วันต่อมา ณ ห้องนอนของหวานใจ เวลา 10:15 น.
จ้องมอง
ดวงตากลมโตภายใต้แว่นสายตาเลนส์ใสจ้องมองภาพสะท้อนของตัวเองภายในกระจกบานใหญ่เบื้องหน้า พิจารณาเลื่อนสายตามองขึ้นลงตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าก่อนจะหยุดตรงที่ใบหน้าสดไร้เครื่องสำอาง จืดชืดจะมีดีก็แค่ผิวหน้าเนียนเท่านั้น ไม่มีความดึงดูดจุดสนใจของผู้ชาย
พยายามคิดหาจุดเชื่อมต่อของเหตุการณ์เมื่อคืนเข้าด้วยกัน แม้มันจะมีไม่กี่ความคิดหรอกที่ผุดขึ้นมาในหัว ไม่อยากจะคิดเลยว่าเจ้าสมุทรจะให้ความสนใจตัวเองเพราะมันเป็นไปไม่ได้เลย ไม่มีเปอร์เซ็นต์ความเป็นไปได้เลยแม้แต่นิดเดียว
ในฐานะที่เป็นเพื่อนกันมานานฉันเองก็รู้ดีว่าผู้หญิงที่ตรงสเปกของอีกฝ่ายเป็นยังไง มีลักษณะและความสวยที่มากมายขนาดไหน เพราะฉะนั้นต้องหยุดความคิดที่ว่าอีกฝ่ายจะเกิดความสนใจในตัวฉันไปได้เลย
เอาเถอะยังไงมันก็แค่จูบ…
ดวงตากลมละความสนใจจากภาพตัวเองบนกระจกแล้วเดินตรงไปที่โต๊ะคอมพิวเตอร์ จัดการหยิบเอาของส่วนตัวทุกอย่างใส่กระเป๋าเพื่อเตรียมตัวไปเรียน ได้ยินเสียงพี่บีกำลังทำความสะอาดจึงมั่นใจว่ากลุ่มเพื่อนของเจ้าสมุทรคงพากันแยกย้ายไปหมดแล้วแหละ
ถ้าทางสะดวกแล้วฉันจะได้ลงไปจากห้องของตัวเองได้สักที
กริ้ก!
กริ้ก!
และวินาทีที่ประตูห้องนอนเปิดออกมันก็เป็นจังหวะเดียวกันที่ประตูห้องนอนที่อยู่ฝั่งตรงกันข้าม เปิดออกเช่นเดียวกัน แม้ประตูเราจะไม่ตรงกันแต่ระยะสายตาที่มองมาของกันและกันทำให้เห็นปฏิกิริยาของผู้ชายตรงหน้าอย่างชัดเจน ทำให้ฉันยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่ยอมก้าวเท้าเดินออกไป
สีหน้าเรียบเฉย สายตาเย็นชา
จังหวะดีเหลือเกิน…
“…” ไม่มีคำทักทายระหว่างเรา ซึ่งมันก็เป็นเช่นนี้มาตลอดในระยะเวลาปีกว่า
คนตัวสูงตรงหน้าดึงประตูห้องของเขาปิดลงแล้วเดินมุ่งตรงไปทางบันไดเพื่อลงไปชั้นล่าง ส่วนฉันก็เดินตามหลังเจ้าสมุทรไปโดยที่ไม่คิดจะพูดอะไรเช่นเดียวกัน
ไม่มีการหลบหน้า
ไม่มีอาการเขินอาย
เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นฉันไม่รู้สึกอะไรนักหรอก
“ตื่นกันแล้วเหรอคะเด็ก ๆ ไปนั่งที่โต๊ะรอเลยนะ เดี๋ยวป้ายกอาหารเช้าไปเสิร์ฟนะคะ พวกเพื่อนของเจ้าสมุทรพึ่งกลับได้ไม่นานนี้เอง ได้ชิมฝีมือโจ๊กรสเด็ดของป้าเข้าไปชมไม่ขาดปากเลย ~” ป้าน้ำฝนแม่ครัวประจำบ้านแล้วก็เป็นแม่นมของเจ้าสมุทรพูดด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดี
ความสุขของแม่ครัวคือคำชมจากผู้ที่ได้ลิ้มรสฝีมืออาหารสินะ
พวกเพื่อนของเจ้าสมุทรหากมากินเหล้าเมากันที่บ้านหลังนี้ เช้าลืมตาตื่นก็ได้เจอกับป้าน้ำฝนเสมอ และแม่บ้านสองคนที่ดูแลที่นี่ก็ทำหน้าที่ช่วยปิดบังเรื่องการมีอยู่ของฉันไม่ให้คนในมหา'ลัยรู้
เพราะฉะนั้นพวกเพื่อนของเจ้าสมุทรจึงเข้าใจว่าฉันเป็นลูกสาวของป้าน้ำฝน ไม่เว้นจอมทัพที่บ้านอยู่ในละแวกเดียวกันก็ยังเชื่อแบบนั้น แม้จะมีหลายคนพูดว่าใบหน้าแม่ลูกไม่เหมือนกันก็เถอะ
จะเหมือนกันได้ยังไง เรื่องลูกสาวแม่บ้านมันเป็นคำโกหกนี่นา…
“พวกมันกินข้าวที่บ้านเราเหรอครับป้า เดี๋ยวจะไปเก็บเงินให้หมดเลย”
คำพูดติดตลกของเจ้าสมุทรดังขึ้นในขณะที่เขากำลังเดินผ่านป้าน้ำฝนเพื่อไปที่โต๊ะอาหาร ส่วนฉันเดินตามหลังเป็นลูกเป็ดตัวเล็กเดินตามหลังต้อย ๆ ไม่พูดไม่จาทำเพียงแค่ส่งยิ้มให้ป้าน้ำฝนเท่านั้น
“ถ้าเจ้าของบ้านพูดแบบนี้ป้าก็ไม่รู้ด้วยละ ไปเคลียร์กับเพื่อนเองนะ เอ๊ะ...หนูใจ๋ทำไมหน้าซีด ๆ ไม่สบายหรือเปล่าลูกหรือว่านอนไม่พอ” เสียงหวานที่เต็มไปด้วยความใจดีของป้าน้ำฝนถามขึ้นในขณะที่ฉันทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้โต๊ะอาหาร ความเป็นห่วงทำให้ป้าเดินตรงเข้ามาหาฉัน
“นอนไม่…”
“หิวข้าวครับป้า เมื่อไหร่มื้อเช้าจะมา”
ยังไม่ทันฉันจะพูดจบประโยค เสียงของผู้ชายที่นั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามก็ได้ชิงพูดตัดหน้าขึ้นมาซะก่อน และความหิวของเจ้าสมุทรก็ทำให้ป้าน้ำฝนเปลี่ยนความสนใจจากฉันไปอยู่ที่เขาในทันที
“เดี๋ยวป้าไปเอาให้เดี๋ยวนี้เลยเจ้าสมุทร รอแป๊บเดียวนะลูก ~” พูดจบป้าน้ำฝนก็รีบเดินไปทางห้องครัวเพื่อจัดเตรียมมื้อเช้าสำหรับเราทั้งคู่
ภายในห้องอาหารจึงเหลือเพียงแค่ฉันกับเขา ความเงียบรอบตัวที่ไม่มีบทสนทนาอะไรเกิดขึ้น อีกฝ่ายก็ให้ความสนใจอยู่ที่โทรศัพท์มือถือในมือ ส่วนฉันก็ทำเช่นเดียวกันกับเขา
ที่รีบพูดดักขึ้นมาเพราะกลัวว่าจะพูดถึงเรื่องเมื่อคืนละมั้ง ฉันไม่เก็บเข้ามาใส่ไว้ในหัวสมองด้วยซ้ำ ไม่ได้รู้สึกและไม่ได้สนใจอะไรเลย
ก็แค่จูบไม่ได้มีอะไรพิเศษ
วันเดียวกัน ณ ตึกอาคารคณะบริหาร เวลา 15:45 น.
“อาทิตย์ก่อนเห็นผู้หญิงคนนี้ไปลูบป้ายคณะวิศวะ เช้าวันนี้เปิดตัวแล้วจ้าว่าได้แฟนเป็นเด็กปีสามวิศวะโยธา!”
แยมส้มพูดอย่างใส่อารมณ์ใช้นิ้วจิ้มลงบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือของตัวเองที่เปิดค้างหน้า Instagram ให้ได้เห็นภาพของผู้หญิงกับผู้ชายคู่หนึ่ง ดูเหมือนว่าจะเป็นการเปิดตัวคบกันอย่างเป็นทางการของพวกเขา
จากเข็มที่ติดอยู่บนอกเสื้อและกระดุมนักศึกษาของผู้หญิง ช็อปวิศวะสีกรมที่ใส่อยู่บนตัวของผู้ชาย บ่งบอกได้ว่าเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยเดียวกันกับพวกเรา
“จำได้อีกนะว่าเป็นคนนี้”
ฉันนับถือความจำของแยมส้มที่มีต่อเรื่องคนรอบข้างเหลือเกิน จำได้หมดทุกอย่างที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องเรียน เรื่องแบบนั้นไม่ค่อยจะเข้าสมองสักเท่าไร
“สงสารเนอะ ปีสี่ก็แล้วยังไม่มีผัว” ข้าวหอมเงยหน้าขึ้นสบตากับแยมส้ม แล้วละสายตามองมาทางฉันที่นั่งข้างกัน
“กูไม่เจ็บคนเดียวแน่นอน โดนใจ๋ด้วยมันก็ไม่มี”
แยมส้มหันหน้ามาจ้องทางฉัน คำพูดหาพวกนั่นมันอะไรกัน...