บทที่ 4
สถานการณ์คาดไม่ถึง
ซินอี๋เดินมาหยุดยืนอยู่หน้าลิฟต์เพื่อรอขึ้นไปยังชั้นผู้บริหารที่ชั้นเจ็ด ชั้นบนสุดของตึก ซึ่งเธอเองเคยขึ้นไปเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น เพราะปกติจะมียามคอยเฝ้าให้ขึ้นไปได้เฉพาะคนที่มีธุระมาติดต่อเท่านั้น แต่ดูเหมือนวันนี้จะไม่มียามซึ่งเธอเองก็แปลกใจเหมือนกัน แต่คงเป็นเพราะวันนี้มีกิจกรรมกีฬาสีทุกคนเลยไปรวมตัวกันอยู่ที่สเตเดียมหมด ซินอี๋ก้าวเข้ามาภายในลิฟต์เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก ก่อนจะกดหมายเลขชั้นที่ต้องการ
ติ๊ง!
บานประตูลิฟต์เปิดออกพร้อมกับร่างเล็กที่ก้าวออกมาด้วยความประหม่า เพราะทั้งชั้นไม่มีใครเลย เท้าเล็กหยุดยืนมองไปรอบๆ ทางเดินอย่างชั่งใจ ว่าควรที่จะเดินต่อไป หรือกลับลงไปข้างล่างดี แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจมองหาป้ายบอกทางไปห้องผู้บริหาร เพราะยังไงก็อุตส่าห์ขึ้นมาถึงบนนี้แล้ว เดินไปดูให้ถึงที่อีกสักหน่อยคงไม่เสียหายอะไร คิดได้ดังนั้นซินอี๋จึงเดินไปตามป้ายบอกทางที่เขียนเอาไว้ว่าห้องผู้บริหารตรงไปข้างหน้า
“เงียบจัง คงไม่มีใคร…เอ๊ะ” ซินอี๋พึมพำกับตัวเองเบาๆ เมื่อเดินเข้าไปใกล้ห้องผู้บริหารเรื่อยๆ ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะพบเจอใครบนนี้ แต่แล้วก็ดันได้ยินเสียงเหมือนบางอย่างตกกระทบลงกับพื้นดังมาจากด้านในห้องเสียก่อน
ซินอี๋หยุดยืนทำใจที่จะก้าวเดินต่อไป เพราะอีกใจหนึ่งก็กลัวว่าหากเสียงนั้นไม่ใช่คน หรือถ้านั่นไม่ใช่เสียงผอ. แต่เป็นเสียงของโจรเธอจะทำยังไงดี เพื่อความปลอดภัยของตัวเธอเอง เธอจึงหยิบแจกันใบเล็กที่วางอยู่ตรงหน้าห้องถือติดมือไปด้วย ซินอี๋ยืนชั่งใจอยู่หน้าประตู เพราะเสียงข้างในได้เงียบลงไปแล้ว
“อ๊ะ…อ๊า~”
มือเรียวยกมือขึ้นปิดปากด้วยความตกใจ เมื่อได้ยินเสียงแปลกๆ ดังขึ้นมาจากด้านในห้องอีกครั้ง เท้าเรียวเล็กเดินเข้าไปใกล้บานประตูห้องทำงานมากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะแนบหูลงไปที่บานประตูที่เป็นกระจกสีขุ่นฟังเสียงด้านใน เพื่อความแน่ใจอีกครั้ง เพราะบางทีเธออาจจะหูแว่วไปเอง
“อ๊ะ…อ๊า…เสียวจังเลยค่ะ”
ทว่ายิ่งตั้งใจฟังมากเท่าไหร่ เสียงด้านในกลับยิ่งดังชัดมากขึ้นเท่านั้น คนตัวเล็กยืนปิดปากตัวเองเพื่อไม่ให้ส่งเสียงใดๆ ออกไป เนื้อตัวสั่นเทากับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดว่าจะพบเจอ จู่ๆ ขาทั้งสองข้างก็อ่อนแรงล้มลงใส่บานประตูจนบานประตูเปิดออก พร้อมกับร่างของเธอที่ล้มลงไปกองกับพื้น
พรึ่บ!
“กรี๊ดดดดด~” เสียงกรีดร้องดังขึ้นพร้อมกับบานประตูที่ถูกเปิดออก ทำให้ใบหน้าหวานต้องเงยขึ้นไปมองด้วยท่าทางตื่นตระหนก ก่อนจะต้องตกใจไปมากกว่าเดิมเมื่อเห็นภาพของชายหญิงกำลังร่วมรักกันโดยที่ร่างกายยังสอดประสานกันเป็นหนึ่งเดียว ก่อนที่ภูผาที่นอนทาบทับอยู่บนร่างของหญิงสาวจะเป็นฝ่ายดึงแก่นกายใหญ่ออกมา พร้อมกับถอดถุงยางทิ้ง แล้วเก็บท่อนเอ็นยักษ์ใส่กลับเข้าไปในกางเกงอย่างใจเย็น ทำให้เธอมองเห็นใบหน้าของผู้หญิงใต้ร่างเขาได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เมื่อเธอรีบลุกขึ้นมาหยิบเสื้อผ้าตัวเองไปสวมใส่ลวกๆ
“คะ…ครูแพร! ” ดวงตาสั่นระริกเบิกโพลงด้วยความตกใจหนักกว่าเดิม เมื่อผู้หญิงใต้ร่างคือแพรวา คุณครูประจำชั้นของเธอ ทั้งๆ ที่ภาพลักษณ์ภายนอกที่เธอรู้จัก เธอเป็นคุณครูที่เรียบร้อย และใจดีกับเด็กๆ แต่ทำไมถึงได้มาเจอเธอในสถานการณ์แบบนี้ได้
“ซินอี๋”
ต่างฝ่าย ต่างไม่มีใครพูดอะไรออกมารวมถึงภูผาที่ยืนมองคนตัวเล็กที่นั่งทรุดอยู่บนพื้นด้วยสายตาเรียบเฉย ไม่ได้รู้สึกตกใจอะไร ถึงแม้สถานการณ์ตอนนี้จะเป็นสิ่งที่นักเรียนอย่างเธอไม่สมควรจะมาเห็นก็ตามที