พิมพ์พรรณหันไปเหยียดยิ้มกับมารดาอย่างสาแก่ใจก่อนจะคล้องแขนกันขึ้นไปนอนหลับอย่างสบายอกสบลายใจ “คุณกลับไปซะเถอะค่ะ อย่ามายุ่งกับคุณหนูอีกเลย คุณจะไล่เราออกจากบ้าน ไม่ต้องนะคะ พวกเราจะไปเอง” นมน้อยพูดเสียงแข็ง ส่วนนายสนได้แต่ก้มหน้าก้มตาไม่พูดไม่โต้เถียงอะไร เควินนิ่งอึ้งจนพูดไม่ออก นึกย้อนไปถึงตอนที่อยู่ในรถ หญิงสาวในอ้อมแขนตัวร้อนยังกะไฟ พอเขาอุ้มลงมาจากรถก็เห็นใบหน้าซีดเซียว ไม่มีสติแม้แต่น้อย “ไปเถอะค่ะ ถือว่าฉันขอร้อง ถ้าคุณหนูมีอาการเป็นยังไงฉันจะบอกไป แต่คุณหนูเป็นคนดีไม่ตายง่ายๆ หรอกค่ะ แม้จะมีมารอยู่รอบตัว คุณหนูก็ต้องรอด” เควินขมวดคิ้วมุ่นเมื่อได้ยินคำพูดของนาง แต่มีโทรศัพท์เข้ามาเสียก่อนเขาจึงต้องเลี่ยงออกมาคุย “พี่เคนเหรอคะ นี่พิมพ์เองนะคะ” พิมพ์พรรณทำเสียงร้อนรนมาตามสายอย่างแนบเนียน “ครับน้องพิมพ์” เควินถอนใจหนักหน่วง จิตใจของเขาอยู่ที่หญิงสาวที่กำลังป่วย แต่ก็จำต้องรับ