ตอนที่ 4 ปลดปล่อย
แคว้นเหลียงค่อนข้างเปิดกว้างและยอมรับสตรีที่มีความสามารถ กระนั้นขณะไปหอชิวเหอ เฉียวเวยเวยก็ยังต้องใส่หมวกคลุมใบหน้า เพราะอย่างไรนางก็ยังเป็นฮูหยินน้อย
หญิงสาวเดินเข้าไปภายในด้วยอารมณ์หงุดหงิดที่ยังไม่สามารถทำอะไรได้อย่างเปิดเผย แม้กระทั่งบ่าวรับใช้ที่ตามมาด้วยก็ต้องแปลงโฉม
มาม่าชัง คนดูแลหอชิงเหอเห็นเฉียวเวยเวยก็คาดเดาฐานะของหญิงสาวได้ทันที นางกรีดกายเข้ามาต้อนรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ข้าน้อยยินดีต้อนรับท่านสู่หอชิงเหอ วันนี้นายหญิงต้องการให้เรารับใช้เรื่องอะไรเป็นพิเศษหรือไม่เจ้าค่ะ”
“ข้าต้องการห้องส่วนตัวที่ดีที่สุด ส่วนอื่น รบกวนท่านจัดเตรียมมาล่ะกัน”
เพราะครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มา เฉียวเวยเวยจึงอยากจะให้หอชิงเหอแสดงส่วนที่ควรแสดงก่อน
“ยินดีที่ได้รับใช้นายหญิงเจ้าค่ะ ข้าจะให้คนนำทางท่านไปยังห้องที่ดีที่สุดของเรา อีกสักพักข้าจะนำโชว์ที่ดีที่สุดไปให้ท่านชมเจ้าค่ะ”
“ฮืม”
เมื่อเดินเข้าไปข้างในโถงกว้าง เดินไปเลาะไปตามระเบียงที่แยกย้ายออกไปยังเรือนเล็กต่าง ๆ แต่ละเรือนสร้างแยกส่วนกันอย่างชัดเจน เหมาะที่จะทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างสะดวกใจ
เรือนที่บ่าวรับใช้นำมาถือได้ว่าเป็นเรือนที่ใหญ่ที่สุด ตกแต่งประดับปรานีต โดยรอบเต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ กลิ่นหอมกรุ่นอบอวลลอยเป็นทั่ว ทางเข้าเรือนต้องเดินขึ้นสะพาน ใต้สะพานยังเลี้ยงปลาหลากหลายสีสรร พวกมันกำลังแหวกว่ายไปมา ยิ่งมองยิ่งรู้สึกผ่อนคลาย ลมหายใจของเฉียวเวยเวยเริ่มสงบขึ้น
หน้าประตูมีบุรุษรูปร่างหน้าตาดีระดับหนึ่ง เมื่อเห็นแขกมาเยือนเขาก็โค้งกายเปิดประตูเชื้อเชิญ
ข้างในยังมีบุรุษบริการอีกสองสามคน พวกเขาสวมใส่เพียงกางเกงเท่านั้นส่วนท่อนบนก็ปล่อยเปลือยเปล่าแม้ไม่ถึงกับองอาจผ่าเผยทว่าหน้าอกกว้างขาวเนียนละเอียด มัดกล้ามเล็กๆ พอเหมาะงดงาม
ม่านม่านกับชิงชิง บ่าวรับใช้ที่ติดตามเฉียวเวยเวย ก้มหน้าลงอย่างเอียงอาย ส่วนเฉียวเวยเวยไล่สายตามองไปเรื่อย ๆ อย่างพึงพอใจ
งานดี งานดี
“ข้าน้อยขออนุญาตนายหญิง”
หนึ่งในบุรุษเข้ามาถอดหมวกออกให้นาง เมื่อเผยโฉมหน้าของ เฉียวเวยเวยก็ทำให้มือเขาชะงัก เขาไม่คาดคิดว่าแขกในวันนี้จะเป็นสตรีโฉมงามที่อยู่ในวัยกำหนัดเท่านั้น
“ทำไมหรือ” เฉียวเวยเวยเลิกคิ้วถามขึ้น
“ข้าน้อยผิดไปแล้ว ข้าน้อยเพียงตะลึงในความงามของท่าน”
บุรุษคนนั้นรีบคุกเข่าขออภัย จากนั้นก็เอ่ยวาจาฉอเลาะ
เฉียวเวยเวยเอนกายนั่งเลยพร้อมหันมาถามอย่างเย้ายวน
“เช่นนั้นหรือ”
“จริงขอรับ พวกข้าไม่เคยเห็นใครงดงามเท่าท่านมาก่อน”
บุรุษอีกครั้งคุกเข่านั่งข้างกายของหญิงสาว เฉียวเวยเวยเชยคางของเขาขึ้นมาสำรวจดูใบหน้าแล้วถามขึ้น
“เจ้าหน้าตาดีไม่น้อย เหตุใดจึงเป็นเพียงเด็กบริการน้ำชาเล่า”
แววตาของพวกเขาในตอนแรก มองเห็นเฉียวเวยเวย ทว่าตอนนี้กลับกลายเหมือนพวกเขาที่โดนนางจับกิน หัวใจของเขาสั่นไหวตอบแบบตะกุกตะกัก
“ในหอชิวเหอ...พวกข้ามีหน้าตาเพียงสามัญเท่านั้นขอรับ”
ดวงตาของเฉียวเวยเวยเป็นประกายขึ้นมา
“อย่างนั้นหรือ ข้าเริ่มตื่นเต้นแล้ว”
เฉียวเวยเวยจิบน้ำชาไปสองสามที ก็มีนักดนตรีและทีมการแสดงเข้ามา ดาวเด่นในครั้งนี้ก็ต้องเป็นบุรุษสองคนที่กำลังรำกระบี่อยู่ตรงกลาง
ใบหน้าของทั้งสองกล่าวได้ว่า ทุกส่วนของใบหน้าดูงดงามใช้คำว่าหล่อเหลาอย่างสิ้นเปลื้อง โดยเฉพาะแววตาของพวกเขาล้วนถูกสร้างขึ้นมาเพื่อล่อลวงดวงวิญญาณของอิสตรี
ขณะดูรำ คนพัดก็พัด คนนวดขาก็นวด อีกคนก็คอยก็แนะนำอาหารให้นางชิม สุรามีเติมไม่ขาด เฉียวเวยเวยเบิกบานใจเป็นที่สุด เสียงหัวเราะของนางกังวานขึ้นเรื่อย ๆ
ย่อมเป็นเช่นนั้นเพราะพวกเขาล้วนถูกฝึกให้รู้จักเจรจาและดูสีหน้าของแขก ยิ่งทำให้พวกนางพอใจมากเท่าไรพวกเขายิ่งได้ผลตอบแทนมากเท่านั้น ไม่ต้องกล่าวถึงเมื่อแขกในวันนี้เป็นสตรีวัยเยาว์ผู้หนึ่ง ยิ่งทำให้พวกเขาทุ่มเทมากขึ้นหลายส่วน
เมื่อการแสดงจบลง เฉียวเวยเวยก็ตบมือเสียงดังอย่างพอใจ
“ข้าน้อย ตันหรง ขอบคุณนายหญิงขอรับ”
“ข้าน้อย ซูเหว่ย ขอบคุณนายหญิงขอรับ”
เฉียวเวยเวย เดินเยื้องกรายออกไป นางใช้มือลูบไล่ใบหน้าของ บุรุษอย่างอดใจไม่ไหว นิ้วมือเรียวยาวเล็กของนางลูบต่ำลงไปเรื่อย ๆ ในแววตาของตันหรงทอประกายประหลาดขึ้นมาวูบหนึ่ง เขากำลังหยุดมือ นางก็ถอดออกไปสำรวจซูเหว่ยในลักษณะเดียวกัน
“พวกเจ้ามาดื่มด้วยกันสิ”
จากนั้นนางก็เกาะแขนคนทั้งสองตรงไปนั่ง บุรุษทั้งสองมีใบหน้าหล่อเหลาแต่ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน ซูเหว่ยสุภาพอ่อนโยนอบอุ่น ทว่า ตันหรงกลับมีกลิ่นชั่วร้าย โดยเฉพาะดวงตาล้ำลึกไร้ก้นบึ้งคู่นั้นดึงดูดความสนใจของเฉียวเวยเวย ตลอดการดื่มและพูดคุยนางจึงอิ่งแอบซบอยู่บนอกของตันหรง
“นายหญิง ข้าสามารถบริการดื่มและพูดคุยเป็นเพื่อนท่านเท่านั้น อย่างอื่นข้ามิได้ขาย”
ตันหรงเอ่ยปากพูดขึ้นอธิบาย เมื่อเห็นว่าเฉียวเวยเวยพยายามแทรกกายเข้ามา
“เหตุใดเล่า หรือว่า ข้างามไม่พอ”
เฉียวเวยเวยพูดพลางส่งสายถามอย่างแง่งอน
“ท่านงามมาก” ตันหรงชำเลืองมองดูโฉมงามพิลาสตรงหน้า ในขณะตอนนี้นางกำลังเมามาย คอเสื้อก็เผยลำคอยาวระหง กล่าวได้ว่านางเป็นหญิงงามหยาดเยิ้มผู้หนึ่ง ฉีซาถอนหายใจรอบหนึ่ง สตรีผู้นี้อาจจะกระทำประชดประชันสักวันนางก็อาจจะรู้สึกเสียใจ เขาจึงเอ่ยเตือนขึ้น
“นายหญิง ที่นี่มีบริการที่พัก หากท่านไม่สบายใจสามารถพักได้ แม้ว่าท่านจะตัดสินใจอย่างไร พวกข้าน้อยย่อมยินดีบริการท่านเต็มสามารถ ทว่ามีสิ่งเดียวที่พวกข้าให้ท่านไม่ได้”
“สิ่งใดหรือ”
เฉียวเวยเวยรู้สึกขัดใจ เหตุใดตันหรงคนนี้จึงเอ่ยวาจามากมาย
“หัวใจ”
สิ้นเสียงตันหรง เฉียวเวยเวยก็หัวเราะดังลั่น
“ฮ่า ฮ่า ข้าจะต้องการหัวใจไปทำไม หัวใจหรือ ไม่เป็นไรข้าไม่ต้องการ ขอแค่แสดงความรักต่อข้าไปตลอดก็พอ หัวใจอ่ะไม่ต้อง”
ตันหรงคนนี้เฉียวเวยเวย พึงพอใจอย่างมาก กล่าวได้ว่าเป็นคนมีคุณธรรมผู้หนึ่ง เหตุใดนางจะไม่เข้าใจเล่า สามีของนางหลีเซียวหยวนนั่นไงเป็นตัวอย่างที่ดี สูญเสียเงินไปมากมายหัวใจเขาก็ไม่มีทางได้ อย่างมากเขาก็พูดว่าขอบคุณเท่านั้น ฮ่า ฮ่า
พลันเฉียวเวยเวยก็รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาที่หน้าอก นางคิดว่าคงเป็นความรู้สึกที่ยังค้างคาอยู่ อย่างไรนางก็อาศัยร่างและความทรงจำของเฉียวเวยเวยคนเดิม ยังมีความรู้สึกย่อมไม่แปลก
เห็นเฉียวเวยเวยเอามือกุ้มหน้าอก
ตันหรงจึงเอ่ยถามด้วยความห่วงใย
“ท่านรู้สึกไม่สบายหรือ ให้ข้าเชิญหมอดีไหม”
“พวกเจ้าดีต่อข้าจริง ๆ ข้าไม่เป็นไร เจ้าดีดพินเป็นหรือไม่”
ซูเหว่ยโค้งศรีษะรับคำสั่ง เสียงพินของชายหนุ่มเป็นดั่งสายลม วสัตฤดูทั้งอบอุ่นและมีความหวัง
ตันหรงมองดูสตรีที่ซบอยู่ในอ้อมกอดและมองดูบ่าวรับใช้ที่ตามนางมา ทำให้เขาอดขมวดคิ้วไม่ได้ เหตุใดสตรีผู้นี้ถึงสามารถทำตามใจตนเองได้ขนาดนี้ หากวันนี้นางเลือกพักที่นี่และรับการบริการจากบุรุษคนอื่น ในขณะที่กำลังคิดเรื่อยเปื่อยเฉียวเวยเวยก็พูดขึ้น
“พวกท่านเองก็เช่นเดียวกัน จะหลงรักข้าไม่ได้นะ ข้าไม่มีหัวใจ”
วาจานั้นกระชากตันหรงทันที ใช่แล้วความรู้สึกเมื่อสักครู่คล้ายเขากำลังหวงแหนนาง
“เป็นข้าน้อยที่ผิดเอง”
“หากแค่ช่วยข้าปลอดปล่อยเล่า ท่านยินดีหรือไม่”
จากนั้นเฉียวเวยเวยก็จรดฝีปากลงบนปากชายหนุ่ม ทุกคนต่างก็ร็หน้าที่ปลีกตัวออกไปอย่างรวดเร็ว
มีเพียงม่านม่านและชิงชิงที่ยังนั่งอยู่ที่เดิมเพราะพวกนางยังไม่ได้รับคำสั่ง
ตันหรงตอบรับการจูบของเฉียวเวยเวยด้วยลิ้นอุ่น ๆ เดิมที่เขาไม่รับงานขายเรือนร่างเพราะรู้ว่าตนเองอาจจะบริการไม่ดีเขาหาได้ชำชองเรื่องเหล่านั้น เมื่อรับเงินมาแล้วไม่สามารถทำอย่างเต็มใจเขาย่อมไม่ทำจะดีกว่า
ต่างจากเฉียวเวยเวยเขารู้ใจตนเอง รู้ว่าพร้อมบริการสตรีผู้นี้ ขณะที่จิตใจกำลังล่องลอยมือของเขาก็สอดเข้าไปในใต้อาภรณ์ของหญิงสาว ทั้งบีบคั้นดูดื่ม เฉียวเวยเวยหอบกระเส่าด้วยความพอใจ นางรับรู้ถึงความจริงใจของอีกฝ่าย ริมฝีปากของชายหนุ่มที่ระดมจูบไปทั่วกายทำให้นางร้อนผ่าว ร่างกายกระสันต้องการขึ้นมาเรื่อย ๆ อย่างนี้ที่นางต้องการ เสพสุขอย่างที่ตนเองพอใจ
ตรงทั้งเริ่มฉ่ำแฉะกลิ่นของมันหอมรัณจวนยิ่งนัก มือเรียวหยาบของตันหรงเริ่มลูบไล่เข้ามาในระหว่างขาเขาสอดนิ้วอุ่นเข้าไปยิ่งการตอดรัดของช่องรักนั่นทำให้ชายหนุ่มเกือบจะขอเปลี่ยนเป็นบริการจนถึงขั้นสุดท้าย ทว่าเมื่อร่างใต้อ้อมกอดกระตุกสุขสมเขาถึงได้ถอดใจ
เฉียวเวยเวยพิงกายอยู่บนอกของตันหรง เสื้อผ้าของหญิงสาวหลุดลุ่ย เมื่อคืนตึงเครียดมาตลอดเมื่อได้รับการปลดปล่อย เฉียวเวยเวยจึงคล้อยหลับไป
“นางหลับไปแล้ว” ตันหรงเอ่ยขึ้น
ม่านม่านและชิงชิงที่นั่งหันหลังตรงประตูรีบลุกขึ้นมาดูนายหญิงของตนเอง ตันหรงประครองหญิงสาวนอนลงอย่างอ่อนโยน โฉมงามผิวผ่องขาวดูดั่งดอกบัวกำลังแย้มบานนอนอยู่ตรงหน้า ทำให้ชายหนุ่มลอบกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก เขาหวังในใจว่านางจะกลับมาหาเขาอีกครั้ง