เฟยเย่หันไปมองด้วยความตกใจ นี่เขาเข้ามาตั้งแต่เมื่อใดกันนะเหตุใดนางจึงไม่รู้ตัวมาก่อน อันตรายเกินไปแล้ว เขาคงไม่ได้ยินที่นางพูดบ่นไปใช่หรือไม่ “ท่านอ๋อง เหตุใดพระองค์จึงเข้ามาในนี้เพคะ” “เจ้าคงลืมไปอีกแล้วสินะว่านี่เป็นตำหนักข้า แม้ว่าจะไม่ใช่ห้องข้าแต่ก็ยังอยู่ในตำหนัก ดูแล้ว…เจ้าคงใช้ที่นี่เป็นห้องแต่งตัวสินะพระชายา” “เพคะ คือว่าหม่อมฉันไม่ค่อยสะดวกที่จะ…” “ข้าเข้าใจเจ้ามิได้ว่าอะไร ดูเจ้าเบื่อ ๆ นะ” “ไม่ถึงขนาดนั้นเพคะ พระองค์มีธุระด่วนหรือเพคะ” “เปล่าหรอก ไม่มีแค่อยากจะชวนเจ้าออกไปเดินเล่นน่ะ” “เดินเล่น พระองค์ทรงหมายถึงข้างนอกตำหนักในตลาด โรงน้ำชา โรงละครอะไรแบบนั้นหรือเพคะ” “เอ่อ…ก็…แบบนั้นแหละ ตกลงว่าเจ้าจะไปหรือไม่” “ไปสิเพคะ หม่อมฉันไม่ได้ออกไปเที่ยวมาหลายเดือนแล้วอึดอัดจะตายอยู่แล้วเพคะ” ท่าทางดีใจของนางที่ปิดไม่มิดและรอยยิ้มที่จริงใจนั่นทำเอาเขาไม่กล้าปฏิเสธนางเลยทีเดี