล้ว หวังว่าแกจะคิดได้นะว่าอะไรควรไม่ควร ฉันจะทำงาน แกออกไปดูกาสิโนได้แล้ว”
“เดี๋ยวก่อนนะพี่ ทำไมมันกะทันหันขนาดนี้ มีอะไรกันหรือเปล่าที่ไม่ได้บอกผม”
“แกก็ไปถามปู่เอาเองสิ” พูดจบ เอริคก็ก้มหน้าไปสนใจแฟ้มเอกสารต่อทันที
แอทเทอร์จึงไม่อยากเซ้าซี้อะไรพี่ชายของเขาต่ออีกเพราะไม่อยากให้เอริคโมโหใส่เขา แอทเทอร์เลือกที่จะหันหลังเดินออกไปจากห้องด้วยความรู้สึกที่งุนงง ชายหนุ่มไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่เขาเชื่อว่าการแต่งงานในครั้งนี้มันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ๆ
ด้านมารีน
ร่างอรชรสวมชุดเดรสสั้นสีขาวสายเดี่ยวกำลังเดินเข้ามาในตึกใหญ่ที่เป็นบริษัทของสังกัดที่เธอทำงานด้วยมาตลอดหลายปี มารีนย่างกรายเข้ามาในบริษัทด้วยความรู้สึกประหม่าเพราะเมื่อวานเธอเพิ่งจะแถลงข่าวการแต่งงานแบบสายฟ้าแลบของเธอไปโดยที่ทางสังกัดเองก็ไม่ได้รู้มาก่อน วันนี้เธอคงจะต้องโดนเรียกไปคุยอย่างแน่นอนเลยละ
“คุณมารีนค่ะ ท่านประธานให้มาตามไปพบค่ะ” เสียงหวานของเลขาสุดสวยเอ่ยขึ้นมาทันทีที่มารีนเข้ามาภายในตึกอาคาร ราวกับว่าเธอมาดักรอมารีนอยู่แล้ว
“ค่ะ” มารีนตอบกลับพลางส่งยิ้มอ่อนๆไปให้เลขาสาว หลังจากนั้นพวกเธอทั้งสองคนก็เดินเข้ามายังลิฟต์ตัวใหญ่สุดหรูหราและขึ้นไปยังชั้นบนสุดของอาคารที่มีห้องทำงานของท่านประธานอยู่ด้านบนสุด ซึ่งในระหว่างทางก็มีพนักงานหลายคนที่มองมารีนและจับกลุ่มซุบซิบนินทากันอย่างสนุกปากแต่มารีนก็พยายามทำเหมือนไม่เห็นและไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
“เชิญค่ะ” เลขาสาวเปิดประตูห้องทำงานให้มารีนเมื่อพวกเธอมาถึงห้องทำงานของท่านประธานเรียบร้อยแล้ว
“ขอบคุณค่ะ” มารีนตอบกลับพลางเดินเข้าไปในห้องอย่างช้าๆ เมื่อหญิงสาวเข้าไปในห้องเรียบร้อยแล้วเลขาคนสวยก็ปิดประตูลงทันที
“สวัสดีค่ะพี่แทน” เสียงหวานของมารีนเอ่ยพร้อมกับยกมือขึ้นมาพนมกลางอกไหว้ท่านประธานของบริษัท ทว่าสรรพนามที่เธอเรียกเขาทำให้รับรู้ได้ว่าทั้งสองคนคงจะสนิทสนมกันมากกว่าเจ้านายกับลูกน้อง
“นั่งลงก่อนครับ” แทนคุณ ประธานบริษัทที่มารีนเป็นนางแบบในสังกัดอยู่ ชายหนุ่มหน้าไทยคมเข้มหล่อเหลาสวมชุดสูทสีดำกับเสื้อเชิ้ตด้านในสีขาวเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มอบอุ่นให้กับหญิงสาว
“พี่เพิ่งเห็นข่าวว่ามารีนจะแต่งงาน” แทนคุณเอ่ยต่อ
“เอ่ออ..ค่ะ” มารีนนั่งลงตรงหน้าโต๊ะทำงานของชายหนุ่ม
“ทำไมถึงกะทันหันขนาดนี้” ชายหนุ่มวางมือจากงานทุกอย่างเพื่อพูดคุยกับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล
“จริงๆแล้วเราคบกันมาสักพักแล้วค่ะ แต่ไม่ได้บอกกับทางบริษัท”
“มันก็จริงอยู่ที่บริษัทไม่ได้เข้มงวดกับเรื่องมีแฟน แต่อันนี้พี่อยากรู้ส่วนตัวเองแหละ แล้วที่พี่อยากรู้เรื่องของมารีนเพราะอะไร มารีนเองก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจ” ดวงตาคมกริบจ้องลึกเข้าไปในดวงตากลมโต
ใช่แล้วละ มารีนรู้ดีว่าที่ชายหนุ่มถามเธอไม่ใช่ในฐานะหัวหน้ากับลูกน้อง
แทนคุณเคยบอกกับหญิงสาวตั้งแต่ที่เธอเข้ามาเป็นนางแบบในสังกัดได้ตั้งแต่ช่วงปีแรก ชายหนุ่มสารภาพรักกับมารีนอย่างตรงไปตรงมา ทว่ามารีนก็ไม่สามารถตอบรับความรู้สึกของแทนคุณได้จริงๆ เพราะเธอเห็นชายหนุ่มเป็นเหมือนพี่ชายเพียงเท่านั้น ซึ่งแทนคุณก็ไม่ได้เซ้าซี้หรือตามตื้ออะไรหญิงสาวแต่เขาก็คอยเป็นห่วงและคอยดูแลหญิงสาวมาตลอดในฐานะของคนแอบรักและเจ้านาย
“คือ..รีนไม่อยากพูดเรื่องนี้เท่าไหร่เลยค่ะพี่แทน รีนขอโทษนะคะที่ไม่ได้บอกพี่ก่อน” มารีนไม่รู้จะอธิบายยังไงกับเรื่องนี้ดี เธอห่วงใยความรู้สึกของแทนคุณเพราะชายหนุ่มดีกับเธอมาโดยตลอด
“ไม่เป็นไร พี่เข้าใจ” ชายหนุ่มส่งยิ้มบางๆกลับมา
“ยังไงก็เชิญพี่แทนไปงานแต่งของรีนด้วยนะคะ เดี๋ยวรีนจะเอาการ์ดเชิญมาให้”
“พี่ต้องไปอยู่แล้ว”
“ขอบคุณนะคะ” สิ้นเสียงมารีน ทั้งสองคนสบตากันอยู่นานสองนาน เธอเสียดายความสัมพันธ์แบบพี่น้องที่ดีต่อกันมาตลอดระหว่างเธอและเขา มารีนจึงค่อนข้างที่จะห่วงใยความรู้สึกของแทนคุณมากกว่าคนอื่นๆ