เห็นฉันเป็นอะไร??

1129 คำ
“คุณบ้าไปแล้วเหรอ! คุณทำงานทั้งหมดนี่ภายในสองชั่วโมงได้ไง...แถมไม่พลาดเลยด้วย” ผิดหวังเหรอคะ...นิลลายิ้มในใจที่ทำให้เจ้านายจอมเย็นชายอมคุยกับเธอด้วยประโยคอื่นๆได้นอกจากชงกาแฟให้หน่อย...เอาไปถ่ายเอกสารให้ด้วย...เอกสารการประชุมล่ะ... “ฉันชื่อนิลลาค่ะ” โค้งให้เล็กน้อย พร้อมสะบัดทรงผมเป็นลอนตามธรรมชาติเบาๆแล้วคลี่ยิ้มสดใส “เป็นเลขาคนใหม่ของบอส” “ผมรู้แล้วน่า” พูดพร้อมทำหน้ารำคาญเล็กๆ แต่ไม่ได้รำคาญจริงๆหรอกนะ ถ้าเธอไม่ได้มองผิดไป “มีผิดนิดหน่อยนะคะ” ด่าสิคะ...เธอโคตรอยากเห็นอารมณ์อื่นๆของเขาเลย “ตรงไหน” เขาไล่สายตามองหาจุดผิดพลาดบนเอกสาร เพราะมั่นใจว่าไม่มีตรงไหนผิดเลย “ตรงชื่อบอสไงคะ...ปsากาs...ฉันไม่ได้ใช้ ร.เรือ แต่ใช้ตัว S แทน” เขานิ่วหน้ารีบก้มมองเอกสารในมือ จ้องชื่อตัวเองนิ่งๆอยู่เจ็ดวินาที ก่อนจะเงยหน้ามองเลขาตัวแสบด้วยสายตาเขียวขุ่น “ชื่ออะไรนะเรา” “นิลลาค่ะ” ย่อตัวลงทำความเคารพพร้อมรอยยิ้มสดใส “ได้ข่าวว่าบอสเป็นเจ้านายที่เนี๊ยบมาก ฉันเลยอยากจะทดสอบดูน่ะค่ะ” เขาหน้าเหวอไปเจ็ดวินาที ก่อนจะทิ้งเอกสารในมือลงบนโต๊ะ แล้วสอดมือกอดอก จ้องเธอเขม็ง “โอเค...ครั้งนี้คุณชนะ...คุณนิลลา” ความรู้สึกในตอนนั้นน่ะเหรอ...เธออยากจะกรี๊ดแล้วกระโดดเต้นต่อหน้าเขาเลยล่ะ เพราะมันเป็นครั้งแรกที่เขายอมเรียกชื่อเธอ “งั้นขอรางวัลได้มั้ยคะ” เขาเหล่มองเธอ... “เรื่องแค่นี้ก็ต้องขอรางวัล?...ว่ามาดิ” “ฉันขอเป็นเลขาของบอสจริงๆได้มั้ยคะ” เขานิ่งไปนิด “ก็เป็นอยู่นี่ไง” “เป็นจริงๆนะคะ” “เออ จะใช้งานให้หัวฟูเลย!” “ขอบคุณนะคะ ฉันจะทำงานให้ดีที่สุด จะไม่ทำให้บอสผิดหวังเลยค่ะ” ใช่...นายปราการ สิริปราการ เขาเป็นผู้ชายที่รักษาคำพูดจริงๆ เพราะนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เขาก็ยึดเวลาของเธอไปหมด ทั้งในเวลางาน นอกเวลางาน หรือแม้แต่วันหยุด ใช่...เขาใช้งานเธอเยี่ยงทาสในเรือนเบี้ย ทั้งงานบริษัท และเรื่องส่วนตัวของเขา โดยไม่ถามไถ่ความสมัครใจของเธอแม้แต่คำเดียว นิล... นิล... นิล... นิล...นิลลาลาลาลาลาลาลาลาลาลาลาลาลา....นิลลา! “โอ๊ย! หยุดเรียกชื่อฉันซะที...ขอร้องล่ะ!” “ตกลงฉันมาเป็นเลขา... หรือว่ามาชดใช้กรรมกันแน่เนี่ย...เฮ่อ!” นิลลาบ่นงึมงำขณะเก็บข้าวของกระจุกกระจิกใส่กระเป๋าสะพายสีน้ำตาลใบเก่าราคาร้อยเก้าสิบเก้า เพื่อเตรียมตัวกลับคอนโดที่พัก ซึ่งอยู่ห่างจากตึกบริษัทไปประมาณห้าป้ายรถเมล์เท่านั้น ที่พักแสนสบายที่บอสสุดที่รักบังคับให้เธอย้ายมาอยู่เมื่อสามเดือนก่อน เพื่อให้เธอไม่ต้องลำบากลำบนนั่งรถเมล์ไป-กลับชานเมืองทุกวันให้เหนื่อยก้น และเพื่อที่เขาจะได้เรียกใช้งานเธอได้ง่ายๆ ไงล่ะ ! ตอนแรกเธอดีใจมากที่ได้ย้ายมาอยู่คอนโดหรูหราสะดวกสบาย แถมยังใกล้ที่ทำงานมากจนสามารถเดินไปกลับได้ในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น “โหยย หรูไปค่ะ ฉันไม่มีปัญญาจ่ายค่าเช่าหรอก” “ฟรี” “ฟรี?? จริงเหรอคะ บอสจะให้ฉันอยู่ฟรีเหรอ” “เออ ห้องมันว่างอยู่อ่ะ ดีกว่าทิ้งไว้เปล่าๆ” แต่สุดท้ายก็รู้ว่า...ของฟรีมันไม่มีในโลก เพราะเธอต้องเอาเวลาชีวิตเกือบทั้งหมดแลกกับมันไปน่ะสิ ! “สี่ทุ่มตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย” นิลลาเงยหน้ามองนาฬิกาบนฝาผนังแล้วถอนใจอย่างเหนื่อยอ่อน “สงสัยเหลือแค่เราคนเดียวทั้งออฟฟิศ...อีกแล้ว” หลังเก็บของเสร็จก็รีบออกจากออฟฟิศที่เหลือเธอเป็นคนสุดท้ายของบริษัท โดยสารลิฟต์จากชั้นสามสิบลงมายังชั้นฟร้อนของตึกสูงเจ็ดสิบชั้น ที่ยังพลุกพล่านไปด้วยผู้คนที่มาใช้บริการคาเฟ่ ร้านอาหาร และธนาคารต่างๆนานาในชั้นนี้ “หิวๆๆ” วันนี้ทำงานจนลืมกินข้าวเย็นไปเลย จึงตั้งใจจะไปกินก๋วยเตี๋ยวไก่ที่ร้านประจำ ซึ่งตั้งอยู่ในซอยถนนฝั่งตรงข้ามกับตึกสำนักงาน “เตี๋ยวไก่พิเศษ ขอตีนเยอะๆนะคะ” แต่ไม่ทันที่เธอจะตักน้ำซุปขึ้นซดให้หนำใจด้วยซ้ำ โทรศัพท์ของเธอดังขึ้นซะก่อน “ใครโทรมาอีกเนี่ย??” พอหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋าสะพายขึ้นมาดูหน้าจอก็พบว่าเป็นเบอร์แปลก “มิจรึเปล่า...หรือว่าลูกค้า แต่ลูกค้าจะโทรมาป่านนี้ทำไม...มิจฉาแน่ๆ คนยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่นะเว๊ย ขอเวลากินก่อนได้มั้ยห๊า” เธอตัดสินใจไม่รับ กดตัดสายแล้ววางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ จับตะเกียบเตรียมโซ้ยตีนไก่ แต่เบอร์นั้นก็ยังโทรกลับมาอีก...โทรมาอีก...โทรมาอีก “เฮ๊ย! เดี๋ยวเหอะ แม่จะด่าให้” เธอโกรธจนเลือดขึ้นหน้า กดรับโทรศัพท์แล้วใส่ทันที “ใช่ ฉันส่งของไปเมืองจีน ของผิดกฎหมายด้วย รู้มั้ยว่าฉันส่งอะไรไป จิ๋มกระป๋องสิบอันกับดิลโด้เจ็ดแท่ง...ข้องใจไรมั้ย” ปลายสายเงียบกริบ ก่อนจะส่งเสียงกระแอมเบาๆในลำคอ “เอ่อ...นิล...ผมเอง” “บอส!!!!!” เธออุทานลั่น ดึงโทรศัพท์ออกห่างจากหู แล้วดูหน้าจอเพื่อความชัวร์ “อ้าว!! ไม่ใช่เบอร์บอสนี่นา แล้วเอาเบอร์ใครโทรมาวะ โอ๊ยยยย” โอ๊ย...เธออยากจะบ้าตาย ไม่อยากทบทวนเลยว่าพูดอะไรออกไปบ้าง อยากจะตบปากตัวเองสักสิบครั้งที่ปากไวและคะนองปากแบบนั้น “เอ่อ บอสคะ...คือ...” อย่าเข้าใจผิดนะคะ...แต่ไม่ทันจะพูดคำนั้นออกไป เพราะได้ยินเสียงหัวเราะของเขาซะก่อน “เอ่อ บอส...มันไม่ใช่อย่างนั้น” “อืมๆ รู้” เขากระแอมในลำคอเหมือนกลั้นขำ แล้วปรับเสียงให้ทุ้มต่ำเหมือนตอนสั่งงานเธอทุกครั้ง “ยังอยู่ที่บริษัทรึเปล่า” เธอเงยหน้ามองตึกสูงที่อยู่ฝั่งตรงข้ามถนน ก่อนจะก้มมองชามก๋วยเตี๋ยวตรงหน้าอย่างนึกเสียดาย หากไม่ได้กินมันจนหมดชาม “กลับห้องแล้วค่ะ” เพราะไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องคอขาดบาดตายเลยเลือกที่จะโกหก เพื่อก๋วยเตี๋ยวไก่ชามโปรดที่ควรลงไปอยู่ในท้องของเธอ “ห้องคุณไม่ได้อยู่ไกลซะหน่อย” นั่นไง....นั่นไง...ไอ้คนเลือดเย็น ไม่คิดจะให้ฉันพักผ่อนบ้างเลยรึไง !
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม