อย่าดื้อ บทที่ 4 : ทำแบบนี้ไม่ได้สิ

1188 คำ
(เจ้าสมุทร) ปึง! เสียงประตูห้องปิดดังสนั่นลั่นทำเอาผู้ชายทั้งสามคนที่กำลังเดินขึ้นบันไดหยุดชะงักนิ่งกลางทาง เพื่อนของเขาทั้งสองคนหันมองหน้ากันอย่างไม่ได้นัดหมาย ซึ่งต่างกับตัวเองที่มองตรงไปเบื้องหน้า ในใจก็รู้ดีว่าต้นสายปลายเหตุของเสียงมันมาจากใคร ทำอะไรวะเนี่ย… “บ้านมึงมีผีเหรอ” “โกสปะไอ้เหี้ย” 2 คำถามดังขึ้นมาไล่เลี่ยกันและช่างเป็นคำถามที่เป็นไปในทางเดียวกันซะเหลือเกิน ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกนี้มาที่บ้านเขา แต่เป็นครั้งแรกที่หวานใจทำอะไรแปลก ๆ พลาดส่งเสียงให้คนอื่นเกิดความสงสัย “บ้านกูไม่มีผี พวกมึงจะไปเอาเหี้ยอะไรก็รีบไปหาเอา แล้วจะเดินได้หรือยังกูปวดเยี่ยว” พูดจบเจ้าสมุทรเดินนำหน้าเพื่อนทั้งสองคนขึ้นบันไดไปมุ่งตรงไปทางห้องของตัวเอง ซึ่งในระหว่างที่เดินไปนั่นเขาต้องผ่านประตูห้องของใจ๋ก่อน นัยน์ตาคมชำเลืองมองประตูห้องที่ปิดสนิทแล้วเดินเปิดประตูห้องของตัวเองเข้าไป แต่แล้ววินาทีที่ก้าวเท้าเข้ามาในห้องไฟที่มันสว่างค้างเอาไว้ทำให้รู้ตัวว่ามีบางสิ่งเข้ามาในห้องนี้ หรือประตูห้องที่เสียงดังนั้นมาจากห้องเขา… การรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตเป็นอะไรที่ไม่ชอบเอาซะเลย แล้วบุคคลเดียวเท่านั้นที่สามารถเข้าห้องมาได้ในเวลานี้ก็มีเพียงแค่ใจ๋ กล้าเข้าห้องคนอื่นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรแล้วเข้ามาทำไม? หรือว่าอยากแสดงตัว? “อยากได้อะไรก็หากันเอาเองแล้วกัน กูไปเยี่ยวก่อน” เจ้าสมุทรหันไปพูดกับเพื่อนในขณะที่เดินนำหน้ามุ่งตรงไปทางห้องน้ำ ส่วนเพื่อนอีกสองคนเดินตรงเข้าไปในห้องนอนเปิดลิ้นชักหน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์เพื่อหาของที่ต้องการ ซึ่งในระหว่างนั้นดวงตาคมก็ลอบมองหาสิ่งผิดปกติหรืออะไรที่หายของตัวเองในห้อง ความคุ้นชินมันก็ยังคงอยู่ในทุกจุดกับของที่วางในห้องนี้ ข้าวของยังคงวางในจุดตำแหน่งเดิมไม่มีอะไรแม้แต่ชิ้นเดียวหายไปหรือถูกเคลื่อนย้าย คงจะมีแต่ผู้บุกรุกที่แอบเข้ามาที่หายกลับไปที่ห้องของตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้วละมั้ง กริ้ก! และวินาทีที่ประตูห้องน้ำเปิดออกเต็มความกว้าง แต่มันไม่สามารถดันกระทบกับผนังได้ทำให้เขาต้องหลุบตามองลงต่ำเห็นปลายเท้าเล็กที่โผล่พ้นขอบใต้ประตูออกมา เท้าเล็กพยายามขยับเก็บปลายเท้าเข้าไปแล้วทำตัวให้เล็กรีบมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทำตัวเป็นเด็กเล่นซ่อนแอบทั้งที่วิธีการซ่อนติดลบและห่วยแตกมากที่สุด… ปึง! กริ้ก! ขายาวก้าวเดินเข้ามายืนในพื้นที่ห้องน้ำแล้วดึงประตูปิดลงพร้อมกับลงกลอนล็อก และนั่นทำให้ได้เห็นผู้หญิงที่แอบยืนซ่อนอยู่หลังประตู อีกฝ่ายก็จ้องมองหน้าเขาด้วยความตกใจ นัยน์ตาดุไล่มองไปตามเรือนร่างของคนตรงหน้าโดยที่ไม่พูดอะไร ใจ๋มักจะสวมเพียงแค่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นเป็นชุดนอน มันคือภาพคุ้นตาที่เห็นบ่อยจนชินชาแต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยชินกับมันเลยก็คือ… หน้าอกหน้าใจที่ไร้สิ่งบดบัง ก้อนเนื้อกลมขนาดเกินตัว บวกกับเนื้อผ้าเสื้อยืดตัวบางทำให้ยอดชูชันล่อตาดันเนื้อผ้าล้ำหน้าขึ้นมาดึงดูดสายตา แม้ว่าจะพยายามไม่ให้ความสนใจมันมากแค่ไหนก็ตามแต่อย่าลืมว่าเขาเป็นผู้ชาย แล้วเป็นเช่นนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ในอดีตวัยเยาว์ไม่มีส่วนอะไรมาดึงดูดความสนใจไม่เท่ากับตอนที่โตเป็นสาวเต็มวัยแบบนี้หรอกแล้วตัวเองก็เป็นผู้ชายที่โตไม่ต่างกับอีกฝ่าย เมื่อไรก็ตามที่เห็นใจ๋ในชุดนอนสายตามันมักจะจดจ้องอยู่ที่ส่วนนั้นอย่างอัตโนมัติ ไม่ได้รู้สึกชอบแต่อย่างใด กลับกันยิ่งรู้สึกขัดลูกตาและหงุดหงิดมากขึ้นกว่าปกติที่เป็นหลายเท่า… (หวานใจ) ซวยแบบไม่มีอะไรมาปิดกั้น… ร่างบางยืนตัวแข็งทื่อไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัวหนีออกไปจากหลังบานประตูทั้งที่ตัวเองก็ถูกจับได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะหายใจก็ยังลำบากรู้สึกว่าติดขัดเมื่อถูกสายตาดุของเจ้าสมุทรจ้องมา ขวดน้ำทั้งสองขวดที่กอดไว้แน่นดูเหมือนว่าความเย็นจากขวดน้ำจะค่อย ๆ จางหายไป คงเพราะถูกอุณหภูมิร้อนในร่างกายกลบทับ ฉันไม่สามารถหนีออกไปจากห้องของเจ้าสมุทรได้ทัน เพราะคิดว่าถ้าวิ่งพุ่งออกไปเพื่อเข้าห้องตัวเองคงถูกจับได้แน่ แต่การแอบอยู่ในห้องนี้ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีสักเท่าไร ถึงบุคคลที่มาเจอจะไม่ใช่เพื่อนของเขาแต่เป็นเจ้าตัวเองก็ตาม...ยิ่งเป็นเจ้าสมุทรนั่นแหละจึงถือว่าหนักหนาสาหัสสำหรับตัวเองมากที่สุด “….” ริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรง ดวงตากลมโตกะพริบมองปริบ ๆ เพราะไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงกับชีวิตในตอนนี้ดี อาการคอแห้งที่มีมาก่อนหน้าหายเป็นปลิดทิ้ง “….” เจ้าสมุทรยังคงไม่พูดอะไรออกมา คงเพราะกลัวว่าเสียงสนทนาจะเล็ดลอดออกไปให้คนข้างนอกได้ยิน เขาละสายตาจากหน้าของฉันเดินไปหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าทางชักโครก ใช้มือทั้งสองข้างปลดตะขอกางเกงของตัวเองและการกระทำนั่นทำให้ฉันต้องหันหลังให้เขาอย่างอัตโนมัติ หันหน้าเข้าหากำแพงหลับตาทั้งสองข้างลงด้วยหัวใจที่เต้นแรง นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยนะที่ตัวเองต้องมาอยู่ในห้องน้ำเดียวกันกับผู้ชาย แล้วยืนเฝ้าอีกฝ่ายทำธุระส่วนตัว! หมับ! “วะ! อือ” เพราะหันหลังจึงไม่รู้ตัวฝ่ายเข้าใกล้ตัวเอง เมื่อรู้ตัวอีกทีแผ่นหลังเล็กก็ชนชิดเข้ากับช่วงลำตัวหนา สัมผัสได้ถึงไออุ่นจากร่างกายและกลิ่นน้ำหอมผู้ชายของเจ้าสมุทร แล้วยังมีกลิ่นเหล้ากลิ่นบุหรี่ผสมปะปนกันชวนปวดหัวไปหมด และด้วยความตกใจทำให้เผลอหลุดปากส่งเสียงออกไป แต่ความไวของอีกฝ่ายนั้นมีมากกว่า เขายกแขนขึ้นโอบกอดเข้าที่ต้นคอแล้วใช้ฝ่ามือยกปิดปากของฉันเอาไว้แล้วออกแรงดึงให้ก้าวเท้าถอยหลังไปตามทิศทางการบังคับของเขา “เงียบ…” เสียงทุ้มดุดังข้างหูในระดับที่มีเพียงแค่เราสองคนเท่านั้นที่ได้ยิน ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้นอกจากอยู่นิ่ง ๆ รับรู้ได้ถึงเสียงฝีเท้าของบุคคลนอกห้อง ทำอะไรก็ไม่ได้ จะขยับตัวหรือหายใจแรงก็ยังไม่กล้า…
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม