ตอนที่ 5 เตือนแล้วนะ

915 คำ
ตอนที่ 5 เตือนแล้วนะ เมื่อเฉียวเวยเวยตื่นขึ้นมาตะวันก็คล้อยต่ำแสงร่ำไร ๆ นางงัวเงียพูดขึ้น “นำกระจกมาให้ข้า” ม่านม่านถือกระจกให้เฉียวเวยเวยมองตนเองได้อย่างถนัดตา หญิงสาวเปิดสาบเสื้อลง ริมฝีปากเหยียดยิ้มอย่างพอใจ ร่องรอยรอยจูบของตันหรงนั่นเด่นชัดในผิวขาวเนียนละเอียด แค่มองดูเท่านี้ก็รู้ว่าพวกนางและเขาผ่านช่วงเร่าร้อนด้วยกัน นางดึงสาบคอเสื้อขึ้นแล้วพูด “ไปจัดการค่าใช้จ่ายด้วย” “เจ้าค่ะ นายหญิง...ท่านจะกลับจวนเลยหรือไม่เจ้าค่ะ หรือจะทานอาหารที่นี่ก่อน” “กลับจวนเลย” เมื่อพูดเสร็จชิงชิงก็ออกไปข้างนอก ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล พวกนางอยู่ในห้องตลอดย่อมรู้ว่านายหญิงยังไม่ถึงขั้นนั้น กระนั้นนางก็รู้สึกไม่สบายอย่างยิ่ง ทว่าแต่ไหนแต่ไร นายหญิงจะทำสิ่งใดพวกนางล้วนไม่เคยสอดปากนอกจากตั้งใจปรนนิบัติตามคำสั่งเท่านั้น ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน เฮ้อ!! ก็หวังแค่ว่านายหญิงจะมีความสุข เมื่อกลับมาถึงจวน แม่นมฝูรออย่างกระวนกระวายใจ ไม่รู้ว่าคุณหนูของตนเองจะก่อเรื่องอันใดอีกหรือไม่ เมื่อเห็นร่างบางกำลังเดินมาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก พูดขึ้น “ฮูหยินน้อย นายท่านกลับมาแล้วเจ้าค่ะ” เดิมแม่นมฝูก็ไม่เห็นด้วยที่คุณหนูของนางต้องการแต่งงานกับ หลีเซียวหยวน เสียทั้งกายและหัวใจ แถมมอบเงินอีกฝ่ายตั้งมากมายกระนั้นกลับไม่ได้ความใส่ใจกลับมาแม้แต่น้อย หากเฉียวเวยเวยต้องการหย่า นางย่อมยินดี “ดี!!... ในเมื่อเขามาแล้วจะได้คุยเรื่องที่ค้างคา” เฉียวเวยเวยไปหาหลีเซียวหยวนโดยที่ยังไม่ผลัดเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย นางต้องการย้ำถึงสถานที่และการกระทำของตนเองในวันนี้ หลีเซียวหยวนขมวดคิ้วมองเฉียวเวยเวย แววตาแฝงความประหลาดใจกับกลิ่นกายของนาง หญิงสาวเดินเข้าไปยืนกลางห้องแล้วถอดเสื้อด้านนอกออก มุมปากของหลีเซียวหยวนเหยียดยิ้มเล็กน้อย ทว่าเมื่อเขาเห็นรอยแดง พอเพ่งมองยิ่งตกตะลึง นี่ไม่ใช่ร่องรอยของเขาอย่างแน่นอน หลีเซียวหยวนปรี่ตรงเข้าไปหาเฉียวเวยเวยอย่างควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ เขาถลึงตามองหญิงสาวอย่างดุดัน เพียะ!! เสียงฝ่ามือกระทบกับใบแก้มนวลดังสนั่น ทำให้บ่าวไพร่ข้างนอกสะดุ้งตัว เฉียวเวยเวยเซหันไปตามแรงของฝ่ามือ นางยกมือกุมแก้มก้มหน้าลง ชิงชิงและม่านม่านกำลังจะปรี่เข้าไป บ่าวหน้าห้องก็ขัดขวางเกิดเสียงดังโหวกเหวกขึ้น เฉียวเวยเวยจึงพูดขึ้น “ไม่ต้องเข้ามา ข้าไม่เป็นไร” หลีเซียวหยวนชะงักเขาจ้องมองฝ่ามือของตนเอง กำลังก้มลงไปหวังจะประครองหญิงสาวด้วยความรู้สึกผิด ขณะนั้นเฉียวเวยเวยก็หันจ้องมองกลับมา ใบหน้าและสายตาของนางล้วนว่างเปล่า นางเช็ดเลือดที่มุมปากลวกๆ สะบัดมือของชายหนุ่มออก “ตบครั้งนี้ ข้าให้ท่าน...ครั้งนี้...ข้ายังไม่ได้สวมหมวกให้ท่าน แต่หากท่านยังไม่เขียนหนังสือหย่า ข้ารับปากว่าท่านจะได้สวมหมวกใบเขียวอย่างแน่นอน” ความรู้สึกผิดของหลีเซียวหยวนเมื่อสักครู่พลันสลายหลายไป สายตาพลันเปลี่ยนเป็นเย็นเยือกขึ้น “เจ้ากล้า” “ฮ่า ฮ่า ไยข้าจะไม่กล้า ข้าเตือนท่านแล้วนะ” เฉียวเวยเวยหมุนกายกำลังจะเดินออกจากห้อง หลีเซียวหยวนเห็นเช่นนั้นก็รีบก้าวขาออกไป พลางกระชากแขนดึงตัวนางกลับมาอย่างรุนแรง พร้อมตะคอกถาม “เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่” “ท่านโง่เขลาหรืออย่างไร ความต้องการของข้าคือ หนังสือหย่า มิใช่ข้าแจ้งท่านไปแล้วหรือไร ปล่อยข้านะ” เฉียวเวยเวยเอ่ยน้ำเสียงยั่วโมโห พลางพยายามแกะมือของ หลีเซียวหยวนออก เมื่อเห็นว่าเฉียวเวยเวยดื้อดึงไม่ยอมจำนนง่าย ๆ เหมือนที่ผ่านมา หลีเซียวหยวนก็ข่มอารมณ์เค้นคำพูดดี ๆ ออกมา “หากเจ้าไม่พอใจ เช่นนั้นข้าเพิ่มจำนวนวันให้เจ้าดีหรือไม่” “ฮ่า ฮ่า หากข้าบอกว่าข้าต้องการทุกวันท่านจะให้ข้าได้หรืออย่างไร” “เจ้าก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ เฉียวเวยเวย อย่าบีบคั้นข้าเกินไป ...เมื่อก่อนเป็นเจ้าเองที่บอกข้าว่า-ยอมทุกอย่าง-” น้ำเสียงของชายหนุ่มกำลังคำรามข่มขู่ ความรู้สึกเจ็บแปลบเข้ามาหัวใจของเฉียวเวยเวยขึ้นมาอีกครั้ง วาจานี้เป็นเจ้าของร่างคนเดิมที่เคยลั่นไว้ นางบอกกับหลีเซียวหยวนขอเพียงให้นางเคียงคู่เป็นฮูหยิกเอกของเขา นางยินยอมที่จะกล้ำกลืนทุกอย่าง เฉียวเวยเวยเผยปากเหยียดยิ้มเยาะเย้ยหยันตนเอง นางพูดขึ้นน้ำเสียสั่นเครือแฝงความรู้สึกเจ็บปวดที่อยู่ภายใน “ท่านเสนาบดี ท่านกล้าพูดหรือไม่ว่าท่านเชื่อ เชื่อวาจาของสตรีที่มีความรัก...กระนั้น... ข้าจึงไม่กล่าวโทษท่าน ..ท่านมีฮูหยินรองของท่าน ตอนนี้ข้ารู้แล้ว ข้าไม่อาจจะฝืนทนต่อไป ต่อจากนี้ข้าขอสิ้นวาสนาต่อท่าน” เฉียวเวยเวยยิ้มพราว แววตาเย็นชาเฉียบขาด หลีเซียวหยวนชะงัก มองสตรีตรงหน้าด้วยความตกตะลึง ดวงตาที่จ้องมองมาดำขลับฉายประกายคมกริบ กรีดเข้าไปถึงหัวใจ เฉียวเวยเวยไม่เพียงงดงามทว่าวันนี้นางกลับแฝงความสง่างามน่าหลงใหล เฉียวเวยเวยก็หมุนกายออกไปไม่รอคำตอบ นางกลับไปรอหนังสือหย่าในเรือนอย่างมั่นใจ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม