หลังจากเดินฝ่าป่า ดินโคลน และเส้นทางชันยาวนานเกือบหกชั่วโมงหรืออาจจะมากกว่านั้น ฟึบ ฟึบ แฮ่ก! เสียงฝีเท้าและเสียงหอบหายใจดังระงมทั่วทางขึ้นภู ทันทีที่เท้าหลายร้อยคู่ก้าวเหยียบถึงยอดภู ทุกคนแทบจะทรุดลงตรงนั้นทันที “โอ้ยยย…ถึงแล้วเว้ย!!!” เสียงร้องดังขึ้นจากนักศึกษาปีหนึ่งด้านหน้า ตามด้วยเสียงหัวเราะและเสียงปรบมืออย่างดีใจ “ฮือออ นึกว่าขาตัวเองจะหลุดระหว่างทางแล้วนะเนี่ย!” “ขอขาใหม่ให้ฉันที” “ใครพูดตอนเช้าบอกเดินแค่เบา ๆ นี่มาขอโทษเลย!!” ซึ่งตอนนั้นแม้แต่พี่ ๆ ปีสามหลายคนยังนั่งลงหอบแฮก ๆ พี่ออโต้เช็ดเหงื่อบนหน้าผาก พลางหัวเราะ “โห…น้องปีหนึ่ง ปีนี้น้องอึดกันจริง ๆ แฮะ” ด้านมินทรุดตัวลงนั่งข้างเกล เหงื่อชุ่มหลังจนเสื้อเปียกแนบเนื้อ “ฉันไม่ไหวแล้วเกล ขาไม่รู้สึกแล้ว…” เกลหอบหายใจ “ฉันด้วย ฮือออ อยากนอนตรงนี้เลย ไม่ต้องตั้งเต็นท์แล้วได้ไหม…ตากน้ำค้างก็ช่างมัน” ยังไม่ทันได้พั

