“เจ็บมาก” เสียงหวานเอ่ยขึ้นนิ่งเรียบไม่รู้สึกอะไรสวนทางกับสิ่งที่พูดออกไป ฉันแสร้งพูดร่วมสมทบกับเพื่อนไปงั้น ทั้งที่ความจริงแล้วไม่ได้รู้สึกอะไรเลย “กูอยากได้เด็กวิศวะ จะมีแฟนเรียนวิศวะก่อนจบปีสี่!” และท่ามกลางความเงียบระหว่างเรา 3 คน จู่ ๆ แยมส้มก็พูดขึ้นด้วยความมั่นใจ สีหน้าแววตาจริงจังตั้งมั่นอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน “เสียงดังอายเขาแยม” สายตาคนรอบข้างหันมองมาทางโต๊ะพวกเราอย่างไม่ได้นัดหมาย ทำฉันต้องเตือนเพื่อนให้ระวังเรื่องเสียงจะไปรบกวนคนอื่นด้วย “คนจะมีแฟนอยู่เฉย ๆ เขาก็มีจ้า แต่...พวกเราสามคนไปลองลูบป้ายดูมะ” เหมือนจะไม่สนใจเรื่องแบบนี้แต่ทำไมข้าวหอมกลายมาเป็นตัวตั้งตัวตีชวนไปทำได้ล่ะ แล้วเรื่องลูบป้ายคณะเนี่ย... ทำไมต้องเป็นคณะวิศวะด้วย “ทำไม…” ริมฝีปากบางขยับทำทีเหมือนจะพูดก่อนจะหยุดชะงักค้าง เพราะเจอสายตาจากเพื่อนทั้งสองคนที่จ้องมองมา มองกันขนาดนี้น่ากลัวเป็นบ้าเลย “ทำไมอะไร

