“ว่า...”
จอมทัพมองไปตามเสียงสบสายตากับเพื่อนของตัวเองแล้วเดินผ่านฉันเข้าไปในบ้าน ส่วนตัวเองกลับมาให้ความสนใจที่การปิดประตูเดินตามหลังพวกเขาเข้าไปในห้องนั่งเล่น เพื่อไปเอากระเป๋าที่วางทิ้งไว้แล้วจะได้กลับขึ้นห้องไปซะ
“เปล่า เห็นตั้งนานแล้วยังไม่เข้ามา” เสียงของเจ้าสมุทรดังขึ้นอยู่ข้างหน้าที่กำลังสนทนากับเพื่อน โดยมีฉันเดินตามหลังไปอย่างเงียบ ๆ
“กูพึ่งเดินผ่านประตูบ้านมึงเข้ามาเมื่อกี้ไม่ถึงสองวินาทีด้วยซ้ำ” จอมทัพหันกลับมาตอบโต้เพื่อนด้วยน้ำเสียงราบเรียบเป็นปกติ ซึ่งที่พูดออกมานั่นฉันก็เห็นด้วยกับเขา
ประตูเปิดได้ไม่ถึง 2 วินาทีด้วยซ้ำเอาอะไรมานาน…
พรึ่บ!
มือเล็กยื่นไปคว้าหยิบเอากระเป๋าถือของตัวเองคล้องขึ้นไหล่แล้วหันหลังเดินไปจากจุดนั้นเพื่อกลับไปห้องของตัวเอง โดยไม่สนใจผู้ชายทั้ง 2 คนที่ยืนอยู่ซึ่งพวกเขาเองก็ไม่ได้ให้ความสนใจฉันเช่นเดียวกัน
รีบไปก่อนและเก็บตัวอยู่ในห้องตามที่เจ้าสมุทรสั่งก่อนที่กลุ่มใหญ่จะมาถึง
(เจ้าสมุทร)
นัยน์ตาคมจ้องมองตามแผ่นหลังเล็กของหญิงสาวที่เดินออกไปจากห้องนั่งเล่นไปอย่างเงียบ ๆ ปฏิกิริยาที่ไม่ตอบโต้บางครั้งก็ทำให้รู้สึกหงุดหงิดใจอย่างบอกไม่ถูกทั้งที่เมื่อก่อนเราสนิทกันมาก ความห่างเหินมันเกิดขึ้นตั้งแต่วินาทีที่รู้เรื่องหมั้น
การหมั้นหมายตามความพอใจของผู้ใหญ่ ความสัมพันธ์ที่ไม่ต้องการให้ใครรู้สถานะที่แท้จริงของตัวเขากับใจ๋...
“ใจ๋ไปทำงานบ้านเหรอ”
“...” คำถามของจอมทัพดึงสายตาเจ้าสมุทรให้หันกลับมามอง
“ก็แค่ถามทำไมต้องทำหน้าดุ”
“แล้วมึงจะถามทำไม ก็ตามที่รู้ ใครพูดอะไรก็ว่ากันไปแบบนั้นแหละ” เมื่อไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าตัวเองเป็นคู่หมั้นเธอจึงทำให้ทุกคนในมหา’ ลัยเข้าใจว่าเป็นลูกสาวแม่บ้านที่ต้องทำงานดูแลเรื่องความสะอาดในบ้านของเขา
คืนเดียวกันนั้น ณ ห้องนอนของใจ๋ เวลา 23.30 น.
“หิวน้ำจัง...”
เสียงแหบแห้งของตัวเองบ่นพึมพำเบา ๆ หลังจากที่เก็บตัวอยู่ในห้องเป็นเวลาหลายชั่วโมง ความซวยของหวานใจในคืนนี้ก็คือไม่มีน้ำดื่มอยู่ในตู้เย็นมินิจะให้ไปกินน้ำก๊อกก็ดูจะไม่ดีสักเท่าไร
ความซื่อบื้อและคิดว่าของกินในห้องพร้อมสำหรับการเก็บตัว 1 คืนมันพอดี แต่ฉันกลับลืมดูน้ำให้ตู้เย็นที่มันไม่มีหลงเหลืออยู่เลยแม้แต่ขวดเดียว กว่าจะรู้ตัวอีกทีกลุ่มเพื่อนของเจ้าสมุทรก็เข้ามาเต็มบ้านแล้ว
ตอนนี้คอแห้งจนรู้สึกทรมานจากการขาดน้ำหลายชั่วโมงมาก ๆ หนทางเดียวที่จะทำให้มีชีวิตรอดก็คือต้องหาน้ำดื่ม แต่ฉันลงไปข้างล่างในเวลานี้ไม่ได้น่ะสิ...
พึ่บ!
มือเล็กคว้าหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาเลื่อนหาหมายเลขโทรศัพท์ของเจ้าสมุทร หมายเลขที่ไม่ได้โทรออกมานานร่วมปี นิ้วเรียวยกค้างด้วยความลังเลไม่กล้ากดโทรออกและในที่สุดก็ปิดโทรศัพท์ในมือลง
โทรหาเจ้าสมุทรเนี่ยนะ...มีหวังได้โดนด่า
ร่างบางในชุดนอนเสื้อยืดตัวโคร่งกับกางเกงขาสั้นค่อย ๆ พาตัวเองลงจากเตียงนอน หย่อนเท้าทั้งสองข้างแตะลงบนพื้นจากนั้นก็ยืนขึ้นเต็มส่วนสูง ยังไงในห้องนอนจะมีตู้เย็นเล็กอยู่และในตอนนี้เจ้าสมุทรก็อยู่ข้างล่าง ในห้องของเขาไม่มีคนอยู่ขอเข้าไปเอาน้ำแค่ขวดเดียวคงไม่มีใครรู้เรื่องหรอก
ถ้าเกิดจะรู้เรื่องชีวิตนี้ของหวานใจก็คงจะถูกตาน่าว่าเป็นผู้หญิงที่ดวงซวยอันดับหนึ่ง…
กริ้ก!
ประตูห้องนอนถูกเปิดออกอ้ากว้างเพียงเล็กน้อย ก่อนที่ตัวเองจะพุ่งพรวดออกไปต้องจัดการเช็กให้แน่ใจก่อนว่าไม่มีใครอยู่ในบริเวณนี้ ฉันชะโงกหน้าออกไปมองใช้สายตาเพ่งไปทางบันไดที่ไร้ผู้คนแต่ได้ยินเสียงเชียร์บอลดังมาจากชั้นล่างอย่างชัดเจน
โชคดีนะที่บ้านหลังนี้เก็บเสียงได้ดีเยี่ยม ต่อให้จะแหกปากดังหรือจัดคอนเสิร์ตก็ไม่ทะลุไปรบกวนบ้านข้างกันแน่นอน แล้วคาดเดาจากเสียงที่แหกปากเชียร์บอลกันอย่างสนุกสนาน คงจะมากันเกินครึ่งคณะได้มั้งนั่น
เสียงดังสุด ๆ ไปเลย
ตอนนี้ต้องหยุดให้ความสนใจผู้คนด้านล่างแล้วรีบพาตัวเองออกจากห้องเดินตรงไปทางห้องนอนของเจ้าสมุทรก่อน ซึ่งห้องของเขาอยู่ในชั้นเดียวกันเพียงแค่อยู่ฝั่งตรงข้ามและประตูเยื้องกันเล็กน้อยเท่านั้น
รีบเข้าไปเอาน้ำมาหนึ่งขวดแล้วกลับเข้าห้องตัวเอง นี่คือภารกิจเดียวที่ฉันต้องทำ
กริ้ก!
ประตูห้องนอนของเจ้าสมุทรถูกเปิดออกซึ่งวินาทีนั้นไฟอัตโนมัติที่อยู่ในห้องก็ได้สว่างวาบขึ้น ดวงตากลมโตจ้องมองไปที่ตู้เย็นมินิ ที่วางอยู่มุมห้องรีบเดินตรงปรี่ไปหาอย่างไม่ลังเลรีบเข้าไปเอาน้ำดื่มเพื่อที่จะได้กลับห้องซะ
“ขอสองขวดแล้วกันนะเดี๋ยวเอามาคืน” เสียงหวานพูดกับตัวเองเบา ๆ
ปกติเป็นคนที่ดื่มน้ำเยอะแล้วในห้องนี้ก็มีแต่ขวดเล็กเอาไป 2 ขวดก็แล้วกันป้องกันเอาไว้ก่อน กว่าจะโผล่หัวมาจากห้องได้อีกทีก็คงเป็นช่วงสายของพรุ่งนี้ ต้องรอให้กลุ่มเพื่อนของเจ้าสมุทรกลับบ้านไปจนครบทุกคนแล้วนั่นแหละฉันถึงจะออกมาใช้ชีวิตได้
ขวดน้ำทั้งสองถูกกอดไว้แน่นด้วยแขนข้างหนึ่ง โดยที่มืออีกข้างจัดการดันประตูตู้เย็นปิดให้สนิท แล้วยกขึ้นจับเข้าที่ขอบโต๊ะออกแรงดึงตัวเองให้ลุกขึ้นยืน
ฉันกวาดสายตาเช็กดูความเรียบร้อยรอบตัวว่าไม่ทำอะไรตกหล่นให้เป็นพิรุธทิ้งค้างเอาไว้ในห้อง เมื่อแน่ใจทุกอย่างแล้วก็เดินตรงไปทางประตูเพื่อกลับไปที่ห้องของตัวเอง
กริ้ก!
มือเล็กยื่นไปจับลูกบิดประตูออกแรงหมุนแล้วดึงให้แง้มออกได้เพียงเล็กน้อย สายตาก็ดันเห็นเข้ากับ การเคลื่อนไหวของคนตัวสูง 3 คนที่กำลังเดินขึ้นบันไดมา และมีคนหนึ่งที่เห็นเพียงแค่เส้นผมสีน้ำตาลฉันก็สามารถรับรู้ได้ทันทีว่าเขาคือ…
เจ้าสมุทร!
ปึง!
และด้วยความตกใจเผลอดึงประตูปิดกลับมาตามเดิมแต่ไม่ระวังแรงที่ใช้ในการดึง ทำให้บานประตูกระทบส่งเสียงดังลั่น ซึ่งแน่นอนว่าทำให้คนที่กำลังเดินขึ้นมาบันไดมานั้นได้ยินเสียงที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน
“ซวยแล้ว…”
ขวดน้ำที่กอดอยู่กระชับแน่นขึ้นรับรู้ได้ถึงความเย็นแนบชิดสัมผัสกับแขนของตัวเอง บวกกับหัวใจที่เต้นแรงด้วยความกลัวจะถูกจับได้ ก็รู้ว่าไม่ใช่คนที่มากับดวงสักเท่าไรแต่ไม่นึกว่ามันจะซวยได้ขนาดนี้!