บทที่ 5 สองต่อสอง

1186 คำ
บทที่ 5 สองต่อสอง ซินอี๋พยายามดึงสติตัวเองกลับมา แล้วเอื้อมมือไปเก็บแจกันที่ถือติดมือขึ้นมาถือไว้ ก่อนจะรีบลุกขึ้นยืนจัดระเบียบร่างกายตัวเองให้เรียบร้อย “ขะ…ขอโทษค่ะ” ซินอี๋กล่าวด้วยน้ำเสียงประหม่า ใบหน้าหวานตามฉบับสาวหมวยยังคงหลุบมองต่ำไม่กล้าเงยหน้าไปสบตากับทั้งสองคนตรงๆ “เธอมาทำอะไรที่นี่” ภูผาเอ่ยถามเสียงเรียบ ทว่าคนถูกถามกลับรู้สึกเสียวสันหลังวาบ เพราะไม่รู้ว่าจะตอบว่าอะไรดี “เอ่อ…คะ…คือ คือว่า…” “คืออะไร ตอนนี้เธอต้องอยู่ที่สเตเดียมจัดงานกีฬาสีไม่ใช่เหรอ” แพรวาถามแทรกขึ้น เมื่อซินอี๋ทำท่าทางอ้ำอึ้งไม่ยอมตอบคำถามเสียที “นะ…หนูแค่ผ่านมาค่ะ” “ผ่านมา? เธอผ่านมาชั้นบนสุดที่เป็นชั้นผู้บริหารเนี่ยนะ” แพรวาถามประชดประชัน เพราะไม่เชื่อในคำตอบของเด็กสาว ที่มันไม่มีอะไรสมเหตุสมผลกันเลยสักนิด เพราะที่นี่ไม่ใช่ที่ที่เธอจะเดินผ่านมา “เอ่อ…คือว่า…” “ออกไป” ภูผาเอ่ยขัดขึ้นเสียงเรียบ ทำให้ซินอี๋รีบพยักหน้ารับคำตั้งท่าเตรียมจะหมุนตัวเดินกลับออกไป แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินประโยคถัดมาเสียก่อน “ไม่ใช่เธอ เธอออกไปก่อน” ภูผาพูดประโยคแรกกับซินอี๋ ก่อนจะหันไปพูดกับแพรวาในประโยคหลัง “แต่ว่า…” “ฉันบอกให้ออกไปก่อน” ภูผาย้ำด้วยน้ำเสียงปนรำคาญ ทำให้แพรวาต้องจำใจเดินออกไปตามคำสั่ง ซินอี๋มองตามแผ่นหลังแพรวาที่เดินออกไป พร้อมกับบานประตูที่ปิดลงด้วยความหวาดระแวง เพราะตอนนี้เธอกำลังอยู่กับเขาสองต่อสอง “มาทำอะไรที่นี่” ภูผาเอ่ยถามเด็กสาวอีกครั้ง ทำให้เธอหันกลับมาสนใจที่เขาแทนบานประตูห้องทำงาน “หนูไม่ได้ตั้งใจจะมาแอบดูจริงๆ นะคะ” “ฉันถามว่ามาทำไม” “หนูสาบานจะไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกใครแน่นอนค่ะ จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอะไรเลย” “นั้นนั่นเป็นสิ่งที่เธอต้องทำอยู่แล้ว แต่ฉันถามว่าทำไมถึงมาที่นี่” ภูผาถามย้ำด้วยน้ำเสียงกดต่ำ “นะ…หนู เอ่อ…มะ…มาหาคุณค่ะ!” ซินอี๋ตะโกนตอบกลับไปด้วยท่าทางกระอักกระอ่วน เพราะไม่รู้จะแก้ไขสถานการณ์ตรงหน้ายังไงดี สุดท้ายจึงตัดสินใจพูดความจริงออกไป “มาหาฉัน?” ภูผาทวนคำ เพื่อย้ำว่าตัวเองไม่ได้ฟังผิดไป “ค่ะ” “มาหาฉันทำไม” “มะ…ไม่ใช่ธุระสำคัญอะไรหรอกค่ะ หนูขอโทษนะคะที่มารบกวน” “เหมือนเธอจะมีปัญหาเรื่องการสื่อสารนะ เธอไม่เข้าใจคำถามที่ฉันถามรึไง” ภูผาใส่อารมณ์ในน้ำเสียงเล็กน้อย เพราะรู้สึกหงุดหงิดกับท่าทางลุกลี้ลุกลนของเด็กสาว “เพื่อนสั่งให้หนูมาดูว่าคุณอยู่ที่นี่ไหมค่ะ จะ…จริงๆ แล้ว หนูแค่ต้องการความช่วยเหลือนิดหน่อย” “ความช่วยเหลือ เรื่องร้องเรียน?” “ก็ประมาณนั้นค่ะ” “เธอเขียนจดหมายร้องเรียนไปที่คณะกรรมการที่ดูแลเรื่องร้องเรียนในโรงเรียนได้นะ คงดีกว่าการที่เธอขึ้นมาบนนี้โดยพลการ” “หนูทราบค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ” “แต่ไหนๆ ก็มาขัดจังหวะฉันถึงที่นี่แล้วบอกมาสิว่ามีเรื่องอะไร” ภูผาเดินกลับไปนั่งไขว่ห้างบนโซฟาหนังราคาแพงด้วยท่าทางหยิ่งยโส “หนูก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะพูดยังไง แต่เพื่อนหนูแค่อยากให้คุณช่วย เอ่อ…ปกป้องหนู” “ปกป้องเธอ? ทำไมฉันต้องปกป้องเธอ” “คือหนูหมายถึงดูแลไม่ให้มินนี่มาแกล้งหนูเฉยๆ ค่ะ” “ฉันไม่เข้าใจ” “คือว่ามินนี่เป็นเพื่อนร่วมห้องหนูค่ะ แต่มินนี่เป็นลูกสาวผู้ถือหุ้นของโรงเรียนนี้ เวลาแกล้งคนอื่นก็จะไม่มีครูคนไหนกล้าต่อว่า หรือลงโทษ เพื่อนหนูเลยคิดว่าคงจะมีแต่ผู้บริหารสูงสุดอย่างคุณที่ช่วยเรื่องนี้ได้” “จะให้ฉันทำให้คนนั้นเลิกแกล้งเธอ” “กะ…ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ แต่จริงๆ แล้วหนูไม่ได้มีปัญหาอะไร มินนี่คงทำไปเพราะความไม่ได้ตั้งใจมากกว่า” ซินอี๋พยายามแก้ต่างให้กับมินนี่ “ถ้าไม่มีปัญหาแล้วเธอจะลงทุนโดดกิจกรรมกีฬาสีมาที่นี่ทำไม” “หนูแค่ทำตามที่เพื่อนบอกค่ะ” ซินอี๋ก้มหน้าพูดด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด เธอควรจะเดินหันหลังกลับไปตั้งแต่ตอนแรก จะได้ไม่ต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์น่าอึดอัดแบบนี้ “หึ จะบอกว่าเพื่อนสั่งอะไรก็ทำ ว่างั้น?” “เราเป็นเพื่อนกันนี่คะ อะไรที่ช่วยกันได้ก็ช่วย อีกอย่างเพลงกับยูกิก็ทำเพราะหวังดีกับหนู” “งั้นเหรอ แล้วถ้าเพื่อนเธอสั่งให้เธอไปตายเธอจะไปไหม” ภูผาเอ่ยถามอย่างนึกสนุก “ทำไมคนเป็นเพื่อนกันต้องสั่งให้เพื่อนไปตายด้วยล่ะคะ เพื่อนหนูไม่พูดแบบนั้นหรอกค่ะ” “ฉันชักจะอยากรู้แล้วสิ ว่าการแสดงของเธอมันใสซื่อขนาดนั้นจริงๆ รึเปล่า” ภูผาไล่มองเรือนร่างอรชรของเด็กสาวด้วยสายตากะลิ้มกะเหลี่ย จนซินอี๋รู้สึกประหม่ากอดแจกันในมือเอาไว้แน่น “มะ…มีอะไรอีกไหมคะ หนูเล่าความจริงไปหมดแล้ว” “ของฉันที่เธอเห็น ใหญ่กว่าที่เธอเคยเห็นรึเปล่า” “หมายถึงอะไรคะ” ซินอี๋ถามกลับเมื่อไม่เข้าใจในคำถาม ทำให้เธอไม่สามารถตอบคำถามของเขาได้ “ที่เธอเห็นตอนเข้ามา ที่มันเสียบอยู่ในร่องนั้นมันใหญ่รึเปล่า” ภูผาแกล้งอธิบายด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ระ…เรื่องแบบนี้ถามกันได้ด้วยเหรอคะ” “ทำไมจะไม่ได้ ก็เธอเห็นแล้ว จะให้ฉันถามคนที่ไม่เคยเห็นรึไง” “ตะ…แต่หนูไม่เคยเห็นของคนอื่นหนูตอบคุณไม่ได้หรอกค่ะ” “งั้นฉันพาไปดูเอาไหม” “มะ…ไม่เป็นไรค่ะ” ซินอี๋รีบปฏิเสธทันที คำถามของเขากำลังทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัว “น่าเสียดายนะ เธอน่าจะไปเห็นโลกที่มันกว้างกว่านี้…ใหญ่กว่านี้” “มะ…มีใหญ่กว่านี้อีกเหรอคะ” ซินอี๋ถามด้วยความลืมตัว เพราะขนาดที่เธอเห็นมันก็ใหญ่เกินข้อมือเธอแล้วด้วยซ้ำ “หึ เธอหมายถึงอะไรล่ะ” ใบหน้าหวานเห่อร้อนขึ้นมาในทันทีเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองกำลังหลงกลเขา ทำให้เธอแทบจะไม่กล้าตอบคำถาม หรือพูดอะไรออกไปเลย “ถ้าฉันช่วยเธอ ฉันจะได้อะไรตอบแทน” ภูผาเปลี่ยนคำถาม เมื่อกลั่นแกล้งคนตัวเล็กจนพอใจแล้ว “มันเป็นหน้าที่ของคุณที่ต้องอบรมสั่งสอนให้เด็กนักเรียนเป็นคนดีไม่ใช่เหรอคะ” “นั่นสินะ งั้นฉันควรสอนให้เธอรู้จักโลกที่มันกว้างกว่านี้ก่อน เพราะโลกนี้คนดีมันอยู่ยากกว่าคนเลว”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม