ภวัตยืนต้อนรับแขกเหรื่อที่มาร่วมงานศพบิดาด้วยใบหน้าเรียบขรึม ตั้งแต่คืนแรกจนคืนสุดท้ายที่สวดศพก่อนจะถึงวันเผาก็มีแขกมาร่วมงานมากมาย พีระเป็นคนกว้างขวาง เป็นที่นับหน้าถือตา และสร้างคุณงามความดีเอาไว้มาก จึงมีคนมาร่วมงานหนาตาทุกคืน “พี่วัตไปกันเถอะค่ะ จะได้เวลาพระสวดแล้ว” อรนภัสสะกิดสามีเบาๆ ภวัตหันใบหน้าอิดโรยมามองภรรยา เธอยิ้มบางๆ อย่างให้กำลังใจเขา แต่ก่อนทั้งสองจะเดินไปนั่งฟังพระสวด ไสวและลูกทั้งสามก็เดินมาพร้อมลูกน้องที่ยกพวกมาเหมือนจะมาถล่มงาน “ต้องขอโทษด้วยที่มาร่วมแสดงความเสียใจช้าไป พอดีลุงเดินทางไปต่างประเทศเพิ่งกลับมา” ไสวเอ่ยบอก เมื่อตนกับบุตรชายและบุตรสาวมางานสวดศพพีระเอาในคืนวันสุดท้าย “ไม่เป็นไรหรอก มากันแล้วก็เชิญ” ภวัตไม่อยากเสียมารยาทกับแขก แม้อยากบอกว่าไม่ต้องมาก็ได้ อยากโยนแขกไม่ได้รับเชิญออกไปจากงานเพียงใด แต่เพราะนี่คืองานศพ ไม่ต้องเชิญกันเป็นพิธีเหมือนงานมงคล