เขาอึดอัดที่ต้องมาอยู่บ้าน แต่จะกลับคอนโดก็กลัวยายเด็กดื้อจะได้ใจ
‘หึ...เธอต้องจำไว้ว่าฉันไม่ชอบอะไร’
ชลันธรเลื่อนดูรูปเด็กน่ารักๆ แล้วก็หาข้อมูลแม่ตั้งครรภ์ต้องทำอะไรบ้าง ก็ทำให้ลืมความทุกข์ไปได้ เธอแวะซื้อโจ๊กมาเมื่อตอนเย็น ขนาดกินไข่ลวกตั้งสองฟอง เธอยังหิวดึกๆ อีก
“เจ้าตัวแสบของแม่ กินเก่งนักนะ” เธอเดินไปที่ตู้เย็นหยิบนมเทใส่แก้วดื่มแทนการหาอะไรกินให้หนักท้อง ต่อไปเธอคงกินอะไรเบาๆ ไม่ได้แล้วสินะตอนเย็น เพราะตัวแสบของเธอกินเยอะเอาการ
พอวันเสาร์เธอเห็นสายเรียกเข้าจากเขาเอาตอนเย็นแล้ว ในใจเธอเต้นรัวว่าเขาจะคิดถึงเธอหรือเปล่า เธอไม่รอช้ากดรับอย่างรวดเร็ว
“อยู่ไหน” เสียงห้วนถามออกมา
“คอนโดของธรเองค่ะ” เสียงใสตอบไป
“ทำไมยังกลับไปอีก อีกหนึ่งชั่วโมงฉันจะถึงคอนโดรีบกลับมา ฉันไม่ชอบอยู่คนเดียว” เสียงเข้มไม่พอใจ เมื่อเธอกลับคอนโดอีกแล้ว แต่ว่าเขาก็ทนคิดถึงเธอไม่ได้เช่นกัน สุดท้ายก็หาเรื่องเธออยู่ดี
ชลันธรขมวดคิ้วสงสัย ปกติวันเสาร์อาทิตย์ไม่ใช่วันของเธอ แล้วทำไมเขาถึงมาตามให้เธอกลับห้อง
ร่างเล็กไม่ได้เร่งรีบอะไร เพราะห่วงกลัวลูกในท้องจะเป็นอันตราย เธอก้าวอย่างระวังขณะออกจากคอนโด เรียกแท็กซี่ไปยังคอนโดของเขา
เธอมาช้ากว่าครึ่งชั่วโมงที่เขาบอกไว้ เพราะว่ารถติดช่วงเย็นพอดี คนออกไปหาอะไรกินแต่ก็ไม่ได้นานมากนัก แต่เมื่อเปิดห้องเข้ามา ก็เห็นเขาที่ยืนหันหลังถือใบตรวจการตั้งครรภ์ของเธอ
ในใจก็เต้นระทึก เพราะว่าตัวเองลืมไว้ตั้งแต่วันนั้น ทั้งที่ตอนแรกคิดว่าจะทิ้งมันไปแล้ว เธอสูดลมหายใจเข้าลึกเต็มปอด แล้วเดินเข้าไป
“นี่คืออะไร” เสียงเข้มถามโดยหันหลังให้เธอ ไม่มองกระทั่งใบหน้าของเธอด้วยซ้ำ ความเจ็บปวดเสียดเข้าหัวใจ ของคนถูกถามทันที
“หนูท้องได้สองเดือนแล้วค่ะ” เสียงเธอสั่นแม้ว่าจะบังคับมันแล้วก็ตาม แต่มันก็ยากเต็มที
ไม่มีเสียงใดตอบกลับ แต่เป็นแววตาผิดหวังหันมามองเธอเหมือนเป็นตัวอะไรสักอย่าง
“ทำไม” เป็นคำถามที่เขาเลือกจะถามต่อ ตลอดเวลาเธอไม่เคยอยากได้อะไรจากเขา นี่เธอขนาดปล่อยให้ท้องเพื่อจะจับเขางั้นเหรอ
‘เขามองเธอผิดไปจริงๆ’
“หนูแค่อยากมีลูก” เธอตอบด้วยน้ำเสียงเครือ เมื่อเห็นแววตาผิดหวังของเขา สิ่งที่เธอกลัวใกล้เข้ามาแล้วสินะ
“เธออยากได้อะไรแค่บอก ฉันจะหาให้ ทำไมต้องปล่อยให้ท้อง” เสียงเข้มตวาดเธอเสียงลั่น โดยไม่สนใจว่า ประตูจะยังเปิดอยู่
เขาไม่พร้อมที่จะมีพันธะตอนนี้ เขายังต้องการเวลาศึกษาเธอ และเธอก็ไม่รอทั้งยังเร่งรีบหาบ่วงมาผูกเขาไว้ เขาจะไม่ให้เป็นอย่างนั้นเด็ดขาด
“นะ...หนู...หนูไม่ได้อยากได้อะไร...ฮึก...แค่...แค่หนูอยากมีลูก” เธอร้องไห้ไปพร้อมกับสะอื้นไห้ จนคนฟังแทบฟังไม่รู้เรื่อง
เขาไม่ต้องการมีลูกกับเธอ แล้วเขาจะจดทะเบียนสมรสกับเธอเพื่ออะไรกัน เธอไม่เข้าใจ
“ถ้าเธอคิดจะผูกฉันไว้กับเธอด้วยลูก เธอคิดผิด” เขาพูดแค่นั้นแล้วเปิดประตูออกไป ทิ้งให้ร่างเล็กทรุดลงกับพื้น
หญิงสาวร้องไห้จนน้ำตาแทบเป็นสายเลือด เขาเลือกจะทิ้งเธอเพราะเธอท้องงั้นเหรอ เขาใจร้ายเกินไปแล้ว ทำไมต้องรังเกียจเธอและลูกของเธอด้วย แล้วที่จดทะเบียนสมรสนั้นคืออะไร
เรี่ยวแรงของชลันธรที่จะหยัดยืนแทบไม่มี หมดแล้วซึ่งความหวัง เธอรู้ชัดเจนดีแล้วว่าเขาแค่อยากได้ตัวเธอ แต่ไม่ต้องการให้เธอเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขา
ร่างเล็กกอดเข่าร้องไห้อยู่ที่เดิม โดยไม่ลุกไปไหน กว่าครึ่งคืนที่เธอเสียใจที่เขาพูดกับเธออย่างนี้ เธอเสียใจที่ตัดสินใจเลือกเขาเป็นสามี แต่สิ่งเดียวที่ไม่เสียใจคือ ‘ลูก’
เมื่อได้สติ เธอก็ลุกขึ้นขนเสื้อผ้าของตัวเองใส่กระเป๋าแล้วก็รูดซิปลากออกจากห้องของเขาไป ต่อไปนี้เธอจะอยู่ให้ได้ด้วยตัวเอง เธอจะไม่พึ่งพาเขา
เธอเรียกแกร็บคาร์ตอนตีหนึ่ง และเลือกสำหรับผู้หญิงเพื่อความปลอดภัย ยามนี้มันดึกมากแล้ว จนเธอเองก็ไม่สามารถไว้ใจแท็กซี่เหมือนตอนมาได้
ยามนี้เธอมีสามีก็เหมือนไม่มีอีกต่อไป ในเมื่อเขาเลือกหันหลังให้เธอ แล้วจะหน้าด้านอยู่ไปเพื่ออะไร เธอเข้าใจผิดมาตลอดว่าเขารักเธอ แต่ที่จริงแล้วเขาแค่ต้องการหาใครสักคนมานอนด้วยเท่านั้น
นาคิมขับรถออกจากคอนโดไปอย่างรวดเร็ว เขาไม่อยากจะเชื่อว่าชลันธรจะปล่อยให้ท้อง เธอยังเด็กและเขาคิดว่าเธอไม่น่าจะเป็นแม่ที่ดีได้
“โธ่เว่ย!!!” เขาเอามือทุบกับพวงมาลัยรถ ทบทวนว่าเธอต้องการอะไรจากเขากันแน่ ต้องการมีตัวตนในชีวิตเขางั้นเหรอ
เขาไม่ต้องการให้ใครมาข้องเกี่ยวพื้นที่ส่วนตัวของเขา กระทั่งที่บ้านเองก็ไม่รู้ว่าเขาและเธอจดทะเบียนกัน แต่เธอ เธอปล่อยให้ตัวเองท้อง เขาไม่ต้องการให้มีทายาทหิรัญได้เกิดมาตอนนี้ เขาต้องการทำบางอย่างให้เสร็จเสียก่อน
แต่เธอมาทำแผนการที่จะวางอนาคตของเขาพังไปจนหมด เขาอยากจะจับเธอมาบีบเค้นนัก ว่าต้องการเป็นนายหญิงหิรัญมากนักหรือไง
เขาเลือกจะเลี้ยวเข้าบาร์ที่ประจำของตัวเอง แล้วสั่งเครื่องดื่มมาดื่มย้อมใจตัวเอง เขายังไม่พร้อมที่จะเป็นพ่อในตอนนี้ เธอไม่เข้าใจเขาบ้างเลยหรือไง
ชลันธรกลับถึงห้องก็ล้มตัวลงนอน แต่ท้องก็ร้องอีกแล้ว เธอล้างหน้าก่อนจะไปเจียวไข่กินง่ายๆ เธอยังไม่ได้กินข้าวเย็นเลย
และที่สำคัญลืมไม่ได้เลย คือนมเธอกินข้าวและนมจนหมดแก้วแล้วก็นอน มันเป็นเวลาเกือบตีห้าแล้ว เธอยังไม่ได้นอน ก็ถือว่านอนกลางวันไปเลยก็แล้วก็กัน
ก่อนนอนเธอลูบท้องคุยกับลูกว่า
“ไม่มีพ่อ แม่ก็เลี้ยงหนูได้เนอะ” เธอคิดในแง่ดีไว้ ตอนนี้เธอไม่สนใจแล้ว เขาจะมีใครไม่มีใคร เขาอยากจะทิ้งเธอหรือไม่ เธอจะทำงานเพื่อลูกคนเดียวเท่านั้น
อีกอย่างในบริษัทไม่มีใครรู้ว่าเธอท้องกับเจ้าของบริษัท ต่อให้มีคนล่วงรู้ก็คิดว่าเธอต้องการจะจับเขาเป็นแน่ แต่ความคิดนั้นไม่ได้อยู่ในสมองเธอเลยสักนิด แค่คิดว่าเผื่อมีลูกความสัมพันธ์ระหว่างเธอและเขามันจะดีขึ้นก็แค่นั้น
แต่ในเมื่อสิ่งที่เธอเลือกแล้วเป็นอย่างนี้ ก็ปล่อยมันไปเหอะ เขาก็อยู่ของเขาเธอก็อยู่ของเธอ
‘การได้เขาเป็นผัวคือความผิดพลาด’
‘แต่ลูกคือความตั้งใจของเธอ’
วันอาทิตย์ เธอนอนจนเย็นจึงลุกขึ้นเตรียมตัวเพราะชุดทำงานยังไม่ได้รีด เธอเลือกกระโปรงที่เป็นเดรสหลวมๆ เพื่อให้ลูกของเธอได้อยู่ในท้องอย่างสบายไม่อึดอัด
พรุ่งนี้เธอจะเข้าไปลางาน เพื่อจะไปฝากท้อง ตั้งแต่รู้ผลเธอก็ยังไม่ได้ฝากท้องเลย มัวแต่คิดถึงคนอื่น จนลืมให้ความสำคัญกับลูกของตัวเอง
“อย่าดื้อกับแม่นะคะคนดี แม่ขอทำงานแบบสบายๆ ไม่แพ้ท้องนะคะ” เธอลูบท้องตกลงกับลูก ทุกครั้งก่อนจะทำอะไร แม้มันจะลำบากหน่อย เธอก็จะอดทน
เธอคิดว่าแค่เงินเดือนหลักหมื่นคงไม่พอเลี้ยงลูก เธอจะรับงานเขียนโปรแกรมหลังเลิกงาน เพราะเมื่อก่อนตอนที่ยังไม่ได้ทำงานก็รับเป็นฟรีแลนซ์อยู่แล้ว ก็คงไม่ยากนัก
เมื่อวางแผนชีวิตได้แล้ว เธอก็กินข้าวเย็นและนอนแต่หัวค่ำหน่อย พรุ่งนี้จะได้ตื่นแต่เช้าคนจะได้ไม่แน่น
ตั้งแต่ท้องเธอไม่ชอบที่คนเยอะๆ มันทำให้เธออึดอัด เธอเดินมาทำงานเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และตื่นเช้ากว่าปกติอีกด้วย มีความคิดหนึ่งก็แล่นเข้ามาในหัวเธอ
‘ไม่ว่าเขาจะเป็นลูกสาวหรือลูกชาย ลูกเธอต้องขยันมากๆ แน่ แถมยังไม่ทำให้เธอแพ้ท้องขณะทำงานอีกต่างหาก’
นาคิมเดินมาทำงานด้วยอารมณ์หงุดหงิด จนเป็นต่อเลขาคู่ใจเดาอารมณ์ไม่ถูก
“เป็นต่อมาพบฉันสิ”
“ครับ” เป็นต่อสูดลมหายใจ ก่อนทำท่าใส่เกราะแล้วเข้าไปในห้องเจ้านาย แต่แค่เปิดประตูเหมือนมีหมอกควันที่ขมุกขมัวอยู่ในห้องก็ไม่ปาน
“ใครทำโปรแกรมนี้” เขาเรียกเข้ามาถามด้วยความหงุดหงิด ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าใครเป็นคนทำ
“เอ่อ...ไอทีชลันธรครับ” เป็นต่อตอบเสียงตะกุกตะกัก
“เรียกเข้ามาพบ มันมีปัญหา”
เป็นต่อประหลาดใจ มันมีปัญหาอะไร ในเมื่อลูกค้าทั้งโทรมาชมเช้าสายบ่ายเย็น ทั้งยังให้ทำโปรเจคต่อไปอีกด้วย
นาคิมเอาเรื่องงานมาบังหน้า เพราะต้องการพบเธอแต่ไม่อยากไปพบเธอแบบปกติ เขาไม่อยากให้เธอรู้ว่าเขาขาดเธอไม่ได้
‘ในเมื่อเธอเลือกเองว่าจะท้องลูกของเขา ก็จงรับผลที่ตามมาให้ได้ก็แล้วกัน’
ชลันธรรับสายจากคุณเป็นต่อ ก็สงสัยว่าโปรแกรมที่เธอทำมันมีปัญหาตรงไหน ก่อนเธอไปให้อนงนาถโทรเช็คลูกค้าพร้อมกับเข้าไปรีโมตเช็คระบบแล้ว ขณะที่เดินนั้นเธอก็ได้รับคำตอบจากเพื่อนว่าปกติดีไม่มีปัญหา
แต่เขาบอกว่ามีก็มี เขาเป็นเจ้านายเธอเป็นลูกน้อง ก็ทำอะไรไม่ได้ เจ้านายว่ามีเธอก็ไปตรวจเช็ก
เขานั่งหันหลังให้ประตูเฝ้ารอให้เธอเข้ามาอย่างใจจดใจจ่อ เมื่อมีเสียงเคาะเบาๆ ก่อนเปิดประตูเข้ามาก็ทำให้เขายิ้มอย่างพอใจ
‘หึ...มาแล้วสินะ’
“สวัสดีค่ะ บอสมีปัญหาอะไรให้ฉันแก้ไขหรือคะ” ชลันธรรู้สึกผะอืดผะอมขมคอ ราวกับจะอ๊วกทันทีที่เข้ามาในห้อง เธอทำใจดีสู้เสือมาตลอดทาง เธอเป็นคนเข้มแข็งแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานได้
แต่ในใจนั้นท่องคำว่าสู้ๆ ตลอดทางที่เดินมา
“คุณเป็นไอทีประสาอะไร โปรแกรมมีปัญหายังไม่รู้เรื่อง” เขาหันหน้ามาประจันกับเธอ แต่เมื่อเห็นใบหน้าเล็กใจเขาก็รู้สึกแกว่งเล็กน้อย
“ตรงไหนคะ ให้ฉันดูหน่อยได้ไหม” เธอเดินเข้ามาใกล้เขา กลิ่นน้ำหอมเขาทำให้เธอฉุนแรงเหมือนได้กลิ่นเหม็นเน่า ราวกับคนไม่ได้อาบน้ำมาสิบปี
เธอฮึบ...แล้วก็กลั้นใจไว้ก่อนจะพูด
ส่วนอีกคนนั้น กลิ่นหอมของเมียนั้นกรุ่นติดจมูกอย่างประหลาดทำให้เขาขยับเข้าไปใกล้ แต่ทว่าเมื่อกล่าวยังไม่จบประโยค...
“อุ๊...อ๊วก...!” เธอกลั้นไว้ไม่ไหว อ๊วก!! รดหน้าเขาไปเต็มๆ เมื่อเช้ากินอะไรไปก็ออกมาหมดเท่านั้น
“บอส...ขอโทษค่ะ” เธอปิดปาก แต่ทว่ามันมาอีกแล้ว
“อ๊วก...!” คราวนี้เธออ๊วกรดเขาทั้งตัว
ชลันธรรีบวิ่งขาสับไปเข้าห้องน้ำข้างนอกทันที ไม่กล้าเข้าในห้องของเจ้านาย
“ชะ-ลัน-ทอนนนนน!!!” เสียงเขาหวีดลั่นห้อง จนเป็นต่อหลับตาปี๋เอามือป้องหู เมื่อเห็นไอทีชลันธรวิ่งไปอ๊วกที่ห้องน้ำ และเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น