เล่ห์ลวง

1079 คำ
ตอนที่ 9 เล่ห์ลวง ปราช!!! เขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? ดาวเรือง ได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อและมองหน้าหล่อเหลาอย่างตระหนก แม้ตั้งใจว่าจะหาทางกลับไปหาชายหนุ่มที่บ้านอยู่แล้ว แต่ไม่คิดว่าจะมาเจอกับเขาที่นี่ “...” ยังไม่ทันจะเอ่ยคำใด พลันมีเสียงคนงานตะโกนเข้ามา “พี่เพลินออกมาดูเครื่องเสียงให้ฉันหน่อย เป็นอะไรไม่รู้ไม่มีเสียงอะไรออกมาเลย” “ได้ๆ” หัวหน้าวงตะโกนบอก ก่อนจะหันมามองหน้าเธอ “เห็นคุณปราชเขาบอกอยากจะคุยกับเอ็ง เรื่องจะให้ไปสอนการรำให้เด็กๆที่หมู่บ้าน” เอ่ยเสร็จพี่เพลิน ก็เดินออกจากห้องไป ทิ้งให้เธออยู่กับเขาเพียงลำพังสองต่อสอง ดาวเรือง กลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก “พี่ปราชมาที่นี่เพื่อจะเจอฉันเหรอจ้ะ” สุดท้ายเธอจำต้องเอ่ยถามเขาตรงๆ ด้วยฟังเหตุผลจากหัวหน้าวงที่ว่าจะให้เธอไปสอนการรำให้หลานๆนั้นไม่ค่อยดูมีน้ำหนักสักเท่าใด “ใช่” ปราช ตอบสั้นๆ ก่อนจะลุกขึ้นไปลงกลอนประตูห้อง คลิ๊ก!! ร่างหนาสาวเท้าเดินมาใกล้ จนเกือบชิดกับร่างบางที่ถอยกรูดไปจนชิดผนังห้อง ดาวเรืองรู้สึกสองแก้มเริ่มผ่าวร้อนเมื่อได้กลิ่นบุรุษจางๆจากเขา และยิ่งนึกได้ว่าเมื่อคืนก่อนเธอกับเขาได้ใกล้ชิดเนื้อแนบเนื้อและเริงรักกันอย่างเร่าร้อน ไม่ๆๆ จะประหม่าไม่ได้ดาวเรือง เธอต้องมีสติ เพราะเธอจะต้องทำอีกห้าครั้งเป็นอย่างน้อย ความจริงนี่เป็นโอกาสดีที่ได้เจอเขาที่นี่ด้วยซ้ำ “แล้วพี่จะล็อคทำไมละจ้ะ” “ข้ากลัวแมวในห้องตื่นกลัว จะวิ่งหลุดหายไป ขึ้เกียจต้องไปวิ่งตามจับมา” แมวอย่างงั้นรึ? เขาเปรียบเธอเป็นแมวหรืออย่างไร “ยังเจ็บอยู่รึไม่?” ร่างหนาเข้ามาชิดใกล้ และรวบมือทั้งสองของเธอตรึงไว้กับผนังห้อง มืออีกข้างไล้ยังสาบเสื้อบนเนินอกอิ่ม คิ้วหนาเข้มขมวดเข้าหากันเล็กน้อยเมื่อเห็นร่องรอยสีกุหลาบจางๆ “มะ..ไม่เจ็บ ปล่อยหนูก่อนเดี๋ยวพี่เพลินมาเห็น” เธอเอ่ยเสียงสั่นระริก แม้จะบอกตัวเองในใจว่าต้องทำอีกห้าครั้ง แต่ร่างกายที่อ่อนระทวยก็คล้ายจะไม่เชื่อฟังเอาเสียเลย ยิ่งได้สัมผัสกับร่างกำยำแน่นเครียดของเขา หัวใจเธอก็เต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ เขาคงมีมนต์เสน่ห์ไม่ต่างจาก รัตนาแม่เขาแน่นอน “เห็นก็ไม่เป็นไรนิ” ไม่เป็นไรได้อย่างไร ถึงยังไง ดาวเรืองก็ไม่ต้องการให้คนในวงมารับรู้เรื่องราวอะไรมากมายของเธอกับเขา เพราะถึงอย่างไรหากจบสิ้นภารกิจสวาทนี้ เธอก็ยังต้องมาวิ่งไล่ตามความฝันด้วยการเป็นหางเครื่องและนักร้องหมอลำอยู่ดี การไม่ให้ใครรับรู้จะเป็นการดีที่สุด “มะ..เมื่อกี้หนูได้ยินพี่เพลินพูดว่า พี่ปราชอยากให้หนูไปสอนเต้นที่เรือนให้พวกเด็กๆเหรอจ้ะ?” ดาวเรืองเอ่ยถามเขาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ไม่ต้องการให้เขารับรู้ถึงแผนการนับจากนี้เด็ดขาด อีกห้าครั้งเท่านั้น ..จะทำให้ไก่ตื่นไม่ได้ “ใช่ ..สอนให้เด็กๆในหมู่บ้านฉัน” เพิ่งรู้ว่าคนแสนเย็นชาที่เก็บเนื้อเก็บตัวอย่าง ปราช ลูกชายกำนันเปรื่องจะใส่ใจ เด็กๆในหมู่บ้านด้วย หรือว่าความจริง เขาจะเป็นเหมือนแม่ของเขา คือชอบเล่นกับเด็กๆ แล้วหลอกล่อเอาความปรารถนานั้นด้วยมนต์ดำ ....แล้วก็ต่ออายุตัวเองไปเรื่อยๆ “ความจริงหนูรำและเต้นไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่” แต่กระนั้น หญิงสาวก็ตอบเขาไปตามตรง เพราะหากจะให้เธอไปสอนใครจริงๆ คงจะไม่เหมาะเท่าใด เพราะเธอเองก็เพิ่งจะฝึกฝนตัวเองได้ไม่กี่เดือน ยังต้องเรียนรู้จากรุ่นพี่อีกโข “เมื่อคืนก็เห็นทำได้ดีนิ ทำจนข้าเมื่อยเอวไปหมด” คำพูดหน้าตาเฉยของเขา ทำให้สองมือเธอเริ่มจะเปียกชื้น เหตุใดเขาถึงเอ่ยถ้อยคำพวกนี้ได้อย่างหน้าตาเฉย ทั้งที่เขาเองก็เพิ่งจะเคยทำแบบนี้เป็นครั้งแรกเช่นกัน แม้ความจริงดาวเรือง ไม่ค่อยอยากจะเชื่อสักเท่าใด “หนูยังต้องเรียนรู้อีกเยอะจ้ะ” “ทำไมถึงวิ่งออกจากบ้านข้า โดยไม่ร่ำลาสักคำแบบนั้นเอาความบริสุทธิ์ของข้าไปแล้วจะหนีมาเช่นนี้รึ” ความบริสุทธิ์งั้นรึ ...ใครกันที่สมควรจะเอ่ยคำนี้ “หนูไม่ได้ตั้งใจจะทำ” อะไรกันเนี่ย เป็นเธอเองที่จะต้องมาเอ่ยคำนี้แทนที่จะเป็นเขา นี่หากไม่ติดว่าเธอต้องทำเพื่อจะล้างมนต์ดำละก็ ไม่มีทางแน่นอนที่จะต้องมายืนต่อหน้าเขาให้กระดากใจเช่นนี้ “เอ็งต้องรับผิดชอบข้านะ” “จะให้ฉันรับผิดชอบยังไงจ้ะ” เหมือนจะเข้าทางที่เธอตั้งใจไว้แต่แรก แต่แววตาคมปลาบที่มองเธออย่างชั่วร้ายนั้น ดาวเรืองก็แทบจะเดาความคิดของเขาไม่ออก เพราะไม่ว่าอย่างไร เขาก็คือลูกของรัตนาหมอผีแสนเจ้าเล่ห์คนนั้น แม่ลูกก็คงจะไม่ต่างกันกระมัง “กลับไปอยู่เรือนกับข้าอย่างน้อยสามเดือน ข้าจ่ายค่าตัวเอ็งให้กับหัวหน้าวงแล้ว” อะไรนะ!! สามเดือน ทำไมสวรรค์เข้าข้างเธอเช่นนี้ กำลังจะคิดหาวิธีกลับไปหาเขาเพื่อทำแบบเดิมอีกห้าครั้งอยู่พอดี ห้าครั้งเท่านั้น ..ท่องไว้ ดาวเรือง “สามเดือนเลยรึจ้ะ” “น้อยไปงั้นรึ?” “มะ..ไม่น้อยจ้ะ” น้อยอะไรกัน ทำอีกห้าครั้งเธอจะทำให้เสร็จภายในครึ่งเดือนเท่านั้น จะได้รีบถอยห่างจากเขา ใครจะอยากไปอยู่ใกล้และคลุกคลีกับลูกชายของแม่หมอผีที่ชอบดูดกินวิญญานคนอื่นกัน แค่คิดก็รู้สึกขนลุกแล้ว... “หมายถึงเอ็งตกลงจะไปอยู่เรือนข้าแล้วใช่รึไม่?งั้นก็ไปกันได้เลย” ร่างหนาผละออกห่างและหันไปหยิบ กระเป๋าหนังที่โต๊ะ ก่อนจะหันมามองเธอ “ไปตอนนี้เลยรึจ้ะ” ดาวเรือง เอ่ยถามอย่างฉงนเมื่อเห็นเขาเดินไปเปิดประตู “ไปตอนนี้ เดินมาขึ้นรถได้แล้ว...รึว่าจะข้าให้อุ้มไป” ******************
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม