“คนอย่างฉันไม่เคยต้องปล้ำผู้หญิง”
ฌอห์นยิ้มร้าย ขณะย่างสามขุมเข้าหาหล่อนอย่างเชื่องช้า ท่าทีคุกคาม เหมือนสัตว์ร้ายที่จ้องขย้ำเหยื่อ
“อย่าเข้ามานะ ไม่งั้นฉันต่อยคุณหน้าหงายแน่”
สัญชาตญาณสั่งให้จิดาภาปกป้องตัวเองทันที เธอส่งเสียงขู่ฟ่อ พลางยกการ์ด ตั้งท่าสู้ตายเต็มที่
“คิดว่าทำได้งั้นหรือ”
ดวงตาเจ้าพ่อหนุ่มเต้นระริกแฝงแววขบขัน นึกเอ็นดูในความไร้เดียงสาของหล่อนเสียจริง
“ของแบบนี้ไม่ลองก็ไม่รู้” หญิงสาวเถียงกลับเสียงสั่น ไม่แตกต่างจากร่างกายที่ไหวสะท้านอย่างควบคุมไม่อยู่
“ยังไม่ทันจะสู้ เธอก็ตัวสั่นซะแล้วนะ”
“ถึงจะสั่น ก็สั่นสู้นั่นละ”
ฌอห์นกระตุกยิ้ม ยิ่งชอบใจ กล่าวเสียงเย็น
“งั้นมาดูกันว่าเธอกับฉัน... ใครจะเหนือกว่าใคร!”
พูดจบเข้าก็ก้าวพรวดประชิดตัวเธออย่างรวดเร็ว เร็ว...ชนิดที่จิดาภาไม่ทันขยับตัว แม้จะคอยระแวดระวังเต็มที่ สองตามองเขาไม่กระพริบก็ตาม
หญิงสาวผวาเฮือก รีบถอยร่นจนหลังพิงฝา หัวใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม เมื่อเห็นใบหน้าคมคายลอยเด่นห่างจากเธอไม่กี่คืบ ซ้ำร้ายเขายังจงใจใช้ร่างกายอันสูงใหญ่บดเบียดเนื้อตัวแนบชิด แกล้งเสียดสีแผงอกหนั่นหนากับทรวงอกของเธออย่างเย้ายวน สองมือแกร่งยกยันกำแพงผนัง กักขังให้เธออยู่ในอาณัติ เหมือนตกอยู่ในอ้อมแขนของเขากลายๆ
จิดาภาตกใจ คาดไม่ถึงกับปฏิกิริยาจาบจ้วงหยาบคายของเขา เธอกลั้นใจยืนนิ่งปล่อยให้เขาแตะต้องครูดสีเนื้อตัวอยู่อึดใจเต็มๆ พอได้สติก็เริ่มดิ้นรน ยกมือกันทรวงอก พยายามดันแผงอกเขาออกห่าง
แต่ไม่ค่อยเป็นผลเท่าไร...
แค่เขารวบข้อมือเล็กๆ ทั้งสองข้างของเธอตรึงเหนือศีรษะ แล้วทิ้งน้ำหนักตัวลงมาอีกนิด เธอก็รู้สึกราวกับถูกศิลาหนักอึ้งกดทับ สิ้นเรี่ยวแรงขัดขืน เนินอกสล้างที่กระเพื่อมไหวตามแรงหายใจหอบกระชั้นก็เผยตัวให้เขาเบียดชิดสัมผัสอย่างเร่าร้อน แทบจะหลอมละลายเป็นเนื้อเดียวกับเขา
“ไหนล่ะ... คนเก่งที่จะชกฉันให้หน้าหงาย”
เขากระซิบถาม ริมฝีปากเกือบจะทาบทับเธออยู่รอมร่อ
“แน่จริงคุณก็ปล่อยฉันสิ” หญิงสาวกัดฟันด้วยความเจ็บใจ
“แน่จริงเธอก็ดิ้นให้หลุดสิ”
เขาท้า ดวงตาพราวระยับเหมือนสนุกสนานเสียเต็มประดาที่ได้แกล้งเธอ ทำเอาหญิงสาวยิ่งเดือดดาล บริภาษเขาอย่างไม่ไว้หน้า
“คนอย่างคุณก็ทำได้แค่นี้แหละ ดีแต่รังแกผู้หญิง”
สีหน้ารื่นเริงของเขาแปรเปลี่ยนเป็นดุดันทันที
“อย่ามาปากดีให้มันมากนัก...กรอด!”
ถ้าเป็นในยามปกติ จิดาภาคงกลัวจนตัวสั่นงันงก แต่ในยามที่โกรธเกรี้ยว เธอก็เห็นพญาเหยี่ยวเป็นแค่นกกระจิบได้เหมือนกัน
“ค่ะ ฉันปากดี ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่ทำให้คุณเต้นได้หรอก”
ฌอห์นขบกรามแน่น แทบจะบดมันให้แหลกเป็นผุยผง ยายเด็กเมื่อวานซีนคนนี้ช่างยอกย้อนให้เขาแสบๆคันๆ ดีแท้ ถ้าอย่างนั้นเขาควรสนองกลับให้แสบสันยิ่งกว่าหลายเท่า
“งั้นไหนดูสิ... ว่ามันจะมีดีอย่างที่เธออวดอ้างไหม”
ชายหนุ่มไม่ยอมให้หล่อนมาตีฝีปากกับเขาได้อีก ด้วยการฉกใบหน้าวูบลงมา กระแทกริมฝีปากบดขยี้กลีบปากอวบอิ่มอย่างรวดเร็วชนิดที่หล่อนจะเม้มปากก็ไม่ทัน จะเบี่ยงหน้าหนีก็ไม่ได้ เพราะถูกเขาประกบจูบอย่างแนบแน่น
ริมฝีปากหยักหนาทาบทับริมฝีปากอ่อนนุ่มสัมผัสเนื้อแนบเนื้อ บดเคล้าอย่างหนักหน่วง จูบหล่อนอย่างจาบจ้วงอุกอาจ ใช้ไรฟันคมขาวขบงับริมฝีปากล่างหล่อนแรงๆ ให้พอรู้สึกเจ็บ จงใจแสดงให้หล่อนเห็นว่า...
ใครเหนือกว่าใคร!
และหล่อนทำได้เพียงรอรับโทษทัณฑ์จากเขาด้วยความวาบหวามรัญจวนใจเท่านั้น
จิดาภาตื่นตระหนกจนแทบสิ้นสติ เนื้อตัวอ่อนระทวยด้วยกระแสแห่งแรงดึงดูดที่แล่นพล่านไปทั่วทั้งร่าง ริมฝีปากร้อนฉ่าของเขาหลอกล่อทำให้เธอสับสนมึนเมา ทั้งที่เขาจูบเธออย่างหยาบกระด้าง แต่กลับแฝงไปด้วยความเร่าร้อน
ลิ้นสากของเขาสอดเข้ามาในโพรงปากของเธออย่างถือสิทธิ์ ตรงเข้าสำรวจกวาดลิ้มชิมรสหวาน สอดลึกตวัดลิ้นพัวพันกับลิ้นของเธออย่างดื่มด่ำ รุกล้ำเกี่ยวกระหวัดอย่างสนิทชิดเชื้อ สร้างความร้อนวูบวาบตั้งแต่หัวจดเท้า ทำให้สติของเธอเริ่มพร่าเลือน เคลิบเคลิ้มไปกับริมฝีปากและรสจูบของเขา กระทั่งเผยอปากนิดๆ หลับตาพริ้ม ให้เขาจูบอย่างลึกซึ้งลืมตัว
ไม่!
เธอต้องไม่ยอมแพ้...
เธอต้องสู้เขาสิ...ยายจุ๊บแจง!
วูบหนึ่ง... มโนสำนึกที่ยังใฝ่ดีร้องเตือนเธอ ทำให้หญิงสาวลืมตาโพลง พลันได้สติ รับรู้ถึงสัมผัสลิ้นสากที่เลียไล้ซอนแทรกเข้ามา เธอจึงกัดลิ้นเขาเสียจมเขี้ยว ให้สมกับความลามกจกเปรตของเขา
“โอ๊ย!”
ฌอห์นร้องเสียงหลง ถอนริมฝีปาก ผละออกห่างจากหล่อนทันควัน ยังไม่ทันจะได้สำรวจบาดแผลก็ต้องร้องโอดโอยอีกคำรบ เมื่อแม่ตัวแสบกระแทกส้นเข็มรองเท้าส้นสูงลงบนเท้าของเขาเต็มรัก
“โอ๊ย... ฮึ่ม!”
เขากัดฟันกรอด มองหน้าหล่อนตาขุ่นเขียว
หล่อนร้ายกว่าที่เขาคิด!
หล่อนหลอกให้เขาหลงคิดว่าหล่อนสิ้นฤทธิ์ ไร้เรี่ยวแรงอยู่ในวงแขนของเขา ตอบสนองทำให้เขาพึงใจ จึงไม่ทันระวังตัว แล้วหล่อนก็แก้เผ็ดเขาอย่างเจ็บแสบชนิดที่ไม่เคยมีใครกล้าหยามเขาแบบนี้มาก่อน
“คิดว่าทำแบบนี้ฉลาดแล้วเหรอ” เขาถามเสียงลอดไรฟัน
หล่อนไม่ตอบ แต่ยิ้มเยาะ ยิ่งมองยิ่งยียวนกวนประสาทเขาเป็นที่สุด และฌอห์นเกลียดมันเข้าไส้ มือหนากระชากร่างอวบอัดเข้ามาปะทะอกกว้าง กกกอดรัดหล่อนแน่นจนบั้นเอวแทบหักคามือ
หญิงสาวเม้มปากแน่นไม่ยอมร้อง ทั้งที่เจ็บจนน้ำตาเกือบเล็ด ก่อนจะเอาคืนด้วยการขยุ้มผมเขา
เขาขืนตัว...
หล่อนกระตุกสุดตัว...
ร่างสองร่างกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอุดลุตชนิดไม่มีใครยอมใคร เนื้อตัวบดเบียดแน่นแฟ้นจนไม่มีที่ว่างระหว่างกัน ยิ่งหล่อนดึงทึ้งผมเขาแรงเท่าไร เขาก็ยิ่งบีบรัดเอวหล่อนแน่นขึ้นเท่านั้น แน่นอนว่าทรวงอกล้นทะลักของหล่อนถูกบดบี้อยู่เต็มอกกว้างของเขาด้วย ฌอห์นจึงไม่พลาดที่จะขยับกายเบียดเสียดคลึงเคล้นอย่างสบายอุรา พลางยิ้มติดมุมปากอย่างเป็นต่อ
จิดาภาหน้าแดงแล้วแดงอีก ให้เธอสู้รบตบมือกับเขารูปแบบไหน เธอก็ไม่หวั่น
ยกเว้น...เพียงเรื่องนี้เรื่องเดียว
เรื่องที่เขาคอยแต่จะหาโอกาสแต๊ะอั๋งกัน!
“อ๊ายยย... ไอ้บ้า ไอ้ฝรั่งบ้ากาม ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ”
หญิงสาวร้องกรี๊ดเสียงดังลั่น หวังเรียกให้ผู้คนออกมามุงดู นอกจากตั้งใจทำให้อีกฝ่ายเสียชื่อแล้ว บางทีอาจจะมีคนใจดีหลงเหลือพอที่จะช่วยเธอให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของปีศาจร้ายอย่างเขาได้บ้าง
แอด...
แล้วก็ได้ผล!
จิดาภายิ้มกว้าง เมื่อได้ยินเสียงบานประตูจากหน้าห้องที่พวกเธอกำลังฟัดกันอยู่เปิดแง้ม ก่อนที่คนข้างในจะโผล่หน้าออกมา
“ใครมาแหกปากหน้าห้องกูวะ ไปไกลๆ เลย เสียอารมณ์ ผัวเมียเขากำลังจะมีความสุขกัน”
รอยยิ้มเลือนวับ หญิงสาวเบิกตากว้าง ตัวชาวาบทันทีที่เห็นหน้าคนไล่ตะเพิดเธอเต็มๆ ตา ผู้ชายตรงหน้าทำให้เธอตกใจยิ่งกว่าไอ้เจ้าพ่อหน้าโหดเสียอีก
“พล!”
ไม่แตกต่างจากคนที่เธอเรียกขาน พอเห็นหน้าเธอปุ๊บ เขาก็หน้าถอดสี แข้งขาแทบอ่อน ครางชื่อเธอเสียงแผ่ว
“จุ๊บ!”
จิดาภามองเขาแทบไม่เชื่อสายตา ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าโลกเราจะกลมได้ถึงขนาดนี้!